บทความ

news

ทำความรู้จัก MARBLEX เปลี่ยนการเล่นเกมแบบดั้งเดิม สู่นวัตกรรม Blockchain Ecosystem

ทำความรู้จัก MARBLEX เปลี่ยนการเล่นเกมแบบดั้งเดิม สู่นวัตกรรม Blockchain Ecosystem

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 21 ม.ค. 68 |อ่าน: 5,186
news

CARV ผู้พัฒนาบล็อกเชนด้วย AI Chain Ecosystem ยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์แบบกระจายอำนาจ

CARV คืออะไร? CARV เป็น AI Chain Ecosystem ที่นำ Artificial General Intelligence (AGI) มาใช้ โดยมี CARV SVM Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย และมีความสามารถในการขยายตัวสูง ช่วยทำให้นักพัฒนาสามารถกำหนดรูปแบบของข้อมูล สำหรับการเป็นเจ้าของข้อมูล การแบ่งปัน และการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยการรวมเอาจุดเด่น Solana Virtual Machine (SVM) ที่มีความสามารถด้านความสามารถด้านการปรับขนาดรวมเข้ากับ Ethereum ที่โดดเด่นด้านความปลอดภัยและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ทำให้ CARV SVM Chain กลายมาเป็นผู้บุกเบิกยุคใหม่ของการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ ที่ AI Agents สามารถทำงานได้อัตโนมัติและปลอดภัย ปัจจุบัน CARV มีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 15 ล้านคน มีการนำไปใช้งานร่วมกับโปรเจ็กต์เกมมากกว่า 900 เกม และยังมีบล็อกเชนอีกมากกว่า 40 บล็อกเชนที่เข้าร่วม เป็นก้าวสำคัญของการปลดล็อกอนาคตของระบบนิเวศที่ใช้ AI ขับเคลื่อนระบบนิเวศ AI Chain Ecosystem ของ CARV เสริมพลังให้ AI เอเจนต์ด้วยโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ชาญฉลาด และร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น — SVM Chain เป็นระบบฉันทามติที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง การเข้ารหัสข้อมูล และการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้มั่นใจถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับ AI — D.A.T.A (Data Authentication, Trust, and Attestation) เป็น Framework ที่มอบข้อมูลคุณภาพสูงทั้งแบบบนเครือข่าย และนอกเครือข่าย พร้อมด้วย tags และ metrics ช่วยให้ AI Agents สามารถเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ CARV และ CARV ID ยังช่วยทำให้การเป็นเจ้าของข้อมูล และความเป็นส่วนตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและสร้างรายได้จากข้อมูลของตนเอง ในขณะเดียวกันก็สามารถมอบข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมให้กับ AI Agents เมื่อส่วนประกอบเหล่านี้มารวมกัน ทำเกิดระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ที่ทำให้ AI Agents และ มนุษย์ สามารถร่วมมือและตอบโต้กันได้ท่ามกลางข้อมูลจำนวนมหาศาล ภาพรวมของ CARV — ที่มา: carv.io ระบบนิเวศของ CARV ประกอบด้วยส่วนสำคัญทั้งหมด 4 ส่วน คือ — CARV SVM Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มี AI Agents ด้วยการรวมเอา Solana Virtual Machine (SVM) ที่มีความสามารถด้านความสามารถด้านการปรับขนาดรวมเข้ากับ Ethereum ที่โดดเด่นด้านความปลอดภัยและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งมารวมเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ SVM Chain ยังช่วยทำให้ AI Agents สามารถจัดการและโต้ตอบกับข้อมูลได้แบบครบวงจรแบบอัตโนมัติ และยังรักษาความเป็นส่วนตัวผ่านเทคโนโลยี zk-technology และ Trusted Execution Environments (TEE) โครงสร้างนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของ ควบคุม และสร้างรายได้จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวก็สามารถให้รางวัลแก่นักพัฒนาที่สร้างและบำรุงรักษาข้อมูลโดยช่วยการทำงานด้านต่างๆ เช่น การพัฒนา AI, เกม, DeSci และอื่นๆ อีกมากมาย — D.A.T.A. (Data Authentication, Trust, and Attestation) Framework เป็นตัวเพิ่มศักยภาพให้กับ AI Agents ด้วยข้อมูลคุณภาพสูงจากทั้งแบบ on-chain และ off-chain สามารถช่วยให้เกิดการเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาได้ พร้อมรับประกันความเป็นส่วนตัวด้วย Trusted Execution Environments (TEE) และการเข้ารหัสข้อมูล เป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความไว้วางใจ ทำให้ AI Agents สามารถเติบโตในระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจ — CARV ID (ERC7231) เป็นส่วนหนึ่งของ D.A.T.A. ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลระบุตัวตนทั้งแบบ on-chain และ off-chain สำหรับ AI Agents ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ใช้งานและกิจกรรมบนบล็อกเชน นอกจากนี้ยังทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มขีดความสามารถให้กับ AI Agents ด้วยความรู้ที่จำเป็นในการเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาภายในระบบนิเวศที่ปลอดภัยและโปร่งใส — CARV Labs เป็นผู้พัฒนาการเติบโตของระบบนิเวศบนบล็อกเชนที่มากกว่าการพัฒนาเพียงระบบนิเวศ CARV เพียงรายเดียว แต่ CARV Labs ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นที่ใช้ AI Agents ด้วยการมุ่งเน้นเสริมสร้างศักยภาพของนักพัฒนาและขับเคลื่อนการนำไปใช้งานอย่างแท้จริงให้แพร่หลายบนระบบนิเวศ CARV AI Chain นอกจาก CARV Labs ทำหน้าที่เป็นแหล่งบ่มเพาะ (Incubator) สำหรับโครงการและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในด้านการให้ความเป็นเจ้าของของข้อมูลในรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีใหม่สำหรับ Artificial General Intelligence (AGI) ซึ่งจะช่วยเรื่องการรวบรวม แบ่งปัน และการให้ความสำคัญของข้อมูลคุณภาพสูงทั้งแบบ on-chain และ off-chain เบื้องหลังการพัฒนา CARV Protocol CARV ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดเรื่อง soulbound tokens concept ของ Vitalik Buterin ได้ระดมทุนรวมทั้งสิ้น 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Tribe Capital, HashKey Capital และ Animoca Brands โดย CARV ได้พัฒนาจากจุดเริ่มต้นที่มุ่งเน้นโซลูชันการระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ จนกลายเป็นกำลังสำคัญในด้านการปกป้องและการสร้างรายได้จากข้อมูล หลังจากเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม 2023 และเปิดตัว mainnet สำเร็จในกลางปี 2024 ปัจจุบัน CARV กำลังสร้างระบบนิเวศน์ AI chain เพื่อให้เกิดอำนาจในการควบคุมข้อมูลในระดับใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเสริมพลังให้ AI เอเจนต์มีอำนาจควบคุมข้อมูลอย่างแท้จริง CARV นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจรที่ผู้ใช้ นักพัฒนา และระบบ AI สามารถเติบโตได้อย่างปลอดภัยและร่วมมือกัน เทคโนโลยีล้ำสมัยของ CARV ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างข้อมูลบนเชนและนอกเชนเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นการวางรากฐานสำหรับนวัตกรรมในด้านเกม ปัญญาประดิษฐ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ในเดือนมกรา 2025 CARV ได้เปิดตัว CARV SVM Chain ในช่วงเวลาที่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างยิ่ง CARV มุ่งมั่นในการสร้างโอกาสให้กับผู้ใช้งานและนักพัฒนาได้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ด้วยการขยายขีดความสามารถไปสู่ Ethereum เครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นผู้บุกเบิกระบบนิเวศที่ปลอดภัยและราบรื่นที่จะทำให้ AI Agents สามารถเติบได้ ทั้งนี้ CARV SVM Chain ทำงานด้วยเทคโนโลยี zk-technology และ Trusted Execution Environments (TEE) ที่มอบความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความสามารถการปรับขนาด และการเชื่อมต่อสภาพคล่องระหว่าง Ethereum และ Solana ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ CARV ช่วยให้บริษัทเกมและ AI จำนวนมากกว่า 900 แห่งทั่วทั้งโลก Web2 และ Web3 เช่น Electronic Arts, Netmarble และ AliCloud สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในลักษณะของสินค้าในรูปแบบเฉพาะตามความต้องการทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการฝึก NPC ภายในเกม การเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งาน เป็นต้น CARV สามารถดึงดูดผู้ใช้ที่ลงทะเบียนรวมกันกว่า 15 ล้านรายและกระเป๋าเงินรายวัน (Daily Unique Active Wallets) มากถึง 2.1 ล้านรายบนเครือข่ายมากกว่า 40 แห่ง ปัจจุบัน CARV กำลังขยายนวัตกรรมของตนไปยังโครงสร้างพื้นฐานของ AI Agents ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับแอปพลิเคชันที่มี AI CARV SVM Chain มีความสำคัญอย่างไร CARV SVM Chain มีลักษณะเป็นโครงสร้างพื้นแบบ AI Agentic ที่ขยายขีดความสามารถของ SVM ไปสู่ ​​Ethereum โดยใช้ประโยชน์จาก zk-technology และ Trusted Execution Environments (TEE) เพื่อให้มั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล สิ่งที่ทำให้ CARV SVM Chain มีความแตกต่าง: — การปรับขนาด (Scalability): ใช้ประโยชน์จากความเร็วในการทำธุรกรรมและต้นทุนต่ำของ Solana — ความปลอดภัย: ใช้ความสามารถด้านความปลอดภัยที่พิสูจน์แล้วของ Ethereum และ zk — สภาพคล่องแบบหลายเครือข่าย (Liquidity Bridging): เป็นนำเอาสภาพคล่องของ Solana และ Ethereum มารวมเข้าด้วยกัน สร้างสภาพคล่องที่โดดเด่น — มีความเป็นส่วนตัว: การโต้ตอบข้อมูลได้รับการรักษาความปลอดภัยผ่าน TEE และ zk-proofs ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้และ agent ยังคงเป็นความลับ — AI Agent Support: ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการโต้ตอบระหว่าง autonomous agents, ผู้ใช้งาน และแอปพลิเคชัน CARV SVM Chain มีประโยชน์ต่อนักพัฒนาและผู้ใช้งานอย่างไร — นักพัฒนา: ตัวเครือข่ายสร้างแรงจูงใจให้กับนักพัฒนาที่สร้างและดูแลระบบนิเวศ AI Agents รวมถึง DApps ให้มีความสามารถด้านการปรับขนาด มีความปลอดภัย และลดอุปสรรคการทำงานร่วมกันแบบข้ามเครือข่าย — ผู้ใช้งาน: CARV SVM Chain ช่วยให้บุคคลต่างๆ เป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้จากข้อมูลของตนเองได้ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัว ในลักษณะที่สามารถครอบครองข้อมูลเจ้าตัวตนดิจิทัล และยังได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกับการนำข้อมูลไปใช้สำหรับ AI — AI Agents: AI Agents ได้รับผลประโยชน์จากระบบนิเวศที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ, ออกให้ AI สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด, ร่วมทำงานได้แบบอัตโนมัติ และช่วยแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้แบบเรียลไทม์ CARV มีความสำคัญอย่างไรสำหรับอนาคต ในอนาคตมีความเป็นได้ว่า AI Agents จะมีความสามารถในการเรียนรู้ โต้ตอบ และพัฒนาไปพร้อมกับผู้ใช้งานได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ข้อมูลในอุตสาหกรรมต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม รวบรวม และสร้างรายได้จากข้อมูลของต้นได้ พร้อมทั้งยังรักษาความเป็นส่วนตัวและสร้างรายได้อย่างเท่าเทียม ตัวอย่างการนำมาใช้งาน — สำหรับเกม: สร้างการมีส่วนร่วมใหม่ๆ ผ่านการใช้งานตัวละคร NPC ที่ฉลาดขึ้น และเพิ่มประสบการส่วนบุคคลด้วยการใช้ AI มาช่วยเหลือ — DeSci: ช่วยให้นักวิจัยทั่วโลกทำงานร่วมกันเกี่ยวกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนด้วยเครื่องมือที่รักษาความเป็นส่วนตัว เร่งให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนายาเฉพาะบุคคล — AI แบบส่วนที่สามารถปรับแต่งได้: ร่วมสร้างรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์ใหม่ๆ สนับสนุนให้เกิดการสร้าง AI ที่เป็นเพื่อนที่ชาญฉลาดทางอารมณ์ และเป็นเพื่อนในชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โทเคน CARV คืออะไร? CARV เป็น Governance Token ของระบบนิเวศ CARV ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของ ควบคุมและสร้างรายได้จากข้อมูลส่วนบุคคลของต้นได้ ตัวโทเคน CARV สร้างขึ้นบนเครือข่าย Base โดยให้ผู้ถือครองสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เสนอฟีเจอร์ใหม่ และกำหนดรูปแบบระบบนิเวศของ CARV ได้อย่างจริงจัง มีเป้าหมายเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ยั่งยืน ซึ่งผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วม ทำให้ข้อมูลเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลที่มีค่าในโลก Web3 ที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ CARV ยังมีการอัปเกรดโทเคนของ SVM Chain หลายประการ เช่น — Gas Token ใช้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการประมวลผลเครือข่ายของโหนดบนบล็อกเชน — Liquidity Pairing เป็น AI Agent โทเคนที่จะจะถูกจับคู่กับโทเคน CARV ในกลุ่มสภาพคล่อง — ใช้เป็นสกุลเงินสำหรับการชำระเงิน — โทเคนรูปแบบ premium สำหรับผู้ค้าปลีกในระบบนิเวศ CARV เช่น ค่าแก๊สแบบหลายเครือข่าย การซื้อสินทรัพย์ในเกม ฯลฯ — AI Agents และโปรเจ็กต์เกี่ยวกับ AI ที่จะเป็นช่องทางการเข้าใช้งานอรรถประโยชน์ของ CARV protocol อย่างต่อเนื่อง — แรงจูงใจในช่วงเริ่มต้นของ CARV protocol (bootstrap) เช่น การพัฒนา modular data layer สำหรับการเป็นต้วของข้อมูล, การให้บริการ และสำหรับผู้บริโภค — CARV สามารถแปลงเป็น veCARV ได้ด้วยอัตราส่วน 1:1 ผ่านการทำ Staking เป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ดำเนินการโหนดที่รักษาความปลอดภัยและสนับสนุนเครือข่าย และยังสามารถแลก นอกจากผู้ทำหน้าที่รันโหนดให้กับ CARV ยังได้รับรางวัลเป็น veCARV และผู้ที่ stake โทเคน CARV จะได้รับ veCARV(s) โดยตัวโทเคน veCARV and veCARV(s) เป็นโทเคนในแบบที่ไม่สามารถโอนได้ที่ให้ อนุญาตให้ผู้ถือครองเข้าร่วมในการกำกับดูแล โดยโทเคน veCARV ทำงานอยู่บนเครือข่าย Arbitrum ส่วน veCARV(s) ทำงานอยู่บนเครือข่าย Base ซึ่งทั้งสองโทเคนให้ผู้ถือครองสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแล โดยการล็อกโทเคนเอาไว้เพื่อเพิ่มอำนาจการลงคะแนนผ่านรูปแบบ “voting escrow” เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในระยะยาว ในเวอร์ชันนี้มุ่งเน้นในการตัดสินใจด้านการกำกับดูแลเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันยังจำกัดอยู่ในการลงคะแนนเท่านั้น โดยในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในอนาคต รูปแบบการใช้งานโทเคน CARV — ที่มา CARV.io การกระจายโทเคนของ CARV ปริมาณรวมของ CARV อยู่ที่ 1,000,000,000 และจะสามารถเข้าถึงได้ภายในระยะเวลา 4 ปี เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาของการสร้างโทเคน Token Generation Event (TGE) ดังนี้ — โหนดและชุมชน 50.000% — ผ่านวิธีการต่างๆ เพื่อตอบแทนชุมชนสำหรับความพยายามและการมีส่วนสนับสนุนให้โครงการประสบความสำเร็จ — ระบบนิเวศและคลัง 9.000% — กองคลังเป็นผู้ถือโทเคน CARV — นักลงทุนรายแรก 9.246% — นักลงทุนช่วงเริ่มต้นและนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ในช่วงแรกบน CARV ที่และกลุ่มที่เต็มใจจะร่วมลงทุนในโครงการในระยะยาว — การระดมทุนส่วนบุคคล 8.295% — เกิดขึ้นในช่วงการระดมทุน Series A และนักลงทุนบน CARV ที่เข้าร่วมในการระดม — ทีมผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษา 19.459% — ตอบแทนกลุ่มผู้ก่อตั้งหลักและที่ปรึกษาสำหรับความพยายามเต็มเวลาของพวกเขาเพื่อความสำเร็จของโครงการ — สภาพคล่อง 4.000% — เป็นโทเคนที่จัดสรรเพื่อให้ระบบนิเวศมีสภาพคล่อง ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ CARV ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2025 เหรียญ CARV มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 11,579,658 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,799,409,871 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ CARV ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.6471 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22.03 บาทต่อ 1 CARV โดย CARV เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 1.40 ดอลลาร์ หรือ 48.15 บาท ต่อ 1 CARV เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 อ้างอิง: CARV.IO, Doc CARV, CoinMarketCap, CARV Medium — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — CARV AI Chain Ecosystem: Building the Future of AI with Decentralized Data and User-Driven What is CARV? CARV is an innovative AI chain ecosystem designed to enable data sovereignty at scale. Its primary goal is to empower users and developers by providing them with control over their data, ensuring privacy and security in a decentralized environment. Recently, CARV launched the CARV SVM Chain, which aims to create a self-sovereign AI agent infrastructure that extends its existing capabilities onto the Ethereum blockchain. This infrastructure