บทความ

บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ผุดแคมเปญ #บิทคับไม่มีมอม้า เพิ่มความมั่นใจมาตรการสกัดกั้นบัญชีม้า
Bitkub Exchange เปิดตัวแคมเปญ #บิทคับไม่มีมอม้า ย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านมาตรฐานความปลอดภัยในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการฟอกเงินอย่างเข้มข้น หลังนำร่องระงับถอนสินทรัพย์ลูกค้าใหม่ที่ไม่ยืนยันตัวตนตั้งแต่ต้นปี 2568 พร้อมผนึกกำลังหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานและสังคมโดยรวม วันที่ 9 เมษายน 2568 บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (บริษัทฯ) ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในนาม “Bitkub Exchange” เปิดตัวแคมเปญใหม่ #บิทคับไม่มีมอม้า เพื่อสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการฟอกเงิน โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการยกระดับมาตรการต่าง ๆ ในการให้บริการ เช่น ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 Bitkub Exchangeเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำร่องการบังคับใช้มาตรการจัดการบัญชีม้า โดยบริษัทฯ ได้ออกมาตรการระงับรายการถอนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นการชั่วคราวสำหรับลูกค้าใหม่ที่สร้างบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป จนกว่าลูกค้าจะดำเนินการยืนยันตัวตนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ออกมาตรการต่าง ๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย อีกด้วย นายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า “Bitkub Exchangeมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านมาตรฐานความปลอดภัยทางการเงินในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้าอย่างจริงจัง พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอย่างเต็มที่ เพื่อขจัดปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน” นายสกลกรย์ สระกวี ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และกรรมการบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “ปัญหาบัญชีม้าเป็นปัญหาระดับชาติที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินและคุณภาพชีวิตของทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่สมควรได้รับความช่วยเหลือจากการประสานความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกัน เราจึงมีมาตรการป้องกันบัญชีม้าอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการใช้งานแพลตฟอร์มของบิทคับที่มีความปลอดภัย รวมถึงคนไทยสามารถมั่นใจได้ว่าบิทคับให้ความสำคัญในการปราบปรามปัญหาบัญชีม้าอย่างจริงจัง” บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการฟอกเงินอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป อนึ่ง บริษัทฯ อาจมีการออกมาตรการและแนวทางการจัดการบัญชีม้า อาชญากรรมเทคโนโลยีและการฟอกเงินเพิ่มเติม บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ผุดแคมเปญ #บิทคับไม่มีมอม้า เพิ่มความมั่นใจมาตรการสกัดกั้นบัญชีม้า was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Token Generation Event (TGE) คืออะไร
โลกของคริปโทเคอร์เรนซีเต็มไปด้วยตัวย่อมากมาย และหนึ่งในนั้นคำย่อที่เห็นได้บ่อยครั้งคือ TGE หรือ Token Generation Event หรือ ช่วงที่โทเคนถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชนและถูกเผยแพร่สู่สาธารณะเป็นครั้งแรก คล้ายกับการที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรกแต่ในที่นี้เป็นสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ลองนึกภาพว่ามันเป็นการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลประจำโครงการอย่างเป็นทางการ ก่อนที่ TGE จะเกิดขึ้น โครงการอาจเป็นเพียงแนวคิดหรือแพลตฟอร์มที่อยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ TGE เป็นจุดเปลี่ยนผ่านสู่การนำไปใช้งานได้จริง วัตถุประสงค์หลักของ TGE คือ การเริ่มต้นระดมทุน โครงการต่าง ๆ มักใช้สิ่งนี้เพื่อระดมทุนสำหรับการพัฒนา การตลาด และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยแลกกับการลงทุน ผู้เข้าร่วมจะได้รับโทเคนของโครงการ กระบวนการนี้ช่วยให้โครงการหลีกเลี่ยงเส้นทางเงินทุนร่วมลงทุนแบบดั้งเดิม และมีส่วนร่วมโดยตรงกับชุมชน อย่างไรก็ตาม TGE เป็นมากกว่าเครื่องมือระดมทุน แต่ช่วงเวลาานี้ยังทำหน้าที่แจกจ่ายโทเคนให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ รวมถึงนักลงทุนรายแรกๆ สมาชิกในทีม และบางครั้งก็คือสาธารณชน การแจกจ่ายนี้สร้างการหมุนเวียนเริ่มต้นของโทเคนและวางรากฐานสำหรับการใช้งานในอนาคตภายในระบบนิเวศของโครงการบนโลกบล็อกเชน ลักษณะของ TGE มีความหลากหลาย ครอบคลุมรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้: — Initial Coin Offerings (ICOs): รูปแบบในการระดมทุนแบบดิจิทัล ด้วยการเสนอขายโทเคนให้กับสาธารณชนโดยตรง — Initial Exchange Offerings (IEOs): รูปแบบในการระดมทุนโดยบริษัท มีการเสนอขายโทเคน ผ่านทางศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (Exchange) — Initial DEX Offerings (IDOs): รูปแบบระดมทุนในรูปแบบ ICO ที่จัดขึ้นบนแพลตฟอร์ม Decentralized Exchange (DEX) เพื่อลดต้นทุนในการระดมทุน เพราะการระดมทุนแบบ IEO นั้นมีค่าใช้จ่ายมากกว่า — Security Token Offerings (STOs): การใช้กระบวนการดิจิทัลหรือเทคโนโลยีบล็อกเชนในลักษณะเดียวกับการทำ ICOs แต่เป็นการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยอยู่ภายใจ้กรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวดกว่า แม้ว่า TGE จะมอบโอกาสที่น่าตื่นเต้น แต่ก็มีความเสี่ยงเนื่องจากลักษณะของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวน และไม่ใช่ทุกโครงการที่จะประสบความสำเร็จ อาจจะมีการการหลอกลวงและการฉ้อโกงปะปนอยู่ในบางโครงการ ซึ่งเป็นข้อกังวลที่ต้องตรวจสอบสถานะอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนเข้าร่วมใน TGE ใดๆ นักลงทุนควรศึกษาทีม เทคโนโลยี และแผนงานของโครงการอย่างรอบคอบ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ใช้สอยของโทเคนและวิสัยทัศน์ระยะยาวของโครงการเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ TGE มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งกำหนดให้นักลงทุนต้องรับทราบข้อมูลอยู่เสมอ โดยสรุป TGE เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับโครงการบล็อกเชน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโทเคนดิจิทัลและมักมีบทบาทสำคัญในการระดมทุนและการพัฒนาระบบนิเวศ อย่างไรก็ตามในทุกการลงทุนทางบิทคับขอเน้นย้ำให้นักลงทุนพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วน อ้างอิง : CoinMarketCap, CoinGecko — — — — — — — — — — คำเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ — — — — — — — — — — What is Token Generation Event (TGE)? The world of cryptocurrency is filled with acronyms, and one that frequently surfaces is TGE, or Token Generation Event. But what exactly is it? In simple terms, a TGE is the moment a blockchain project creates and distributes its new cryptocurrency tokens. It’s akin to a company going public, but for the digital asset realm. Think of it as the official launch of a project’s native digital currency. Before a TGE, a project might exist as an idea or a developing platform. The TGE marks the transition to a live, functioning token economy. A primary purpose of a TGE is fundraising. Projects often use them to raise capital for development, marketing, and operational expenses. In exchange for investment, participants receive the project’s tokens. This process allows projects to bypass traditional venture capital routes and directly engage with their community. However, TGEs are more than just fundraising tools. They also serve to distribute tokens to various stakeholders, including early investors, team members, and sometimes, the public. This distribution establishes the token’s initial circulation and lays the groundwork for its future use within the project’s ecosystem. The TGE landscape is diverse, encompassing various models: — Initial Coin Offerings (ICOs): The pioneering method, where projects directly sell tokens to the public. — Initial Exchange Offerings (IEOs): Conducted through centralized