บทความ
รวมข่าวคริปโตรายสัปดาห์: ADA เริ่มอัปเกรด Vasil Hard Fork แล้ว
เรารวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาให้อ่านกันที่นี่แล้ว ไปดูกันเลย!
*เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด
===================
ADA เริ่มอัปเกรด Vasil Hard Fork แล้ว คาดใช้เวลา 5 วัน
การอัปเดตครั้งสำคัญของเครือข่าย Cardano (ADA) หรือ Vasil Hard Fork เริ่มต้นขึ้นแล้วในคืนพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยจะเป็นการอัปเดตเพื่อขยายขนาดให้เครือข่าย ลดค่าธรรมเนียม และทำให้เครือข่ายมีความเร็วที่สูงขึ้น โดยคาดว่าจะอัปเดตสำเร็จภายในวันที่ 27 กันยายน ที่จะถึงนี้
นอกจากการเพิ่มขนาดของบล็อกแล้ว Vasil Hard Fork จะมีการอัปเดตในส่วนของภาษา Plutus ที่เป็นภาษาโปรแกรมสำหรับการเขียน Smart Contract บน Cardano โดยการอัปเกรด Plutus V2 จะสามารถทำงานโดยใช้โค้ดที่น้อยลง ซึ่งจะทำให้ค่าธรรมเนียมในการรัน Smart Contract ลดลงตามมาด้วย
ที่มา Decrypt
===================
MicroStrategy ซื้อเพิ่ม 301 BTC ถือรวม 130,000 BTC
Michael Saylor ประธานบริษัท MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือ Bitcoin มากที่สุด ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่า บริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 301 BTC ที่ราคาเฉลี่ย 19,851 ดอลลาร์ รวมเป็นมูลค่าประมาณ 6 ล้านดอลลาร์
การช้อนซื้อครั้งนี้ทำให้ Microstrategy ถือครองบิตคอยน์รวมทั้งหมด 130,000 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.48 แสนล้านดอลลาร์ สะท้อนว่า Michael Saylor และบริษัท MicroStrategy ยังคงเชื่อมั่นใน Bitcoin และไม่ได้กังวลต่อสภาพตลาดในปัจจุบันเท่าไหร่
ที่มา Cointelegraph
===================
FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก +0.75% ตามคาด
เมื่อคืนวันพุธสัปดาห์นี้ FED ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก +0.75% สู่ระดับ 3.00–3.25% และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย +0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ แต่ทัั้งตลาดหุ้นและคริปโทเคอร์เรนซีต่างก็ถูกเทขายหลังทราบข่าวจนปรับลดลงตาม ๆ กัน
สาเหตุที่ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงถูกเทขายหนัก มาจากตัวเลข Dot-Plot ที่ทาง FED ส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงระดับ 4.40% ภายในสิ้นปี 2022 นี้ และอาจไปถึงระดับ 4.60% ภายในปี 2023
นอกจากนี้ FED ยังได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของสหรัฐฯ ลงเหลือ 0.2% สำหรับปีนี้ จึงเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับตลาดอย่างมาก
ที่มา tps://decrypt.co/110240/bitcoin-dips-fed-rate-hike-inflation">Decrypt
===================
อัตราเหรียญ ETH เกิดใหม่ลดลง 95% หลัง The Merge
ข้อมูลจาก ultrasound.money เผย อัตราการเพิ่มขึ้นอุปทานเหรียญ ETH ลดลงกว่า 95% หลังการอัปเดต The Merge เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยจำนวนเหรียญใหม่ที่เกิดขึ้นบน Ethereum จากเดิมที่ประมาณ 12,500 ETH ต่อวัน ลดลงมาเหลือ 772 ETH ต่อวัน