allows AI agents to autonomously acquire, verify, store, and process data while maintaining high standards of privacy and security through technologies like zero-knowledge proofs (zk) and trusted execution environments (TEE). Background Behind CARV CARV, founded in 2022, emerged from an inspiration sparked by Vitalik Buterin’s soulbound tokens concept. Having raised an impressive $50M in total funding from top-tier investors like Tribe Capital, HashKey Capital, and Animoca Brands, CARV has evolved from its initial focus on decentralized identity solutions to become a pioneering force in data protection and monetization. After becoming operational in December 2023 and successfully launching its mainnet in mid-2024, CARV is now building an AI chain ecosystem to enable data sovereignty at scale. Dedicated to empowering AI agents with true data sovereignty, CARV delivers a unified infrastructure where users, developers, and AI systems can thrive securely and collaboratively. Its cutting-edge technology ensures a seamless interplay between on-chain and off-chain data, setting the stage for innovation in gaming, artificial intelligence, and beyond How Does CARV Work? CARV’s chain ecosystem empowers AI agents with a unified infrastructure to operate securely, intelligently, and collaboratively. — The SVM Chain provides trustless consensus, cryptographic proofs, and verifiable execution, ensuring a secure environment for AI operations. — The D.A.T.A (Data Authentication, Trust, and Attestation) Framework delivers high-quality on-chain and off-chain data, enriched with tags and metrics, enabling AI agents to learn, share, and evolve dynamically. — Complementing this, the CARV Protocol and CARV ID ensure data sovereignty and privacy, allowing users to control and monetize their data while providing AI agents with comprehensive, cross-chain insights. Together, these components create a robust ecosystem where AI agents and humans can thrive through secure, collaborative, and data-rich interactions CARV’s Ecosystem The CARV ecosystem comprises several key components CARV SVM Chain CARV SVM Chain is an AI agentic infrastructure that extends SVM’s capabilities onto Ethereum. With Solana’s scalability and Ethereum’s security, it empowers native AI agents with perception, cognition, and intelligent action based on data sovereignty, accelerating evolution towards Artificial General Intelligence. D.A.T.A. (Data Authentication, Trust, and Attestation) Framework The D.A.T.A Framework (Decentralized Autonomous Transparent Access) empowers AI agents with high-quality on-chain and off-chain data enriched with actionable metrics. It enables learning, sharing, and evolution while ensuring privacy through Trusted Execution Environments (TEE) and cryptographic proofs. By fostering collaboration and trust, D.A.T.A equips AI agents to thrive in a decentralized ecosystem. CARV ID (ERC-7231) CARV ID powers the D.A.T.A Framework by aggregating cross-chain and off-chain identities, providing AI agents with comprehensive insights that enhance their understanding of users and blockchain activities. It unifies fragmented data, enabling deeper context through enriched tags and metrics. This seamless integration ensures data sovereignty, allowing users to control their data while empowering AI agents with the knowledge needed to learn, share, and evolve within a secure and transparent ecosystem. CARV Labs To accelerate ecosystem growth in and beyond CARV’s ecosystem, CARV Labs spearheads innovation in the AI agentic infrastructure enabling data sovereignty with incubation, grants, and infrastructure. With a focus on empowering developers and driving mass adoption in CARV AI Chain ecosystem, CARV Labs serves as the incubator for groundbreaking projects and technologies that redefine data ownership towards a new form of evolution for AGI: one driven by the aggregation, sharing, and refinement of high-quality on-chain and off-chain data. What is CARV Token The CARV Token ($CARV) is the native cryptocurrency of the CARV ecosystem. It serves multiple functions, including governance, utility within various applications, and incentivizing participation in the ecosystem. Governance: CARV grants holders the ability to actively engage in decision-making, propose new features, and shape the CARV ecosystem. Gas Fees: CARV Token used to pay for the network computing costs of nodes in the blockchain. Liquidity Pairing: AI agent token will be paired with the $CARV token in its respective liquidity pool. Payment Currency: CARV tokens can be used as a medium of exchange for payments or transfers to other users within the ecosystem. Incentives for Nodes: CARV tokens are used as rewards given to Node Operators as an incentive to maintain network stability. Staking: Users can stake CARV tokens to earn rewards in the form of veCARV tokens. veCARV can be used for voting and can later be redeemed back into CARV tokens. Currently, CARV is trading at $0.6455 per token with a total market capitalization of $111.1 million, ranking 505th in the cryptocurrency market. It has a circulating supply of 172,427,649 CARV out of a maximum supply of 1,000,000,000 CARV (data referenced from Coingecko as of January 12, 2025). CARV Token Distribution The total supply of CARV is 1,000,000,000 tokens, which will become accessible over a 4-year period, starting from the Token Generation Event (TGE). Here’s the breakdown: — Nodes and Community: 50.000% — Distributed through various methods to reward the community for their efforts and contributions to the project’s success. — Ecosystem and Treasury: 9.000% — The treasury holds these CARV tokens for ecosystem development and operations. — Early Investors: 9.246% — Allocated to early-stage and strategic investors who supported CARV in its initial phases and are committed to the project’s long-term vision. — Private Fundraising: 8.295% — Tokens sold during the Series A funding round to private investors who participated in the capital raise. — Founding Team and Advisors: 19.459% — Rewards the core founding team and advisors for their full-time dedication and efforts towards the project’s success. — Liquidity: 4.000% — Tokens allocated to ensure sufficient liquidity within the CARV ecosystem. Summary In conclusion, CARV is at the forefront of building an AI chain ecosystem that champions data sovereignty through its innovative technologies and frameworks. The launch of the CARV SVM Chain Testnet marks a significant milestone in enabling AI agents to operate autonomously while ensuring user privacy and control over personal data. With a strong foundation built on experienced leadership, extensive user engagement, and a commitment to decentralization, CARV is poised to redefine how data is managed and utilized in an increasingly digital world. Stay updated with CARV’s important developments at https://x.com/carv_official Reference: CARV.IO, Doc CARV, CoinMarketCap, CoinGecko — — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — CARV ผู้พัฒนาบล็อกเชนด้วย AI Chain Ecosystem ยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์แบบกระจายอำนาจ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 21 ม.ค. 68 |อ่าน: 1,606
news

Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen

Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 20 ม.ค. 68 |อ่าน: 1,773
news

รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin แตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสม

รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin กลับมาแตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสมทะลุ $20 ล้านล้าน | มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงถึง 322% Bitkub Blog รวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้อ่านกันที่นี่แล้ว มีข่าวอะไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาดบ้าง มาดูกันได้เลย! เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด — — — — — — — — — — Bitcoin กลับมาแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% Bitcoin พุ่งขึ้นจาก 96,000 ดอลลาร์เป็น 98,400 ดอลลาร์ หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเดือนธันวาคมและข้อมูล PPI ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.4% ต่อเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อประจำปีอยู่ที่ 2.9% สูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปีลดลงเหลือ 3.2% จาก 3.3% การตอบสนองของตลาดสะท้อนถึงการมองโลกในแง่ เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลง แม้ว่าดัชนี CPI ประจำปีที่เพิ่มขึ้น ที่อาจสร้างแรงกดดันด้านราคา ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin สะท้อนถึงความอ่อนไหวต่อตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวชี้วัดที่มีอิทธิพลต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งการประชุมนโยบายครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐน่าจะให้ทิศทางเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคตได้ ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสมทะลุ 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ Circle ออกเผยแพร่รายงานว่า USD Coin (USDC) มีปริมาณธุรกรรมสะสมเกิน 20 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน 2024 USDC มีปริมาณธุรกรรมรายเดือนที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ รายงานเน้นย้ำถึงบทบาทของ USDC ในฐานะตัวแทนเงินดิจิทัลของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อยู่ในบล็อกเชนต่างๆ นอกจากนี้ การหมุนเวียนของ USDC ยังเติบโตขึ้น 78% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรายงานยังสนับสนุนข้อได้เปรียบของ stablecoin เมื่อเทียบกับเงิน fiat เช่น ประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความเร็วในการทำธุรกรรมที่แทบจะทันที และการเข้าถึงทั่วโลก ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงถึง 322% ในไตรมาส 4 ปี 2024 ได้แรงสนับสนุนจากเครือข่าย Solana มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงขึ้น 322% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นจาก 4,800 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคมเป็น 15,500 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม โดยเมื่อวันที่ 14 มกราคม CoinGecko ได้เผยแพร่ “Annual Crypto Industry Report” เปิดเผยว่า AI Agents ได้รับความนิยมในหลังจากมีการเปิดตัวโปรเจ็กต์ Goatseus Maximus (GOAT) เมื่อเดือนตุลาคม 2024 AI Agents เป็นโปรแกรมแบบอัตโนมัติที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ในการดำเนินงาน มักจะอยู่ในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) หรือเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศบล็อกเชน ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — ตลาดอนุพันธ์ใน Bitcoin ส่งสัญญาณความผันผวนเพิ่มขึ้นก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง 20 มกราคม ตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin ส่งสัญญาณผันผวนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเตรียมตัวสำหรับการเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 ในวันที่ 20 มกราคม 2025 กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน ต่อจาก Grover Cleveland ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในปี 1893 ที่มีความแตกต่างจากทรัมป์ เพราะ Cleveland คัดค้านการใช้ภาษีศุลกากรสูง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าผู้ซื้อขายจะระมัดระวังมากขึ้น ข้อมูลจากตลาดซื้อขายอนุพันธ์ Derive.xyz แสดงให้เห็นสัญญาณของการคาดการณ์แนวโน้มขาลงในระยะกลาง โดยการซื้อ Bitcoin แบบ Options เพิ่มขึ้นจนคิดเป็น 40% ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบน Derive.xyz เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา “ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 20% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบ่งชี้ว่าผู้ซื้อขายกำลังป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงด้านลบขณะที่เรากำลังเข้าใกล้พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์” Sean Dawson หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Derive.xyz กล่าวกับ The Block ที่มา : The Block — — — — — — — — — — สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เตือนภัยคุกคามการแฮ็กสกุลเงินดิจิทัลจากเกาหลีเหนือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ออกคำเตือนร่วมกันเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากแฮ็กเกอร์สกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) โดยมีกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่ม Lazarus ที่มีชื่อเสียงด้านลบเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีการโจรกรรมทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดบางคดีบนโลก Web3 รวมถึงการแฮ็กเครือข่าย Ronin มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์และการแฮ็กการแลกเปลี่ยน WazirX มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อ “ความสมบูรณ์และเสถียรภาพของระบบการเงินระหว่างประเทศ” ตามประกาศร่วมที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 มกราคม แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่าเกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่จะระดมทุนสำหรับโครงการขีปนาวุธพิสัยไกลผ่านการขโมยสกุลเงินดิจิทัล “รัฐบาลทั้งสามและอุตสาหกรรมเอกชน มุ่งมั่นร่วมกันป้องกันการโจรกรรมจากเกาหลีเหนือ และมีความพยายามที่จะกู้คืนเงินที่ถูกขโมยไป มีเป้าหมายเพื่อปฏิเสธรายได้ที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือจากโครงการสร้างอาวุธทำลายล้างสูงและขีปนาวุธพิสัยไกล” ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly Wrap-Up: Bitcoin Hits $100K on Inflation News | USDC Transactions Top $20 Trillion | AI Agents Market Explodes 322% on Solana Stay ahead in the world of cryptocurrency and blockchain with Bitkub Blog! We’ve rounded up the hottest news from the past week, all in one place. Wondering what investors need to know right now? Let’s dive in! This curated summary brings you the top stories from global sources, broken down into bite-sized insights for easy understanding. (P.S. Remember, this is for your knowledge only — it’s not investment advice!) — — — — — — — — — — Bitcoin Surges to $100,000 on Positive US Inflation Data Bitcoin surged from $96,000 to $98,400 following the release of December’s Consumer Price Index (CPI) and Producer Price Index (PPI) data. The CPI report indicated a 0.4% monthly increase, in line with forecasts. The annual inflation rate stands at 2.9%, a slight uptick from November’s 2.7%, also meeting expectations. Core inflation, excluding food and energy, rose by 0.2% month-on-month, matching predictions, but the annual core inflation rate dipped to 3.2% from 3.3%. The market’s response reflects optimism as the data suggests a downward trend in inflation, despite the rise in the annual CPI, which could exert price pressure. Bitcoin’s price movement underscores its sensitivity to macroeconomic indicators, particularly those influencing the Federal Reserve’s policies. The upcoming Federal Reserve policy meeting is expected to provide further direction, especially regarding interest rate adjustments that could impact the future economy. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — USDC Surpasses $20 Trillion in All-time Transaction Volume Circle has released a report stating that USD Coin (USDC) has surpassed $20 trillion in cumulative transaction volume in 2024. In November 2024 alone, USDC recorded a monthly transaction volume of $1 trillion. The report emphasizes USDC’s role as a digital representation of the US dollar across various blockchains. Additionally, USDC’s circulation has grown by 78% year-over-year. The report further supports the advantages of stablecoins compared to fiat currency, such as cost efficiency, near-instant transaction speeds, and global accessibility. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — AI Agents Market Cap Soars 322% in Q4 2024, Fueled by Solana Network The market capitalization of AI Agents surged by 322% in the fourth quarter of 2024, increasing from $4.8 billion in October to $15.5 billion in December. According to CoinGecko’s “Annual Crypto Industry Report” released on January 14th, AI Agents gained significant traction following the Goatseus Maximus (GOAT) project launch in October 2024. AI Agents are autonomous programs that leverage artificial intelligence to execute tasks, often within decentralized finance (DeFi) or as integral components of blockchain ecosystems. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Bitcoin Derivatives Market Signals Rising Volatility Ahead of Trump’s January 20 Inauguration The Bitcoin derivatives market is showing signs of volatility due to rising expectations as President Donald Trump prepares for his second term inauguration on January 20, 2025, becoming the second U.S. president in history to serve non-consecutive terms, following Grover Cleveland, who served his second term in 1893 and opposed high tariffs, unlike Trump. In light of these developments, traders seem to be more cautious. Data from the derivatives trading platform Derive.xyz indicates signs of a bearish trend prediction in the medium term, with Bitcoin options purchases rising to account for 40% of futures contracts on Derive.xyz, marking a significant increase over the past week. “This is a sharp rise from 20% last week, indicating that traders are hedging against potential downside risks as we approach Trump’s inauguration,” said Sean Dawson, Head of Research at Derive.xyz, in an interview with The Block. Source: The Block — — — — — — — — — — US, Japan, and South Korea Warn of Rising North Korean Crypto Hacking Threat The United States, Japan, and South Korea have issued a joint warning about the growing threat of cryptocurrency hackers linked to the Democratic People’s Republic of Korea (DPRK). Groups like the infamous Lazarus Group are prime suspects in some of the biggest cyber heists in the Web3 world, including the $600 million Ronin Network hack and the $230 million WazirX exchange hack. North Korean hackers now pose a significant threat to the “integrity and stability of the international financial system,” according to the joint advisory published on January 14th. The statement claims that North Korea aims to fund its long-range missile programs through cryptocurrency theft. “The three governments, along with private industry, are committed to disrupting North Korean theft and attempted laundering of stolen funds, with the goal of denying North Korea illicit revenue for its weapons of mass destruction and ballistic missile programs.” Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: -Cryptocurrency is highly risky; investors may lose all investment money. -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin แตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสม was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 17 ม.ค. 68 |อ่าน: 1,047
news