cryptocurrency exchanges, adding a layer of vetting. — Initial DEX Offerings (IDOs): Occurring on decentralized exchanges, offering greater accessibility and transparency. — Security Token Offerings (STOs): Where tokens represent ownership in real-world assets, falling under stricter regulatory frameworks. While TGEs offer exciting opportunities, they also come with inherent risks. The cryptocurrency market is volatile, and not all projects succeed. Scams and fraudulent activities are a concern, necessitating thorough due diligence before participating in any TGE. Investors should carefully research the project’s team, technology, and roadmap. Understanding the token’s utility and the project’s long-term vision is crucial. Furthermore, the regulatory landscape surrounding TGEs is constantly evolving, requiring investors to stay informed. In conclusion, a TGE is a significant milestone for blockchain projects, marking the birth of their digital tokens and often playing a vital role in their funding and ecosystem development. However, like any investment, it demands careful consideration and a healthy dose of skepticism. Source: CoinMarketCap, CoinGecko — — — — — — — — — — Disclaimer: Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. Token Generation Event (TGE) คืออะไร was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ข่าวรายสัปดาห์ 5–11 เมษายน: Bitcoin ETF เงินไหลเข้ามากกว่า$326 ล้าน | SEC สหรัฐฯ ไฟเขียว ETH…
ข่าวรายสัปดาห์ 5–11 เม.ย. 68: Bitcoin ETF มีเงินไหลออกมากกว่า $326 ล้าน | ก.ล.ต. สหรัฐฯ ไฟเขียว Ethereum ETF Options | วาฬ ขาย ETH พลาดกำไรสูงสุด $27 ล้าน | ข่าวคริปโตประจำสัปดาห์ 5–11 เมษายน 2568 กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีเงินไหลออกสุทธิกว่า 326 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะจาก IBIT ของ BlackRock แม้ตลาด TradFi ผันผวน แต่ Bitcoin ยังแสดงความแข็งแกร่ง ด้าน SEC สหรัฐฯ อนุมัติให้ BlackRock และ Fidelity เปิดซื้อขาย Ethereum ETF Options เพิ่มทางเลือกในการลงทุนและจัดการความเสี่ยงใน ETH ขณะเดียวกัน วาฬ Ethereum รายหนึ่งขาย ETH หลังถือมา 900 วัน ทำกำไรเพียง 2.75 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่พลาดโอกาสทำกำไรสูงสุดถึง 27 ล้านดอลลาร์ — — — — — — — — — — Bitcoin ETF มีกระแสเงินไหลออกสุทธิมากกว่า 326 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด TradFi กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin ที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ มีเงินไหลออกสุทธิมากกว่า 326 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุน ETF ของ iShares Bitcoin Trust ของ BlackRock (IBIT) มีการขายออกมากที่สุด แม้จะมีเงินไหลออกเหล่านี้ แต่ Bitcoin ยังคงรักษาความแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดั้งเดิมท่ามกลางความผันผวนของตลาด ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะที่เกิดจากสภาพคล่องในการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และหุ้นอาจอ่อนตัวลง แต่การเคลื่อนไหวของราคายังคงได้รับอิทธิพลจากสภาพคล่องทั่วโลก ทำให้นักวิเคราะห์บางคนมองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองที่มีค่าสำหรับการกระจายความเสี่ยงบนพอร์ตโฟลิโอ ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — การเก็บภาษีศุลกากรทำให้มูลค่า Bitcoin ลดลงน้อยกว่าหุ้นและน้ำมัน แต่มากกว่าพันธบัตรและทองคำ ราคา Bitcoin ลดลงในเดือนเมษายน โดยพลิกกลับจากกำไรส่วนใหญ่ในไตรมาสแรก เนื่องจากตลาดทั่วโลกตอบสนองต่อความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน การลดลงของราคา Bitcoin ซึ่งเชื่อมโยงกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ ที่ยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง ราคาน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และหุ้นเข้าสู่เขตการปรับฐาน แต่ที่น่าสนใจคือราคา Bitcoin ลดลงน้อยกว่าราคาหุ้นและน้ำมัน แต่ลดลงมากกว่าราคาพันธบัตรและทองคำในช่วงที่ตลาดผันผวนจากภาษีศุลกากร Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — ก.ล.ต. สหรัฐฯ ไฟเขียวให้ BlackRock และ Fidelity เปิดการซื้อขายแบบ Ethereum ETF Options สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้อนุมัติให้ Nasdaq และ Cboe จดทะเบียนและซื้อขาย Ethereum ETF Options จาก BlackRock และ Fidelity โดยเฉพาะ iShares Ethereum Trust (ETHA) และ Fidelity Ethereum Fund (FETH) การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย Options ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่เหล่านี้ได้ ซึ่งจะทำให้พวกเขามีเครื่องมือที่ซับซ้อนมากขึ้นสำหรับการจัดการความเสี่ยงและเก็งกำไรในราคาของ Ethereum สัญญา Options ที่ได้รับการอนุมัติจะยึดตามกฎเกณฑ์ รวมถึงสถานะการถือครองและขีดจำกัดการใช้สิทธิ์ที่ 25,000 สัญญา ซึ่งสะท้อนถึงกรอบการทำงานที่ใช้สำหรับ ETF ของ Bitcoin ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลได้รับการยอมรับมากขึ้นภายในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ที่มา : Cryptoslate — — — — — — — — — — วาฬ Ethereum ขาย ETH หลังผ่านไป 900 วัน พลาดกำไรสูงสุด 27 ล้านดอลลาร์ วาฬ Ethereum ที่ซื้อ ETH จำนวน 10,000 เหรียญในปี 2022 ในราคา 13 ล้านเหรียญ ได้ขายสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือครองหลังจากผ่านไป 900 วัน และได้รับกำไรเพียง 2.75 ล้านเหรียญ การขายครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ ETH ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1,578 เหรียญ ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดที่ 4,015 เหรียญในช่วงเวลาที่วาฬถือครองอย่างมาก ซึ่งหมายความว่าพวกเขาพลาดกำไรที่อาจสูงถึง 27 ล้านเหรียญ ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — กิจกรรมของนักพัฒนา Web3 ลดลงเกือบ 40% ในรอบหนึ่งปี ข้อมูลจาก Artemis Terminal เผยให้เห็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในจำนวนนักพัฒนาที่ใช้งานอยู่ภายในพื้นที่ Web3 โดยลดลงเกือบ 40% จาก 12,380 รายในเดือนมีนาคม 2024 เหลือประมาณ 7,600 รายในเดือนมีนาคม 2025 การลดลงอย่างมากของกิจกรรมของนักพัฒนาทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนและความสามารถในการดำรงอยู่ในระยะยาวของระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจ ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly News (April 5–11, 2025): BTC ETFs: $326m Net Outflows | SEC Approves Ethereum ETF Options Trading | Long-Term Holder Sells ETH, Missing Potential $27m Profit Crypto News of the Week, April 5–11, 2025. Bitcoin ETFs in the U.S. saw net outflows of over $326 million, with the largest from BlackRock’s IBIT. Despite volatility in the traditional finance (TradFi) market, Bitcoin continues to show resilience. Meanwhile, the U.S. SEC has approved BlackRock and Fidelity to launch Ethereum ETF Options, offering investors more tools for ETH exposure and risk management. At the same time, an Ethereum whale sold off their ETH holdings after 900 days, earning only $2.75 million in profit — missing a potential peak profit of up to $27 million. — — — — — — — — — — BTC ETFs see $326M in net outflows as Bitcoin’s TradFi dynamic evolves US-listed spot Bitcoin exchange-traded funds (ETFs) experienced over $326 million in net redemptions, with BlackRock’s iShares Bitcoin Trust ETF (IBIT) registering the largest sell-off. Despite these outflows, the article highlights Bitcoin’s relative strength compared to traditional assets amidst market volatility, a characteristic attributed to its continuous 24/7 trading liquidity. While the correlation between Bitcoin and equities might be weakening, its price movements are still influenced by global liquidity conditions, leading some analysts to consider it a valuable reserve asset for portfolio diversification. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Tariffs caused Bitcoin to decline less than equities and oil yet more than bonds and gold Bitcoin experienced a decline in April, reversing much of its gains from the first quarter, as global markets responded to increasing trade tensions between the US and China. This downturn in Bitcoin’s price, linked to the ongoing US trade war, occurred amidst a broader repricing of assets, which saw declines in Treasury yields, a significant drop in oil prices, and equities entering correction territory. Interestingly, Bitcoin’s decline was less severe than that of equities and oil but greater than the declines observed in bonds and gold during this period of tariff-induced market volatility. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — SEC Greenlights Ethereum ETF Options Trading for BlackRock and Fidelity The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) has approved Nasdaq and Cboe to list and trade options on spot Ethereum (ETH) exchange-traded funds (ETFs) from BlackRock and Fidelity, specifically the iShares Ethereum Trust (ETHA) and the Fidelity Ethereum Fund (FETH). This decision allows investors to engage in options trading on these newly established ETH ETFs, providing them with more sophisticated tools for managing risk and speculating on the price of Ethereum. The approved options contracts will adhere to standard ETF options rules, including a 25,000-contract position and exercise limit, mirroring the framework used for Bitcoin ETFs, signaling a growing acceptance of crypto-related investment products within traditional financial markets. Source: Cryptoslate — — — — — — — — — — Ethereum whale sells ETH after 900 days, missing $27M peak profit An Ethereum whale who had purchased 10,000 Ether (ETH) in 2022 for $13 million sold their entire holdings after 900 days for a profit of just $2.75 million. This sale occurred when ETH was trading around $1,578, significantly lower than its peak of $4,015 during the whale’s holding period, meaning they missed out on a potential $27 million in profit. The significant of whale movements in the crypto market, including potential losses by a Donald Trump-backed project and instances of whales either avoiding liquidation or facing substantial losses through liquidation. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Web3 developer activity drops nearly 40% in one year Data from Artemis Terminal reveals a significant decline in the number of active developers within the Web3 space, falling by nearly 40% from 12,380 in March 2024 to approximately 7,600 in March 2025. This substantial decrease in developer activity has raised concerns regarding the long-term viability and growth of the decentralized web ecosystem. The potential shift towards more speculative “narrative-led” developments, such as memecoins, which, while popular, may not contribute to the fundamental and sustainable advancement of the Web3 industry. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. ข่าวรายสัปดาห์ 5–11 เมษายน: Bitcoin ETF เงินไหลเข้ามากกว่า$326 ล้าน | SEC สหรัฐฯ ไฟเขียว ETH… was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Bitkub Exchange จับมือ The Issuer, Boutique และ Token X ดึงตลาดอสังหาฯ ปฏิวัติยุคใหม่ Tokenization
Bitkub Exchange จับมือ The Issuer, Boutique และ Token X ดึงตลาดอสังหาฯ ปฏิวัติยุคใหม่ Tokenization ในไทย เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Exchange ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ The Issuer, Boutique Corporation (BC) และ Token X เพื่อนำพายุคใหม่ของการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคนดิจิทัล (Tokenization) สู่ประเทศไทย พร้อมมุ่งมั่นให้ความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (RWAs) และ Tokenization แก่ผู้ใช้งานชาวไทย ความร่วมมือนี้ มุ่งส่งเสริมการให้ความรู้และการเข้าถึง Tokenization ผ่าน Bitkub Exchange ที่จะแบ่งปันความรู้และกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับ RWAs และ Tokenization แก่ผู้ใช้งานชาวไทย มีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสการลงทุนใน RWAs และ Tokenization สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใหม่ ๆ ได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Bitkub Exchange คุณอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวว่า “Bitkub Exchange มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำนวัตกรรมทางการเงินมาขยายโอกาสสู่ประเทศไทย ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับตลาด Tokenization ในประเทศไทยที่จะช่วยปลดล็อคศักยภาพของสินทรัพย์และเพิ่มโอกาสการลงทุน นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ” คุณอริน รัตนโกวิท กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสินทรัพย์ บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด เผยว่า “เรามีวิสัยทัศน์ด้านการลงทุนในการผสานความร่วมมือกับ Token X ผ่าน “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” (Summer Point Token) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ด้านการลงทุนผ่านการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือ Tokenization โดยมีระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์อ้างอิง บนทำเลไพร์มแอเรีย โดยใช้เงินลงทุนขั้นต่ำที่ 500 บาท และสามารถซื้อขายโทเคนในตลาดรองได้ตลอด 24 ชั่วโมง นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาตลาดการลงทุนแห่งอนาคตที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์อย่างลงตัว” คุณจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) บริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX ในฐานะผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) กล่าวว่า “Token X มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Bitkub Exchange, The Issuer Co.,Ltd และ Boutique Co.,Ltd เราต้องการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ วงการสินทรัพย์ดิจิทัล และโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย เพื่อให้นักลงทุนชาวไทยสามารถเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ ได้ โดยประเทศไทยมีความพร้อมทั้งในด้านเทคโนโลยี ผู้ให้บริการ ผู้กำหนดนโยบาย และข้อกำหนดต่าง ๆ ที่มีความชัดเจน สำหรับความร่วมมือนี้ TokenX มุ่งนำเทคโนโลยีบล็อกเชน Tokenization และสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) มาผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ในการลงทุนที่จะมีส่วนร่วมในค่าเช่าของอาคารสำนักงานให้เข้าถึงได้สำหรับนักลงทุนทุกระดับในระยะยาว” คุณปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า “เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของโครงการซัมเมอร์พอยท์ที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องและใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิงของ Summer Point Token ซึ่งเป็นโครงการนำร่องในการเปิดโอกาสการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ผ่านรูปแบบ ICO โดยมุ่งเน้นการสร้าง Ecosystem สำหรับโทเคนคุณภาพที่สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวได้ เพื่อนำไปสู่การต่อยอดพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ในอนาคต พร้อมรองรับการเติบโตของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว” เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน โทเคนดิจิทัลประเภท Real Estate-backed Investment Token เป็นนวัตกรรมทางการเงินในกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัลที่เชื่อมโยงรายได้กับสินทรัพย์อ้างอิง เช่น อสังหาริมทรัพย์ โดยออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใหม่ — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: — คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ Bitkub Exchange จับมือ The Issuer, Boutique และ Token X ดึงตลาดอสังหาฯ ปฏิวัติยุคใหม่ Tokenization was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.