จากข้อมูลดังกล่าว อาจมีความเป็นไปได้ที่อุปทาน ETH อาจเข้าสู่ภาวะ Deflationary หากจำนวนเหรียญเกิดใหม่มีน้อยกว่าจำนวนเหรียญที่ถูกเบิร์นภายใต้ EIP-1559 ที่ประกาศใช้เมื่อเดือนสิงหาคม 2021 โดยเป็นมาตรฐานที่กำหนดให้ค่าธรรมเนียม (Gas fee) ส่วนหนึ่งถูกทำลายเพื่อควบคุมอัตราเฟ้อของเหรียญ แต่ ณ ปัจจุบัน (23 กันยายน 2022) จำนวนเหรียญเกิดใหม่ยังคงมีมากกว่าเหรียญที่ถูกเบิร์น
ที่มา Decrypt
===================
OpenSea เตรียมรองรับ NFT จากเครือข่าย Arbitrum
ตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง OpenSea ประกาศเพิ่มการรองรับเครือข่าย Arbitrum ที่เป็นหนึ่งใน Layer-2 ของ Ethereum แล้วในสัปดาห์นี้ ทำให้ปัจจุบัน OpenSea สามารถรองรับบล็อกเชนได้ 5 เครือข่าย ได้แก่ Ethereum, Solana, Polygon, Klaytn, และ Arbitrum
Arbitrum นับว่าเป็นเครือข่ายที่มีปริมาณการซื้อขาย NFT อยู่ในระดับค่อนข้างสูง ยกตัวอย่าง คอลเลกชัน The Seed of Life ที่มีปริมาณซื้อขายรวม 11.79 ล้านดอลลาร์ หรือ Legions Genesis ที่ 11.25 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าปริมาณซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากการรองรับโดย OpenSea
ที่มา Decrypt
===================
ราคา ApeCoin ปรับขึ้นสัปดาห์นี้ จากกระแสเปิดตัว Staking Program
ราคาของ ApeCoin (APE) ปรับขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 30 วันแถว 6.12 ดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า Staking Program จะถูกเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
โดยในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ทาง Horizen Labs ได้โพสตัว Sneak peek สำหรับ UI ของ Staking
Program ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ผู้ถือ ApeCoin รวมถึง NFT ของ Bored Ape และ Mutant Ape สามารถนำโทเคนมาล็อกและรับรางวัลไปได้ โดยถูกคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2022 (ช่วงเดือนกันยายน — ต้นเดือนธันวาคม)
ที่มา Decrypt
===================
ร่างกฏหมายใหม่ของสหรัฐฯ อาจแบน Algorithmic Stablecoin
Bloomberg รายงานว่า ร่างกฏหมายใหม่ฉบับใหม่ของสหรัฐฯ ที่เกี่ยวกับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล อาจพิจารณาแบน Stablecoin แบบ Algorithmic เป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย LUNA กับ TerraUSD เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ Stablecoin แบบ Algorithmic แตกต่างจาก Stablecoin ที่ตลาดคุ้นเคยกันดีอย่าง USDT หรือ USDC เนื่องจากทั้ง 2 เหรียญดังกล่าวมีเงินดอลลาร์ค้ำอยู่จริง แต่ Algorithmic Stablecoin จะใช้ Smart Contract ในการควบคุมราคาผ่านการเพิ่ม-ลดอุปทานของเหรียญแทน
เหตุการณ์ของ LUNA ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความสูญเสียเป็นมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ทั่วโลกภายในเวลาไม่กี่วัน จึงทำให้รัฐบาลทั่วโลกถูกกดดันให้เร่งหามาตรการมาควบคุมเป็นการด่วน
ที่มา Decrypt
===================
ติดตามบทความ ข่าวสาร และความรู้ที่น่าสนใจในวงการคริปโตได้ที่ Bitkub Blog
เรียนรู้เรื่อง บิทคอยน์ (Bitcoin) และ Cryptocurrecy ที่น่าสนใจก่อนเริ่มลงทุน
สมัครบัญชี Bitkub เพื่อ trade Cryptocurrency ได้แล้ววันนี้ คลิกเลย www.bitkub.com/signup
*สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน
***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
ที่มา:
Medium