LeisureMeta โปรเจกต์ Web 3.0

LeisureMeta โปรเจกต์ Web 3.0 Community ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้งานจริงในอุตสาหกรรมบันเทิง LeisureMeta (LM) คืออะไร LeisureMeta ผู้นำในการผสมผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับการความบันเทิง โครงการนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศที่เรียกว่า “LM Twin City” ที่เชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริง และโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน และทำให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมใน DAO LM Twin City — ที่มา https://x.com/LeisureMeta_LM/status/1830791691776991718 โครงการ LeisureMeta มุ่งมั่นที่จะเป็น Web3 Enabler เพื่อสร้างชุมชน DAO ที่ยั่งยืนผ่าน DAO ที่ใช้บล็อกเชนเป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อทำให้เกิดการสร้างงาน แหล่งรายได้แบบใหม่ และตระหนักถึงคุณค่า Web3 ในด้านของสิทธิ์ ความเป็นธรรม และเคารพถึงเสรีภาพของมนุษย์ ด้วยนำเสนอ “new normal” สำหรับชุมชนทางสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีอยู่ เช่น ความสามารถในการปรับขนาด (scalability) ค่าธรรมเนียมก๊าซที่มีราคาสูง และ UX ที่ใช้งานยากและไม่น่าสนใจ ที่มา : LeisureMeta — x.com LeisureMeta ทำงานอย่างไร? LeisureMeta ถูกสร้างขึ้นจากการผสมผสานอันทรงพลังของเทคโนโลยีบล็อกเชนและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลบน Web3 หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ โครงสร้างบัญชี Unspent Transaction Output หรือ UTXO แบบไฮบริด ซึ่งผสานบล็อกเชนโมเดล 2 แบบ เข้าด้วยกัน เพื่อให้การธุรกรรมรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น การออกแบบนี้ทำให้เกิดความยืนหยุ่นสำหรับ Smart contract และ Decentralized applications (DApps) เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ตัว LeisureMeta ใช้อัลกอริทึมฉันทามติแบบผสม Byzantine Fault Tolerant (BFT) แบบ Tendermint + Hotstuff ผสมเข้ากับ proof-of-stake (PoS) ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถจัดการธุรกรรมได้สูงสุดที่ 1,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็ว เช่น แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และตลาด NFT LeisureMeta ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายด้วย Bloom filters ซึ่งช่วยลดการส่งข้อมูลระหว่างโหนดด้วยการกรองธุรกรรมที่ทราบออกไป ส่งผลให้เครือข่ายทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคุณสมบัติที่สำคัญถัดมา คือ ความสามารถในการรองรับการจับคู่ private key แบบหลายชุด ช่วยให้ผู้ใช้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โครงสร้าง Conflict free Replicated Data Type (CRDT) ยังช่วยขจัดธุรกรรมที่ซับซ้อน ทำให้บล็อกเชนสามารถสร้างบล็อกได้ถายในเวลาเพียง 1 วินาที ช่วยให้การตอบโต้สามารถเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ คุณสมบัติการเชื่อมต่อได้แบบหลายเครือข่ายของ LeisureMeta ยังช่วยให้บล็อกเชนต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น เช่น ผู้ใช้สามารถโอนโทเคน LM ระหว่างเครือข่าย LeisureMeta และ Ethereum ได้อย่างง่ายดาย ทำให้มีสภาพคล่องและใช้งานได้ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ ทำให้ LeisureMeta สามารถมอบโครงสร้างพื้นที่ทำงานได้รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถปรับขนาดได้ เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้งาน ที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของ DApps และเศรษฐกิจดิจิทัล หัวใจหลักของฟังก์ชันการทำงานของ LeisureMeta คือ DApp ซึ่งทำงานอัตโนมัติผ่านระบบสัญญาอัจฉริยะโดยไม่มีการควบคุมจากส่วนกลาง ตัวแพลตฟอร์มนำเสนอบริการ DApp ที่หลากหลาย รวมถึงชุมชน Web 3.0 อย่าง “LM NOVA”, NFT Marketplace 2.0 “playNomm” และ “LM Wallet” ที่ได้รับรางวัล และยังมี DAO ที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใน ทำให้ชุมชนสามารถตัดสินใจได้อย่างโปร่งใสและดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา LeisureMeta LeisureMeta เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้าน Web3 โดยส่งเสริมชุมชน สังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ผู้อยู่เบื้องหลักการพัฒนาสำคัญนี้ ประกอบด้วย Sung Uk Moon ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO, Dong Cherl Han ดำรงตำแหน่ง CTO, Sung Sik Park ดำรงตำแหน่ง CCO และ Harry Kim ดำรงตำแหน่ง CSO โดยพวกเขามีความเชี่ยวชาญครอบคลุมในหลายๆ ด้าน มีส่วนสนับสนุนในการสร้างและพัฒนา LeisureMeta นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุน เช่น eugene70, hysung220, kjg0904, G-yhlee, pjw0328, senthil28, sungkmi, scouts0i, airlift01, pickup08, LatteScience08, guidedarrow, walfarepunkloser, onthepage, insightdevcoder และ LeisureMeta_LM LeisureMeta Ecosystem มีอะไรบ้าง I LIKE LM คือ หัวใจสำคัญของระบบนิเวศ LeisureMeta ที่มีเป้าหมายสร้างความแตกต่างบนตลาด Web3 ด้วยรูปแบบของ SocialFi โดยมีคุณสมบัติหลักของแพลตฟอร์ม ดังนี้ — รองรับการสร้างคอนเทนต์สร้างสรรค์: ส่งเสริมให้ผู้สร้างคอนเทนต์สามารถผลิตเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นต้นฉบับ — การมีส่วนร่วมของชุมชน: สร้างรูปแบบการสื่อสารที่แข็งแกร่งระหว่างผู้สร้างคอนเทนต์และแฟนคลับ — มี DAO ที่โปร่งใส: สร้างมูลค่าร่วมกันและให้รางวัลแก่ผู้มีส่วนสนับสนุนผ่านชุมชน DAO ที่ยุติธรรมและโปร่งใส — เชื่อมโยงโลกแห่งความจริงและเสมือนจริงเข้าด้วยกัน: มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ระหว่างโลกเสมือนและโลกแห่งความจริงผ่านโลกบล็อกเชน LM NOVA เป็นชุมชนบน Web3 (A2E) ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นพื้นที่สำหรับระบบนิเวศที่ยั่งยืนของผู้สร้าง Web3 และแฟนคลับ นอกจากนี้สำหรับ Web3 Creators สามารถรับรางวัลเป็นโทเคนได้เพียงแค่อัปโหลดเนื้อหาและตอบกลับผู้ใช้ และสุดท้ายสำหรับผู้ใช้งาน สามารถได้รับรางวัลจากการเป็นผู้ติดตามผู้สร้างคอนเทนต์ที่ชื่นชอบได้ ผ่านการดูคอนเทนต์และตอบโตกับผู้สร้าง LM ใช้งานสำหรับอะไร? LM เป็น Native token ของระบบนิเวศ LeisureMeta โดยมีอุปทานสูงสุด 5 พันล้านโทเคน โดยโทเคน LM มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ LMC LM บนเครือข่าย LeisureMetaverse และ ERC-20 LM สำหรับ Ethereum ที่ใช้สำหรับเครือข่ายอื่นๆ เช่น Centralized Exchanges (CEX) และ Decentralized Exchanges (DEX) ที่มา https://iq.wiki/wiki/leisuremeta/ ตัวโทเคน LM สามารถใช้ทำกิจกรรมที่แตกต่างกันได้ เช่น — สื่อกลางการทำธุรกรรม: ใช้สำหรับการซื้อ การขาย และการซื้อขายทั้งหมดภายในระบบนิเวศ — การกำกับดูแล: อนุญาตให้ผู้ถือโทเคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและข้อเสนอของแพลตฟอร์ม — ใช้สำหรับ Staking : ผู้ใช้สามารถ staking เพื่อรับรางวัลหรือเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียม — ค่าตอบแทนสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ : ให้รางวัลแก่ผู้สร้างเนื้อหาและผู้ให้บริการสำหรับการสนับสนุนแพลตฟอร์ม — การจัดเตรียมสภาพคล่อง: สามารถใช้ในกลุ่มสภาพคล่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายแบบกระจายอำนาจ LeisureMeta Token Economy — ที่มา : LeisureMeta Whitepaper อุปทานรวมของโทเคน LM และการกระจายเหรียญ LM โทเคนมีจำนวนจำกัดจำนวน 5,000 ล้านโทเคนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืดอันเกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยกระจายเหรียญดังนี้ — DAO (60%): สำหรับรางวัลและการตั้งค่า DAO มีการปล่อยโทเคนเป็นรายเดือน เดือนละ 1.67% ทุกๆ 30 วัน — การขาย (10%): สำหรับการพัฒนาเบื้องต้น โดย 1% ปล่อยโทเคนเมื่อมีการ listing และอีก 9% ปล่อย 30 วันถัดไป และตามด้วยการปล่อยอีกในทุกๆ เดือน คิดเป็น 10% — ระบบนิเวศ (13%): สำหรับการพัฒนาระบบนิเวศและเทคโนโลยี ปล่อยโทเคนหลังจาก 180 วันหลังจากการ listing และปล่อยโทเคนจำนวน 5% ทุกๆ เดือน — ทีมและที่ปรึกษา (10%): สำหรับทีมและที่ปรึกษา มีการปล่อยเหมือนกับในส่วนของระบบนิวเศและทีมและที่ปรึกษา — PR (2%): สำหรับการเปิดใช้งานและสภาพคล่อง ปลดล็อกทั้งหมดเมื่อเปิดตัวและออกโทเคนสู่ตลาดเป็นครั้งแรก (Token Generation Event) ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ LM ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 เหรียญ LM มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 12,552,664 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 434,322,143 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ LM ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.0047 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.1626 บาทต่อ 1 LM โดย LM เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 1.