บัญชีม้า คืออะไร?” ส่องมาตรการคุมเข้มและวิธีป้องกันตัวจากบัญชีม้า
บัญชีม้า คือ บัญชีที่ถูกเปิดขึ้นหรือถูกนำไปใช้ โดยบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่เจ้าของ และมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การฟอกเงิน บัญชีม้าจึงเป็นวิธีการที่ผู้กระทำผิดกฎหมายส่วนมากนิยมใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำผิดกฎหมาย โดยการเปิดบัญชีม้าอาจกระทำโดย (1) ผู้เป็นเจ้าของบัญชีเนื่องจากถูกหลอกลวงหรือจงใจรับจ้าง เพื่อขายบัญชีให้แก่ผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือ (2) มิจฉาชีพ เช่น การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ผ่านมา ผู้กระทำผิดกฎหมายมักจะมีการเปิดบัญชีม้าในลักษณะบัญชีเงินฝากธนาคาร เพื่อนำมาใช้เป็นช่องทางการทำธุรกรรมทางการเงินในการหลบหนีการบังคับตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน พบว่า ผู้กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิจฉาชีพ มีการใช้งานบัญชีม้าในลักษณะอื่นเพิ่มและหลากหลายมากขึ้น เช่น บัญชีสำหรับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) หรือบัญชีสำหรับบริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยเหตุนี้ รัฐบาล โดยความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (BDE) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รวมถึงหน่วยงานภาครัฐในฝั่งตลาดทุนของประเทศไทย กล่าวคือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และภาคเอกชน เช่น สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) จึงได้มีการประสานงานและพยายามร่วมกันสร้างมาตรการต่าง ๆ เพื่อตัดวงจรบัญชีม้าให้หายไปจากสังคมไทย อันจะเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนชาวไทยสามารถทำธุรกรรมทางเงินได้อย่างปลอดภัยต่อไป บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า โดยบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ได้เป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่นำร่องในการให้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ในการบูรณาการแนวทางการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า อาชญากรรมเทคโนโลยีและการฟอกเงินด้วย ป้องกันตัวจากบัญชีม้าได้อย่างไร ? การป้องกันตัวเองจากบัญชีม้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่อาชาญากรรมออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อป้องกันตัวเอง บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ขอให้ท่านใช้ความระมัดระวังในการทำธุรกรรมใด ๆ และโปรดดำเนินการต่อไปนี้ — อย่าเปิดบัญชีผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล บัญชีธนาคารหรือบัญชีสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินใด ๆ ให้แก่ผู้อื่น — อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล บัญชีธนาคารหรือบัญชีสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน — ระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลอื่น เช่น ข้อมูลทางการเงิน บัตรประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร รหัส OTP รวมถึงซิมการ์ดโทรศัพท์ — ตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล บัญชีธนาคารหรือบัญชีสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติใด ให้รีบแจ้งผู้ให้บริการในทันที เพื่อขอคำแนะนำ ระงับบัญชี รวมถึงดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็น มาตรการคุมเข้มบัญชีม้า ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ยกระดับมาตราการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า ไม่ว่าจะด้วยการระงับการทำธุรกรรมหรือจำกัดการใช้งาน เพื่อจำกัดการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้กระทำผิดกฎหมายหรือทำให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทยได้แบ่งประเภทของบัญชีม้าและมาตรการต่าง ๆ ออกเป็นทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้ ภาพแสดงการแบ่งระดับสีบัญชีม้า — ที่มา ธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้มีนโยบายขยายวงกว้างในการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีม้าไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น กรณีนี้ จึงเกิดความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ ในการบูรณาการความร่วมมือในการปิดช่องโหว่เส้นทางเงินของมิจฉาชีพร่วมกัน ดังเหตุผลข้างต้น บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์จึงได้มีการออกมาตรการเกี่ยวกับบัญชีม้าแล้ว โดยสามารถศึกษารายละเอียดได้ ดังต่อไปนี้ — การปรับมาตรการอนุมัติรายการถอนสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับลูกค้าใหม่ เพื่อให้ความร่วมมือตามนโยบายการจัดการบัญชีม้าของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่นี่ — มาตรการจัดการบัญชีม้า ที่นี่ — เงื่อนไขการให้บริการสำหรับลูกค้าใหม่ที่รับอนุมัติการเปิดบัญชีตั้งแต่วันที่ 31/03/2568 เป็นต้นไป ตามมาตรการจัดการบัญชีม้า ที่นี่ ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านได้ทราบข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับมาตรการและแนวทางการจัดการบัญชีม้า อาชญากรรมเทคโนโลยีและการฟอกเงินบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์จะบังคับใช้เพิ่มเติม บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ขอให้ท่านโปรดติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางการสื่อสารหลักของบิทคับ เอ็กซ์เชนจ์อย่างใกล้ชิดต่อไป รู้หรือไม่ “บัญชีม้า” โทษหนัก ทั้งปรับและจำคุก ปัจจุบัน พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่าผู้รับจ้างเปิดบัญชี หรือยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัญชีธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรับโอนเงิน หรือรับชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ได้มาโดยการกระทำความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2–5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000–500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อ้างอิง : — หยุด “บัญชีม้า” สกัดขา “มิจฉาชีพ” — ธนาคารแห่งประเทศไทย — ธปท. ยกระดับมาตรการจัดการบัญชีม้าเพิ่มเติมและผลักดันแนวทางการร่วมรับผิดชอบ — ธนาคารแห่งประเทศไทย บัญชีม้า คืออะไร?” ส่องมาตรการคุมเข้มและวิธีป้องกันตัวจากบัญชีม้า was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Daily Trade KAIA แจก KAIA สูงสุด 30 KAIA เพียงเทรดขั้นต่ำวันละ 500 บาท
กิจกรรม: Daily Trade KAIA แจก KAIA สูงสุด 30 KAIA เพียงเทรดขั้นต่ำวันละ 500 บาท ระหว่าง: วันที่ 10 เม.ย. 68 – 24 เม.ย. 68 ลงทะเบียนผ่านลิงก์: https://form.bitkub.com/daily-trade-kaia-apr25 ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1. กิจกรรม เทรดทุกวัน รับทุกวัน Mini DApps Summer วันละ 2 KAIA รับรวมสูงสุด 30 KAIA (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2. แจก KAIA สูงสุด 30 KAIA จำกัด 1,000 สิทธิ์ เพียงเทรดขั้นต่ำวันละ 500 บาท และซื้อ-ขายเหรียญสะสมตามเงื่อนไขดังนี้2.1 ลูกค้าต้องมีรายการซื้อ/ขายสะสม เหรียญ KAIA ขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป (ระยะเวลาตั้งแต่ วันที่ 10 เม.ย. — 24 เม.ย. 68)2.2 ลูกค้าต้องมีรายการซื้อ/ขายสะสมเป็นรายวัน ขั้นต่ำวันล่ะ 500 บาทขึ้นไป* สามารถซื้อ/ขาย ตามเงื่อนไขได้ทุกวัน ตลอดระยะเวลากิจกรรม - ตัวอย่าง - นาย A ซื้อ/ขาย เหรียญ KAIA ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. — 24 เม.ย. 68 มูลค่า 5,000 บาท และซื้อ/ขายทุกวัน มูลค่าแต่ละวันมากกว่า 500 บาทขึ้นไป รับ 30 KAIA - นาย B ซื้อ/ขาย เหรียญ KAIA ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. — 24 เม.ย. 68 มูลค่า 5,000 บาท และซื้อ/ขายเพียงแค่ วันที่ 10–15 เม.ย. 68 มูลค่าแต่ละวันมากกว่า 500 บาท รับ 10 KAIA - นาย C ซื้อ/ขาย เหรียญ KAIA ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. — 24 เม.ย. 68 มูลค่า 900 บาท และซื้อ/ขายวันที่ 10–24 เม.ย. 68 มูลค่าแต่ละวันมากกว่า 500 บาท ไม่ได้รับ KAIA 3. ระยะเวลากิจกรรมวันที่ 10 เม.ย. 68–24 เม.ย. 68 4. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้อง - ผู้ที่มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนระดับที่ 1 - ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านแบบฟอร์ม ลิงก์ https://form.bitkub.com/daily-trade-kaia-apr25 5. ทางบริษัทฯ จะพิจารณามอบรางวัลให้กับผู้ที่ลงทะเบียนในแบบฟอร์มสําเร็จก่อน และมียอดซื้อ-ขายเหรียญ KAIA สะสมตรงตามเงื่อนไขที่กําหนดเท่านั้น 6. ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และผ่านการอบรมความรู้ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเบื้องต้นและเหรียญ KAIA จากลิงก์ที่แนบไว้ในแบบฟอร์ม 7. ของรางวัลคือเหรียญ KAIA คำนวณจากมูลค่า ณ วันที่ 3 มี.ค. 68 ราคาเหรียญ KAIA เท่ากับประมาณ 4.41 บาท 8. ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 9. ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเหรียญให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 60 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 10. ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการตัดสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงสิทธิ์ในการรับของรางวัลในกิจกรรม หากผู้ร่วมกิจกรรมไม่ให้ความยินยอมในการเข้าถึงข้อมูล 11. ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 365 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 12. ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 13. ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 14. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 15. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่: https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ Daily Trade KAIA แจก KAIA สูงสุด 30 KAIA เพียงเทรดขั้นต่ำวันละ 500 บาท was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.