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 48.45 บาท ต่อ 1 LM เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023 อ้างอิง : LeisureMeta Whitepaper, LeisureMeta Medium, CoinMarketCap — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — LeisureMeta: Revolutionizing the Entertainment Industry with Web 3.0 and Blockchain Technology What is LeisureMeta (LM)? LeisureMeta is a leader in integrating blockchain technology with entertainment. This project focuses on building an ecosystem called “LM Twin City” that connects the real world and the virtual world, and enables users to participate in a DAO (Decentralized Autonomous Organization). LM Twin City — ที่มา https://x.com/LeisureMeta_LM/status/1830791691776991718 The LeisureMeta project aims to be a Web3 Enabler, building a sustainable DAO community through blockchain technology. This will facilitate job creation, new income sources, and realize the Web3 values of rights, fairness, and respect for human freedom. It offers a “new normal” for social, cultural, and economic communities, overcoming the limitations of existing blockchain platforms, such as scalability issues, high gas fees, and poor, unengaging UX (user experience). ที่มา : LeisureMeta — x.com How does LeisureMeta work? LeisureMeta is built on a powerful combination of blockchain technology and advanced computer engineering to support the Web3 digital economy. One of its standout features is a hybrid Unspent Transaction Output (UTXO) account structure, which merges two blockchain models for faster and more efficient transactions. This design allows for flexibility for Smart contracts and Decentralized applications (DApps). To ensure optimal performance, LeisureMeta uses a hybrid consensus algorithm: Tendermint + Hotstuff Byzantine Fault Tolerant (BFT) combined with proof-of-stake (PoS). This enables the platform to handle up to 1,000 transactions per second (TPS), making it ideal for speed-intensive applications like Decentralized Finance (DeFi) platforms and NFT marketplaces. LeisureMeta also optimizes network performance with Bloom filters, which reduce data transmission between nodes by filtering out known transactions. This results in a faster and more efficient network. Another key feature is the ability to support multiple private key pairings, allowing users to easily manage digital assets across different devices with enhanced security. Moreover, the Conflict-free Replicated Data Type (CRDT) structure eliminates complex transactions, enabling the blockchain to generate blocks in just 1 second, facilitating real-time interactions. LeisureMeta’s multi-network connectivity enables seamless interoperability between different blockchains. For example, users can easily transfer LM tokens between the LeisureMeta network and Ethereum, ensuring liquidity and usability across platforms. By leveraging these technologies, LeisureMeta provides a fast, secure, and scalable infrastructure suitable for both developers and users, fostering the growth of DApps and the digital economy. At the heart of LeisureMeta’s functionality are DApps, which operate automatically through smart contracts without centralized control. The platform offers a variety of DApp services, including the Web 3.0 community “LM NOVA”, the NFT Marketplace 2.0 “playNomm”, and the award-winning “LM Wallet”. DAOs also play a crucial role in decision-making, enabling the community to make transparent decisions and take action to achieve common goals. The people behind the development of LeisureMeta LeisureMeta plays a crucial role in Web3 by promoting community, social, cultural, and economic aspects. Key figures behind this development include: — Sung Uk Moon: CEO — Dong Cherl Han: CTO — Sung Sik Park: CCO — Harry Kim: CSO Their expertise covers a wide range of areas, contributing to the creation and development of LeisureMeta. Furthermore, the project is supported by contributors such as eugene70, hysung220, kjg0904, G-yhlee, pjw0328, senthil28, sungkmi, scouts0i, airlift01, pickup08, LatteScience08, guidedarrow, walfarepunkloser, onthepage, insightdevcoder, and LeisureMeta_LM. What’s in the LeisureMeta Ecosystem? I LIKE LM is the heart of the LeisureMeta ecosystem, aiming to differentiate itself in the Web3 market with its SocialFi approach. Here are the platform’s key features: — Supports Creative Content Creation: Encourages content creators to produce original and imaginative content. — Community Engagement: Builds strong communication channels between creators and fans. — Transparent DAO: Creates shared value and rewards contributors through a fair and transparent DAO community. — Connects Real and Virtual Worlds: Provides new experiences bridging the virtual and real worlds through blockchain technology. — LM NOVA is a Web3 community (A2E) powered by blockchain technology. It serves as a sustainable ecosystem for Web3 creators and fans. Web3 creators can earn token rewards simply by uploading content and interacting with users. Users can also earn rewards by following their favorite creators, watching content, and engaging with creators. What is LM used for? LM is the native token of the LeisureMeta ecosystem, with a maximum supply of 5 billion tokens. LM exists in two forms: LMC, used on the LeisureMetaverse network, and ERC-20 LM for Ethereum, used for other networks such as Centralized Exchanges (CEX) and Decentralized Exchanges (DEX). ที่มา https://iq.wiki/wiki/leisuremeta/ The LM token can be used for various activities, such as: — Medium of Exchange: Used for all purchases, sales, and trades within the ecosystem. — Governance: Allows token holders to participate in platform governance and proposals. — Staking: Users can stake LM to earn rewards or access premium features. — Content Creator Rewards: Rewards content creators and service providers for their contributions to the platform. — Liquidity: This can be used in liquidity pools to facilitate decentralized trading. LeisureMeta Token Economy — ที่มา LeisureMeta Whitepaper Total Supply and Token Distribution of LM The LM token has a limited supply of 5 billion tokens to prevent inflation caused by increased demand. The token distribution is as follows: — DAO (60%): Allocated for rewards and DAO settings. Tokens are released monthly at a rate of 1.67% every 30 days. — Sale (10%): For initial development. 1% is released upon listing, followed by 9% released over the next 30 days. Subsequent releases occur monthly, accounting for 10% of the total sale allocation. — Ecosystem (13%): For ecosystem and technology development. Token release begins 180 days after listing, with 5% released monthly. — Team and Advisors (10%): Allocated to the team and advisors. The release schedule mirrors that of the Ecosystem allocation. — PR (2%): For bootstrapping and liquidity. Fully unlocked upon launch and initial token offering (Token Generation Event). Interesting Price Information for LM According to data from the CoinMarketCap website on January 16, 2025, the LM token has a market capitalization of $13,484,703, equivalent to approximately 464,629,362 THB. At the time of writing this article, LM is trading at approximately $0.005291 or 0.1826 THB per token. The all-time high (ATH) price of LM was $1.40 or 48.21 THB per token, achieved on February 23, 2023. Reference: LeisureMeta Whitepaper, LeisureMeta Medium, CoinMarketCap — — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — LeisureMeta โปรเจกต์ Web 3.0 was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 16 ม.ค. 68 |อ่าน: 153
news