Crypto Asset Management คืออะไร?
บทความนี้จะเจาะลึกแนวคิดและประโยชน์ของ Crypto Asset Management เครื่องมือสำคัญในการบริหารพอร์ตคริปโตที่ช่วยให้นักลงทุนติดตาม จัดสรร และวางกลยุทธ์ลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่ามกลางตลาดที่ผันผวนและเติบโตอย่างรวดเร็ว Crypto Asset Management คืออะไร? Crypto Asset Management คือ แนวคิดปฏิบัติของการซื้อและขายสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ เช่น คริปโทเคอร์เรนซี, ดิจิทัลโทเคน หรือ Non-Fungible Token (NFT) เพื่อเอาไปใช้ในการลงทุน พร้อมทั้งบริหารพอร์ตโฟลิโอเพื่อให้มูลค่ารวมเติบโตขึ้น โดยแนวคิด asset management ไม่ใช่แนวคิดปฏิบัติใหม่ แต่การเน้นไปที่การจัดการสินทรัพย์คริปโตมีการให้ความสําคัญมากขึ้น เพราะเรื่องของคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มีกระแสความนิยมที่สูงขึ้นและดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยข้อแตกต่างต่างระหว่าง crypto asset management และ asset management หลัก ๆ คือการรวมทรัพย์สินที่ถูกโทเคนไนซ์ (Tokenized Assets) ซึ่งจะหมายถึงสินทรัพย์ที่มีการถ่ายโอนมูลค่าไปยังบล็อกเชน ข้อดีของ Crypto Asset Management 1. การรวมพอร์ตการลงทุน Crypto Asset Management จะช่วยรวมพอร์ตการลงทุนจากแพลตฟอร์ม กระเป๋าเงิน และ exchange ต่าง ๆ ไว้ในจุดเดียว เป็นการลดความซับซ้อนและความเสี่ยงจากหลากหลายบัญชี 2. เพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการพอร์ต อีกประโยชน์หลัก ๆ ของ Crypto Asset Management คือ การช่วยให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์และเครื่องมือต่าง ๆ ในการจัดสรรพอร์ตของตนเอง เช่น การกระจายความเสี่ยง การลงทุน และการบริหารความเสี่ยงตามที่นักลงทุนได้ตั้งเป้าไว้ 3. การติดตามของผลลงทุน Crypto asset management ช่วยให้นักลงทุนได้รับรู้ถึงข้อมูลที่จัดเจนและเชิงลึก (insights) เช่น ผลตอบแทน ความผันผวน ค่าธรรมเนียม ภาษี ซึ่งสามารถให้นักลงทุนเอาข้อมูลไปประเมินผลได้และปรับกลยุทธ์ตามความจําเป็น 4. การติตตามพอร์ตและการตัดสินใจลงทุน อีกข้อดีของ Crypto Asset Management ช่วยให้ข้อมูลที่เป็นเรียลไทม์ และมีแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวของตลาด เช่น ความผันผวนของราคา ข่าวสาร เหตุหารณ์ และแนวโน้มต่าง ๆ ส่งผลให้นักลงทุนสามารถติดตามพอร์ตลงทุนและตัดสินใจได้อย่างแม่นยํา ทําไม Crypto Asset Management ถึงสําคัญในการลงทุน? สําหรับนักเทรดหรือนักลงทุนมือใหม่ การหาผลประโยขน์จาก Crypto Asset Management ถือว่าเป็นแนวคิดที่มีประสิทธิภาพ เพราะการใช้แนวคิด Crypto Asset Management สามารถกระจายความเสี่ยงของพอร์ตและลดความเสี่ยงได้ด้วยเช่นกัน เหตุผลหลัก ๆ ของ Crypto Asset Management ได้แก่ 1. การเติบโตของ Tokenization Tokenization คือการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์ให้กลายเป็นโทเคนดิจิทัลทําให้สามารถซื้อขายได้บนบล็อกเชน ส่วนสินทรัพย์เหล่านี้สามารถแทนสินทรัพย์ที่เป็นพื้นฐานได้ เช่น อสังหาริมทรัพย์ หุ้นนอกตลาด และสินค้าโภคภัณฑ์ วัตถุของสะสมต่างๆ นักลงทุนสามารถลงทุนในเศษส่วนของอสังหาริมทรัพย์ หรือ กองทุนนอกตลาด ซึ่งก่อนหน้า tokenization การลงทุนในลักษณะนี้มักจะเข้าถึงได้เฉพาะบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูงและสถาบันการเงินเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มของสินทรัพย์เหล่านี้ก็ตามมาด้วยความท้าทายใหม่ ๆ เพราะสินทรัพย์มักมีความซับซ้อนและขาดสภาพคล่องได้ ส่งผลให้การซื้อขายอาจมีปัญหาหรือเป็นไปได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น RealX เป็นโทเคนที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือคอนโดในเครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยนักลงทุนไม่ต้องมีเงินหลักแสนหลักล้านก็สามารถลงทุนในสินทรัพย์อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ได้เช่นกัน 2. Market Capitalization ของคริปโทเคอร์เรนซี Market Capitalization เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทําให้ crypto asset management สําคัญ เพราะมูลค่าตลาดรวมของคริปโทเคอร์เรนซีได้เติบโตจากไม่กี่ล้านดอลลาร์ในปี 2013 เป็นมากกว่า 2–3 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2025 ปัจจัยในการเติบโตที่สูงขนาดนี้ เกิดจากหลายปัจจัย เช่น การยอมรับของสถาบันที่เพิ่มมากขึ้น และการพัฒนา Decentralized Finance (DeFi) ใหม่ ๆ การที่มูลค่าตลาดเติบโตเพิ่มขึ้นทําให้ คริปโทเคอร์เรนซีกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสําหรับนักลงทุน ส่งผลให้การบริหารคริปโตอย่างรอบคอบเป็นสิ่งที่สําคัญมากขึ้น เพราะราคาของคริปโทเคอร์เรนซีมีการผันผวนที่สูง และราคาสามารถเปลี่ยนได้อย่างรุนแรง เจตนาของ Crypto Asset Management – การรวมศูนย์และปรับปรุงจัดการ portfolio: เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการจัดการและบริหารสิททรัพย์ช่วยในการรวมสินทรัพย์จากหลายกระเป๋าและตลาดแลกเปลี่ยน พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์และติดตามประสิทธิภาพ – ให้ความสำคัญของการบริหารสินทรัพย์: ในเมื่อการเข้าถึงคริปโตเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นทำให้การบริหาร portfolio เป็นสิ่งจำเป็นด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับการลงทุนแบบดั้งเดิม หลายบริษัทจึงพัฒนาแอปและบริการเพื่อช่วยให้การจัดการสินทรัพย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ – ความยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุนทุกระดับ: นักลงทุนสามารถเลือกใช้ระบบอัตโนมัติหรือจัดการพอร์ตโฟลิโอด้วยตนเอง ทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และนักลงทุนที่มีประสบการณ์ Crypto Asset Management ต้องทําอย่างไร? 1. แพลตฟอร์ม Crypto Asset Management หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพคือการใช้ Crypto Portfolio Tracker ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อบัญชีและกระเป๋าเงินทั้งหมดของคุณ รวมยอดคงเหลือและธุรกรรมให้อยู่ในที่เดียว โดยคุณสมบัติของ Crypto Portfolio Tracker จะช่วยแสดงมูลค่ารวมของสินทรัพย์และผลตอบแทนตามระยะเวลา,วิเคราะห์การจัดสรรสินทรัพย์และความเสี่ยงในตลาดต่างๆ, ติดตามราคาคริปโต ดูแนวโน้มตลาด และรับการแจ้งเตือน, และการเข้าถึงข่าวสารและการวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์ 2. บริษัทจัดการคริปโทเคอร์เรนซี Crypto Asset Management Companies คือบริษัทที่ให้บริการบริหารและจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี, NFT และโทเค็นต่างๆ เพื่อช่วยนักลงทุนและสถาบันทางการเงินจัดพอร์ตโฟลิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทเหล่านี้มีบริการหลัก เช่น การบริหารพอร์ตโฟลิโอโดยวิเคราะห์และจัดสรรสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทน นอกจากนี้ ยังมีกลยุทธ์การลงทุนทั้งแบบ Passive ซึ่งเน้นลงทุนระยะยาว และแบบ Active ที่ซื้อขายตามแนวโน้มตลาด ข้อสรุปของ Crypto Asset Management Crypto Asset Management คือการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโทเคอร์เรนซี, โทเค็นดิจิทัล และ NFT เพื่อการลงทุน พร้อมการบริหารพอร์ตโฟลิโอเพื่อเพิ่มมูลค่า ความสำคัญของการบริหารสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของมูลค่าตลาดและการพัฒนาของ Tokenization, ซึ่งทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการสินทรัพย์คริปโทเคอร์เรนซีจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในการลดความเสี่ยงและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ที่มา: investopedia, koinx, kubera — — — — — — — — — — — — — — — — — คําเตือน: คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ — — — — — — — — — — — — — — — — — What is Crypto Asset Management? This article explores the concepts and benefits of Crypto Asset Management — a crucial tool for managing crypto portfolios that helps investors monitor, allocate, and strategize their investments effectively amid a rapidly growing and highly volatile market. What is Crypto Asset Management? Crypto Asset Management refers to the practice of buying and selling various digital assets such as cryptocurrencies, digital tokens, or Non-Fungible Tokens (NFTs) for investment purposes, as well as managing a portfolio to increase its overall value. However, asset management is not a new concept, but the focus on ‘crypto’ asset management is emerging and gaining significance due to the growing popularity of cryptocurrencies and blockchain in recent years, which has attracted increased interest from investors. The main difference between crypto asset management and traditional asset management is mainly the inclusion of tokenized assets, which refers to assets whose value has been transferred onto the blockchain. Benefits of Crypto Asset Management? 1. Portfolio Consolidation Crypto asset management helps in consolidating different crypto portfolios from different platforms, wallets, and exchanges. This helps reduce complexity and minimizes risks associated with multiple accounts. 2. Enhanced Portfolio Efficiency Another main advantage of crypto asset management is allowing investors to apply various strategies and tools in managing their portfolios. This includes diversification, investing plan, and risk management based on the investor’s desired goal. 3. Performance Tracking Crypto Asset Management helps investors by providing in-depth insights such as returns, volatility, transaction fees, and tax implications. These factors significantly help investors in adjusting their strategies based on the data evaluated. 4. Real-Time Monitoring and Informed Decision-Making Another key-benefit is the real-time data and alerts of the market — including price volatility, news, events, and trends. This makes investors monitor their portfolios effectively and able to make informed and accurate decisions. Why Crypto Asset Management is important in investing? For beginners and traders who started trading, crypto asset management is considered an efficient approach. The concept of crypto asset management helps investors diversify and mitigate their portfolio’s risks. The reasons why crypto asset management is proficient for adoption may include: 1. Growth of Tokenization Tokenization refers to the action of converting assets into digital tokens, enabling them to be traded in the blockchain. These tokens could be the representation of real-world assets such as real estate, private equity, commodities, or collectibles. Investors could invest in a fraction of real estate or private investment funds and be a fractional owner. But before ‘tokenization’, these types of investments are made available and accessible to high-profile individuals or institutional investors. For instance, RealX is a digital asset that is backed by real estates by Origin Property Public Company Limited. This allows investors to invest in real estate without needing to invest hundreds of thousands or even millions of baht. Through tokenization, individuals can invest in fractional shares of the property and potentially earn income from rental yields. 2. Cryptocurrency Market Capitalization Market Capitalization is another reason why crypto asset management is important, because the total market capitalization has grown substantially — from a few million in 2013 to over 2–3 trillion dollars in 2025. The factors that cause this growth include increasing institutional adoption and the continuous improvement of new Decentralized Finance (DeFi) solutions. With the increase of market capitalization, cryptocurrencies have become attractive and interesting assets for investing. This results in having careful and strategic management of portfolios become more crucial, especially because of the volatility of crypto prices. Purpose of Crypto Asset Management – Centralizing Portfolio and Optimization: Crypto asset management aims to centralize assets from various wallets and exchanges, providing with tools for analyzing and performance tracking. – Emphasis on managing assets: Since access to crypto becomes easier, managing a portfolio becomes extremely necessary, just like in traditional investing. This results in many companies developing applications and services in order to help investors manage their portfolios effectively. – Flexibility for different levels of investors: These platforms offer flexibility by allowing users to choose between automated systems and manual portfolio management. This makes them suitable for both beginners and experienced investors. How to Get Started with Crypto Asset Management? 1. Crypto Asset Management Platforms One of the effective ways is to use a Crypto Portfolio Tracker, which helps connect accounts and wallets in one place, consolidating the balances and transaction history for better tracking. Investors will gain a comprehensive view of their total asset value and investment performance over time. Portfolio trackers also provide in-depth analytics of asset allocation and risks in the market, also offering crypto prices, market news, and real-time analysis. 2. Crypto Asset Management Companies Crypto Asset Management Companies offer a service that helps manage portfolios for both individuals and institutions. They help manage digital assets such as cryptocurrencies, NFTs, and other tokenized assets. Their core offerings include portfolio management strategies that are designed to reduce risk and improve returns through smart asset allocation. Depending on the investor’s goals and risks, these companies offer both passive strategies and active strategies. Summary of Crypto Asset Management Crypto Asset Management refers to the buying and selling of digital assets such as cryptocurrencies, digital tokens, and NFTs for investment purposes, along with managing a portfolio to increase its overall value. The importance of managing crypto assets has grown significantly due to the rise in market capitalization and the development of tokenization, which has made investing in various assets more accessible. However, effective crypto asset management is essential for investors to minimize risks and maximize returns on their investments. Sources: investopedia, koinx, kubera — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. Crypto Asset Management คืออะไร? was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ USDT มูลค่า 200 บาท
กิจกรรม: Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ USDT มูลค่า 200 บาท ระหว่าง: วันที่ 10 เม.ย. 68 เวลา 19:00–20:00 น. ลงทะเบียนได้ระหว่างวันที่ 8–10 เม.ย. 68 คลิก: https://form.bitkub.com/learn-and-earn-usdt-apr25 ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1.กิจกรรม Learn and Earn LIVE ตอบถูกตอบไว รับเหรียญ USDT มูลค่า 200 บาท (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2.กิจกรรมนี้เริ่มวันที่ 10 เม.ย. 68 3.ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านลิงก์ https://form.bitkub.com/learn-and-earn-usdt-apr25 ระหว่างวันที่ 8–10 เม.ย. 68 4.ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องตอบคำถามเพื่อรับของรางวัล ผ่านรายการ Learn and Earn LIVE วันที่ 10 เม.ย. 68 เวลา 19:00–20:00 น. บนเพจ Facebook : Bitkub 5.ของรางวัล คือ เหรียญ USDT มูลค่า 200 บาท หรือจำนวน 5.866 เหรียญ/รางวัล (คำนวณราคาเหรียญ USDT ณ วันที่ 11 มี.ค. 68 ประมาณ 34.10 บาท/เหรียญ) จำนวน 200 สิทธิ์ 6.ขอสงวนสิทธิ์การมอบของรางวัลให้ผู้ร่วมกิจกรรม ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้- ผู้ที่กรอกแบบฟอร์มเข้าร่วมกิจกรรมถูกต้องและครบถ้วน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าที่กรอกชื่อไม่ตรงตามบัญชี Facebook จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมทุกประการ- ผู้ที่ตอบคำถามผ่านรายการ Learn and Earn LIVE ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด- ผู้ที่มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนลำดับที่ 1 ขึ้นไป ณ วันที่เข้าร่วมกิจกรรม 7.วิธีการกรอกชื่อ Facebook ลงในแบบฟอร์ม(1) กรอกชื่อ Facebook ตรงตามที่แสดงอยู่บนหน้าเพจหรือโปร์ไฟล์(2) ต้องระบุเว้นวรรค สัญลักษณ์ เครื่องหมาย ตรงตามบัญชี Facebook ทุกประการ หากมีการเว้นวรรคหรือกรอกชื่อไม่ตรงตามบัญชี Facebook ระบบจะไม่สามารถดึงข้อมูลได้ เช่น ชื่อ Facebook ของท่านคือ Bitkub Exchange ต้องระบุว่า “Bitkub Exchange”(3) หากชื่อบัญชี Facebook มีอักขระ หรือสัญลักษณ์พิเศษ โปรดกรอกตามประเภทแป้นพิมพ์ ตามจริงที่แสดงบนบัญชี Facebook เช่น ชื่อบัญชี Facebook ของท่านคือ Kitty’ Nina โปรดตรวจสอบเครื่องหมาย ‘ บนชื่อของท่านว่าใช้แป้นพิมพ์ในหมวดภาษาเดียวกัน หากชื่อบน Facebook ของท่านใช้เครื่องหมาย ‘ โดยใช้แป้นพิมพ์หมวดภาษาอังกฤษ ให้ใช้เครื่องหมายจากประเภทแป้นพิมพ์เดียวกัน หากท่านกรอกเข้ามาโดยพิมพ์สัญลักษณ์ ’ เป็นภาษาไทย ระบบจะถือว่าไม่ตรงกัน 8.ทางบริษัทฯ จะพิจารณายึดข้อมูลจากลำดับเวลาของการตอบคำถามถูกต้องและรวดเร็วที่สุด จำนวน 200 ท่านแรก 9.ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และผ่านการอบรมความรู้ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเบื้องต้นจากลิงก์ที่แนบไว้ในแบบฟอร์ม 10.บริษัทขอสงวนสิทธิ์การลงทะเบียน 1 อีเมล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange ต่อ 1 บัญชี Facebook เท่านั้น 11.ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 12.บริษัทขอสงวนสิทธิ์การลงทะเบียนซ้ำ หากมีการลงทะเบียนมากกว่า 1 ครั้ง บริษัทจะยึดข้อมูลการลงทะเบียนครั้งแรกเท่านั้น 13.ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเหรียญ และส่งอีเมลยืนยันสิทธิ์ให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 60 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 14.ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 365 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 15.ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 16.ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 17.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 18.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ USDT มูลค่า 200 บาท was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.
รู้จัก Aevo แพลตฟอร์ม Derivative Trading บน DeFi ที่ให้ประสบการณ์เหมือน CEX บน Ethereum Layer 2
Aevo (AEVO) คืออะไร? Aevo เป็นกระดานซื้อขายแบบกระจายอำนาจ (DEX) โดยมุ่งเน้นไปด้าน Options, Perpetuals, และการเทรดก่อนเปิดตัว (Pre-launch Trading) Aevo ทํางานบน Aevo L2 ซึ่งเป็น Ethereum rollup ที่ถูกสร้างขึ้นด้วย Optimistic stack ส่งผลให้ Aevo รองรับธุรกรรมมากกว่า 5,000 ธุรกรรมต่อ 1 วินาที และมีปริมาณการซื้อขายรวมประมาณ 97.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ Aevo ทํางานแบบโมเดลผสมผสาน (hybrid) โดยมีการใข้ order book แบบ central limit แบบ off-chain เพื่อการจับคู่คําสั่งซื้อขาย และการตั้งรหัสการชำระบัญชีบน Ethereum L2 ผ่าน smart contract แนวทางนี้ช่วยให้ Aevo ทํางานแบบมีประสิทธิภาพที่สูงและมีความหน่วงตํ่าได้ ซึ่งจะคล้ายแบบ Centralized Exchange ในขณะที่รักษาความปลอดภัยและความโปร่งใสของการตั้งรหัสบัญชีแบบกระจายอํานาจ (decentralized settlement) Aevo ดําเนินการสั่งซื้อขาย (order book) แบบนอกเคลือข่าย ที่ซึ่งคำสั่งของผู้ทำตลาด (maker) และผู้รับคำสั่ง (taker) จะถูกโพสต์และจับคู่กัน — ที่มา Aevo Off-chain Orderbook and Risk Engine เทคโนโลยีของ Aevo ความปลอดภัย Aevo ใช้โครงสร้างแบบกระจายอำนาจของ Ethereum เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกรรมทั้งหมดมีความปลอดภัยและโปร่งใส โดยใช้เทคโนโลยี roll-up ในการประมวลผลธุรกรรมแบบ off-chain ก่อนที่จะทำการบันทึกข้อมูลขั้นสุดท้ายลงบนบล็อกเชน Ethereum วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงและเสริมสร้างความมั่นคงของระบบ นอกจากการให้บริการซื้อขายอนุพันธ์ เช่น Options, Perpetuals และการเทรดก่อนการเปิดตัวแล้ว Aevo ยังขยายขอบเขตเทคโนโลยีของตนไปสู่การให้บริการโซลูชันด้าน IT สำหรับธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวและนวัตกรรมของแพลตฟอร์ม โดยการที่ใช้เทคโนโลยี roll-up ของ Ethereum และ Optimism stack ทำให้ Aevo สามารถแก้ปัญหาค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่สูงและความล่าช้าในการดำเนินการ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การซื้อขายที่ราบรื่น รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รองรับความต้องการของเทรดเดอร์ยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์ ผู้ก่อตั้ง Aevo ผู้ก่อตั้ง Aevo ได้แก่ Julian Koh, Ken Chan และ Luís Felipe Carvalho ซึ่งแต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญในหลายด้านแตกต่างกัน เช่น วิศวกรรมซอฟต์แวร์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ และการบริหารธุรกิจ Julian Koh — เป็นผู้ก่อตั้ง (Co-Founder) และ CEO ของ Aevo (เดิมคือ Ribbon Finance) โดยเขาเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่ทํางานในวงการคริปโตตั้งแต่ปี 2018 ในส่วนการศึกษา Julian เคยศึกษาเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University) แต่ได้ลาออกหลังจากเรียนไปสองปี โดยมุ่งเน้นไปทางด้านการวิจัยเกี่ยวกับคริปโตและตั้งใจในสายอาชีพนี้ Ken Chan — เป็นผู้ก่อตั้ง (Co-Founder) และ CTO ของ Aevo โดยก่อนหน้าที่จะมารับตําแหน่งในปัจจุบัน Ken เคยเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ที่บริษัท Coinbase ในส่วนการศึกษา Ken ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Sunway University Luís Felipe Carvalho — เป็นผู้ก่อตั้ง (Co-Founder) ของ Aevo ในส่วนการศึกษา Luís Felipe ได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมาจาก Universidade Federal do Espírito Santo ในสาขาของวิทยาการคอมพิวเตอร์ และได้ต่อปริญญาโทในสาขา MBA ด้านการบริหารธุรกิจจาก FGV — Fundação Getulio Vargas โทเคน AEVO คืออะไร? โทเคน AEVO เป็นโทเคนของแพลตฟอร์ม AEVO โดยมีจุดประสงค์และบทบาทสําคัญบนแพลตฟอร์มคือ การ กำกับดูแล, การสเตก (Staking) และการจูงใจให้ผู้ใช้มีส่วนร่วม ในระบบนิเวศของ Aevo – กํากับดูแล Governance: ผู้ที่ถือโทเคน AEVO สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการพัฒนาโปรโตคอลของแพลตฟอร์ม – Staking: ผู้ใช้สามารถทําการ stake AEVO token เพื่อรับรางวัลและอาจได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย – การชำระค่าธรรมเนียมและส่วนลด: โทเคน AEVO สามารถเอาใช้ชำระค่าธรรมเนียมการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม โดยอาจได้รับค่าส่วนลด การกระจายเหรียญของ AEVO ข้อมูลจากเว็บไซต์ CoinMarketCap ณ วันที่ 8 เม.