รวมข่าวเด่นรายสัปดาห์ย้อนหลัง

รวมข่าวเด่นรายสัปดาห์ย้อนหลัง

ผู้เขียน: Waranyu Suknantee | 14 ม.ค. 68 |อ่าน: 21,428
news

ทำความรู้จัก Celer Network ที่มี Inter-chain Messaging Framework สร้าง DApps แบบหลายบล็อกเชน

Celer Network คืออะไร? Celer คือ โปรโตคอลการทำงานร่วมกันของบล็อกเชนที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโทเคนสำหรับ DeFi, GameFi, NFT, เป็นโทเคนการกำกับดูแล และอื่นๆ อีกมากมายสำหรับการใช้งานแบบหลายเครือข่าย เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้าง inter-chain-native dApps โดยใช้ Celer Inter-chain Messaging SDK เพื่อเข้าถึงการใช้สภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพ ทางด้านผู้ใช้ dApps ที่รองรับ Celer จะได้รับประโยชน์จากระบบนิเวศของบล็อกเชนแบบหลายเครือข่ายที่หลากหลายพร้อมกับความเรียบง่ายของ UX ของธุรกรรมเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้จากเครือข่ายเดียว Celer Inter-chain Messaging Overview — ที่มา : Celer Network Celer Network ช่วยแก้ปัญหาบล็อกเชนด้านใดบ้าง? Celer Network ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดปัญหาต่างๆ ที่พบในเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำในปัจจุบัน โปรโตคอลนี้ทำงานเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารระหว่างบล็อกเชน และเป็น cross-layer communication platform ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดที่เพิ่มขึ้นในเครือข่าย Layer 1 ได้อย่างมาก ทั้งนี้ Celer ได้ร่วมมือกับ Arbitrum, Ethereum, BSC, Polygon, Fantom, Avalanche และเครือข่ายอื่นๆ อีกมากมาย — ความสามารถในการปรับขนาด (Scaling) : เครือข่าย Celer ช่วยปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดที่สามารถดำเนินการได้แบบทันที ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ต้นทุนในการทำธุรกรรม Celer ยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการใช้งาน Layer 1 — ความเป็นส่วนตัว : ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว โดยใช้ระบบการวิเคราะห์ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนทำให้เกิดการติดตามและสามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยทาง Celer ได้ผสมผสานเทคโนโลยี เข้าด้วยกันเพื่อเปิดใช้งานธุรกรรมนอกเครือข่ายส่วนตัว (private off-chain) สำหรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลและการดำเนินการตามสัญญาอัจฉริยะ โครงสร้างนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Dapps ที่เน้นความเป็นส่วนตัวได้ ประโยชน์ของ Celer Network Celer Network เป็น open-source protocol ที่ได้รับการตรวจสอบโดยชุมชนและบริษัทรักษาความปลอดภัย third-party smart contract security เครือข่ายนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนที่พวกเขาชื่นชอบได้ในขณะที่หลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมสูงหรือความล่าช้าของธุรกรรม Celer เป็น Layer 2 ที่คุ้มต้นทุนและขยายฟังก์ชันการทำงานซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Celer Network Celer Network ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยมีผู้ก่อตั้งร่วมทั้งหมด 4 คนของ Celer สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น MIT และ UC Berkely และล้วนมีประวัติการทำงานกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ — Dr. Mo Dong สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก UIUC เป็นวิศวกรผู้ก่อตั้งและผู้จัดการผลิตภัณฑ์ที่ Veriflow ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบรูปแบบเครือข่าย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการนำทฤษฎีเกมอัลกอริทึมมาใช้กับการออกแบบโปรโตคอล และสอนหลักสูตร Full-stack Smart Contract Courses โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหลายร้อยคน — Dr. Junda Liu สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก UC Berkeley เขาเข้าร่วมกับ Google ในปี 2011 เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานศูนย์เครือข่ายข้อมูล จากนั้นจึงเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของบริการมือถือ Project Fi ตั้งแต่ปี 2014 นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี Android สำหรับบริการผู้ให้บริการ ซึ่งทำงานบนอุปกรณ์มากกว่า 1.5 พันล้านเครื่อง — Dr. Xiaozhou Li สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์ในสถานที่ชั้นนำในระบบ Distributed systems, Networking, Storage, และ Data management และกลายมาเป็นส่วนประกอบหลักของ Google TensorFlow, Intel DPDK และ Barefoot Deep Insight — Dr. Qingkai Liang สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก MIT การวิจัยของเขาเน้นศึกษาปัญหาการเรียนรู้และการควบคุมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง online learning algorithms in adversarial networks ซึ่งได้รับการนำไปใช้อย่างประสบความสำเร็จใน Raytheon BBN Technologies และ Bell Labs การกระจายโทเคนของ CELR CELR เป็น Utility Token สำหรับเครือข่าย Celer เป็นโทเคนมาตรฐาน ERC-20 ที่อยู่ในเครือข่ายหลักของ Ethereum สามารถใช้ CELR เพื่อส่งเงินโดยตรงแบบ peer-to-peer นอกจากนี้โทเคนยังมีบทบาทสำคัญในการชำระค่าธรรมเนียมและครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตาม Smart contract นอกจากนี้ CELR ยังเป็น Governance Token ที่จำเป็นในการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์ของโปรโตคอล เช่น บล็อกเชนและโทเคนที่รองรับ กำหนดค่าค่าธรรมเนียมสำหรับแต่ละบล็อกเชน โทเคน และ moduleใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามา การอัปเกรดหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของ SGN รวมถึงพารามิเตอร์เหล่านี้จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลผ่าน SGN ด้วยโทเคน CELR CELR มีอุปทานสูงสุด 10,000 ล้านโทเคน ซึ่งแจกจ่ายดังนี้:  — 25% — รางวัลการขุด PoLC และการสร้างระบบนิเวศนอกเครือข่าย  — 20% — แบ่งออกเป็นสำหรับทีมทำงาน (18.3%) และที่ปรึกษา (1.7%)  — 17% — มูลนิธิ  — 5% — การตลาดและระบบนิเวศ  — 33% — การขาย ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ CELR ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2025 เหรียญ CELR มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 115,242,729 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,010,274,129 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ CELR ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.01489 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.5194 บาทต่อ 1 CLER โดย CELR เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 0.1987 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.78 บาท ต่อ 1 CLER เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2021 อ้างอิง: Celer Network, CoinMarketCap, TokenInsight — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Introducing Celer Network: The Inter-Chain Messaging Framework Powering Multi-Blockchain DApps with Efficient Liquidity What is Celer Network? Celer is a blockchain interoperability protocol that gives users access to tokens for DeFi, GameFi, NFTs, governance, and more across multiple blockchains. It allows developers to build inter-chain-native dApps using the Celer Inter-chain Messaging SDK to access efficient liquidity utilization. On the user side, Celer-enabled dApps benefit from a diverse multi-blockchain ecosystem with the UX simplicity of single-transaction experiences, all from one network. Celer Inter-chain Messaging Overview — Source: Celer Network Celer Network: Solving Blockchain Challenges Celer Network is designed to mitigate several issues found in today’s leading blockchain networks. It acts as an inter-blockchain and cross-layer communication platform, significantly alleviating the growing congestion problem in Layer-1 networks. Celer has partnered with various networks, including Arbitrum, Ethereum, BSC, Polygon, Fantom, Avalanche, and many more. Here are some key blockchain challenges that Celer Network addresses: — Scalability: Celer Network enhances scalability for instant transactions while maintaining a higher degree of privacy. Transaction costs on Celer are also just a fraction of those on Layer-1. — Lack of Privacy: Blockchain analytics can track and potentially reveal the owners of digital assets, compromising privacy. Celer integrates technologies to enable private off-chain transactions for cryptocurrency payments and smart contract execution. This framework allows developers to build privacy-focused dApps. Benefits of Celer Network Celer Network is an open-source protocol that has been audited by the community and third-party smart contract security firms. The network allows users to take advantage of their favorite blockchains while avoiding high fees or transaction delays. Celer is a cost-effective Layer-2 scaling solution that enhances the user experience. The People Behind the Development of Celer Network Celer Network was founded in 2018 by a team of highly experienced and accomplished engineers. All four co-founders hold PhDs in computer science from prestigious universities like MIT and UC Berkeley and have impressive backgrounds working with leading technology companies. Here’s a closer look at the co-founders: Dr. Mo Dong: With a PhD from UIUC, Dr. Dong was a founding engineer and product manager at Veriflow, specializing in network formal verification. He’s an expert in applying algorithmic game theory to protocol design and has taught full-stack smart contract courses to hundreds of students. Dr. Junda Liu: Dr. Liu earned his PhD from UC Berkeley. He joined Google in 2011 to build data center network infrastructure and later became a founding member of Project Fi, Google’s mobile service, in 2014. He also served as the Android tech lead for carrier services, impacting over 1.5 billion devices. Dr. Xiaozhou Li: A PhD graduate from Princeton University, Dr. Li’s work has been published in top venues in distributed systems, networking, storage, and data management. His research has become core components of Google TensorFlow, Intel DPDK, and Barefoot Deep Insight. Dr. Qingkai Liang: Dr. Liang holds a PhD from MIT. His research focuses on learning and control problems in networked systems, particularly online learning algorithms in adversarial networks. His work has been successfully applied at Raytheon BBN Technologies and Bell Labs. CELR Token Distribution CELR is the utility token for the Celer Network. It’s an ERC-20 token residing on the Ethereum mainnet. CELR can be used for direct peer-to-peer payments. The token also plays a crucial role in settling fees and covering the costs of smart contract executions. Furthermore, CELR serves as a governance token, essential for updating and changing protocol parameters, such as: — Supported blockchains and tokens — Fee configurations for each blockchain, token, and new modules — Upgrades or modifications to the State Guardian Network (SGN) Any upgrades or changes to the SGN, including these parameters, require governance through the SGN using CELR tokens. CELR has a maximum supply of 10 billion tokens, distributed as follows: — 25% — PoLC Mining Rewards and Off-chain Ecosystem Building: This portion incentivizes users to participate in Proof-of-Liquidity Commitment (PoLC) mining and contribute to the off-chain ecosystem. — 20% — Team (18.3%) and Advisors (1.7%): Allocated to the Celer Network team and advisors for their contributions to the project. — 17% — Foundation: Reserved for the Celer Network foundation to support long-term development and growth. — 5% — Marketing and Ecosystem: Dedicated to marketing efforts and fostering the overall Celer ecosystem. — 33% — Sale: Distributed through token sales to raise funds for the project’s development. Interesting Price Information for CELR According to data from the Coinmarketcap website on December 13, 2024, the CELR has a market capitalization of $115,242,729 or 4,010,274,129 Thai Baht. At the time of writing this article, the CELR coin is trading at approximately $0.01489 or 0.5194 Baht per 1 CELR. CELR reached an all-time high of $0.1987 or 6.78 Baht per 1 CELR on September 26, 2021. Source: Celer Network, CoinMarketCap, TokenInsight — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — ทำความรู้จัก Celer Network ที่มี Inter-chain Messaging Framework สร้าง DApps แบบหลายบล็อกเชน was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 13 ม.ค. 68 |อ่าน: 213
news