ย. 2025 ระบุว่าโทเคน AEVO มี Total Supply ทั้งหมดอยู่ที่ 1,000,000,000 AEVO และมี Circulating supply อยู่ที่ 903,176,281.77 AEVO โทเคน AEVO มีการแจกจ่ายดังนี้ – 36.00% — DAO Treasury – 18.5% — นักลงทุนรอบ sale เริ่มต้น – 23.00% — ทีม Aevo – 10.3% — RBN ที่เหลืออยู่ในระบบหมุนเวียน – 2.00% — ผู้สร้างสภาพคล่อง – 2.70% — คลังของบริษัท – 3.00% — Airdrop – 4.50% — Binance Launchpool ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ AEVO ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2025 เหรียญ AEVO มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 78,210,708.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2,706,087,372.15 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ AEVO ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.08656 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.95 บาทต่อ 1 AEVO โดย AEVO เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 3.86 ดอลลาร์ หรือประมาณ 131.39 บาท ต่อ 1 AEVO เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2024 ที่มา: coinmarketcap, tokenomist, Aevo — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Explore Aevo: A DeFi Derivatives Trading Platform Offering a CEX-Like Experience on Ethereum Layer 2 What is Aevo (AEVO)? Aevo is a decentralized exchange (DEX) focused on options, perpetuals, and pre-launch trading. It operates on Aevo L2, an Ethereum rollup built using the Optimistic stack. This allows Aevo to handle over 5,000 transactions per second, with a total trading volume of approximately $97.37 billion. Aevo uses a hybrid model, employing an off-chain central limit order book for order matching, while settlement is conducted on Ethereum L2 via smart contracts. This approach enables Aevo to offer high efficiency and low latency, similar to a centralized exchange, while maintaining the security and transparency of decentralized settlement. Aevo operates an off-chain order-book where maker and taker orders are posted and matched — Source: Aevo Off-chain Orderbook and Risk Engine Technology of Aevo The security of Aevo uses an infrastructure of Ethereum decentralized structure to ensure that all transactions are secure and transparent. By using the roll-up technology, transactions are processed off-chain before the final data is recorded on the Ethereum blockchain. This method subsequently reduces the risk of fraud and makes the overall security of the system stronger. In addition to offering derivative trading services such as options, perpetuals, and pre-launch trading, Aevo is also expanding its technology to provide IT solutions for businesses. This reflects that the platform is adaptable and innovative. By adopting Ethereum roll-up technology and the Optimism stack, Aevo effectively addresses issues such as high transaction fees and delays in execution, resulting in a smooth, fast, and efficient trading experience, fully meeting the needs of modern traders. Who Founded Aevo? The founders of Aevo consist of Julian Koh, Ken Chan and Luís Felipe Carvalho. Each individual has their expertise such as software engineering, computer science, and business management. Julian Koh — is the Co-Founder and CEO of Aevo (formerly Ribbon Finance). He is a software engineer that has been working around the crypto industry since 2018. In terms of his education, Julian Koh studied Computer Science at Cornell University, but dropped out later after 2 years and decided to focus and pursue his career in the crypto industry. Ken Chan — is the Co-Founder and CTO of Aevo. Before his current role, Ken Chan works as a software engineer at Coinbase. In terms of his education, he finished his education at Sunway University. Luís Felipe Carvalho — Co-Founder of Aevo. He holds a bachelor’s degree in Computer Science from Universidade Federal do Espírito Santo and later earned an MBA in Business Administration from FGV — Fundação Getulio Vargas What is the AEVO Token? The AEVO token is a native token of the Aevo platform, having key roles in the ecosystem such as governance, staking, and incentives for user participation. – Governance: Users who hold the AEVO token can participate in decision-making processes in terms of developing and the direction of the protocol. – Staking: Users could stake AEVO tokens to earn rewards or receive trading fee discounts. – Fee Payments and Discounts: AEVO token could be used for the payment of trading fees within the platform, with the potential benefit of getting payment discounts. AEVO Token Distribution According to CoinMarketCap data as of April 8, 2025, the total supply of AEVO tokens is 1,000,000,000 AEVO, with a circulating supply of 638,099,970 AEVO The AEVO tokens are distributed as follows: – 36.00% — DAO Treasury – 18.5% — Initial private sale investors – 23.00% — Aevo Team – 10.3% — Remaining RBN in circulation – 2.00% — Market makers – 2.70% — Company treasury – 3.00% — Airdrop – 4.50% — Binance Launchpool Interesting Facts About AEVO’s Price According to Coinmarketcap data on April 8, 2025, AEVO has a market capitalization of $78,210,708.74, or 2,706,087,372.15 Thai Baht. At the time of writing, AEVO is trading at approximately 0.08656 USD, or about 2.95 THB per AEVO. AEVO reached its all-time high of 3.86 USD, or about 131.39 THB, on March 28, 2024. Sources: coinmarketcap, tokenomist, Aevo — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. - Returns/Past Performance does not guarantee future returns/performance. รู้จัก Aevo แพลตฟอร์ม Derivative Trading บน DeFi ที่ให้ประสบการณ์เหมือน CEX บน Ethereum Layer 2 was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.