รวมข่าวรายสัปดาห์ : MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่ม | บัญชีคริปโตถูกถูกล้างพอร์ต ทะลุ $700 ล้าน

รวมข่าวรายสัปดาห์ : MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่ม 1,070BTC | บัญชีคริปโตถูกถูกล้างพอร์ต ทะลุ 700 ล้านดอลลาร์ | Spot Bitcoin ETF มีกระแสเงินไหลเข้าพุ่งสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ Bitkub Blog รวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้อ่านกันที่นี่แล้ว มีข่าวอะไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาดบ้าง มาดูกันได้เลย! เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด — — — — — — — — — — MicroStrategy เริ่มต้นปี 2025 ด้วยการซื้อ Bitcoin เพิ่ม 1,070BTC MicroStrategy บริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ที่ถือบิตคอยน์มากที่สุดในโลกประกาศการซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีกจำนวน 1,070 BTC ในราคาประมาณ 101 ล้านดอลลาร์ การซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30–31 ธันวาคม 2024 ด้วยราคาเฉลี่ย 94,004 ดอลลาร์ต่อ Bitcoin ซึ่งทำให้ MicroStrategy มี Bitcoin ทั้งหมดที่ถือครองอยู่ที่ 447,470 BTC มีมูลค่ารวมกว่า 27,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีราคาเฉลี่ยของบิตคอยน์ที่ 62,503 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ คิดเป็น 2.1% ของบิตคอยน์ทั้งหมด ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — Coinglass ระบุ บัญชีคริปโตถูกชำระบัญชีหรือถูกล้างพอร์ต ทะลุ 700 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Bitcoin ร่วงลงมาเหลือ 95,000 ดอลลาร์ Coinglass ระบุว่า ตลาดคริปโตประสบกับสถานการณ์การชำระบัญชีมูลค่า 712 ล้านดอลลาร์ จากนักเทรดจำนวน 237,375 ราย ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุมาจากราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ จากการวางสถานะไว้ที่สถานะ Long ด้วยสัดส่วน 88.83% มูลค่า 631.21 ล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับการวางสถานะไว้ที่ Short ที่มีเพียง 79.35 ล้านดอลลาร์ ทางด้าน Ethereum ก็ประสบกับการชำระบัญชีเช่นกันด้วยมูลค่ามากถึง 150 ล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความผันผวนของตลาดคริปโตและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแบบใช้ Leverage ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — Spot Bitcoin ETF มีกระแสเงินไหลเข้าพุ่งสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้าสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน โดยมีเงิน 978 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 9,577 BTC ที่ไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน นอกจากนี้ ยังเป็นวันที่สองติดต่อกันที่มีเงินไหลเข้ามากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อวันที่ 3 มกราคม มีเงินไหลเข้า 908 ล้านดอลลาร์จากกองทุนทั้ง 11 กองทุน โดยจำนวนเงินไหลเข้า 1,880 พันล้านดอลลาร์ได้พลิกกลับแนวโน้มที่ก่อนหน้านี้มีเงินไหลออกจำนวน 1,970 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเป็นจำนวนเงินไหลออกเกือบหมดในเวลาเพียงสองวัน ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — Van Straten เผยความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง อาจสร้างความเสี่ยงในระยะสั้นต่อราคา Bitcoin นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน Bitcoin (BTC) ก็พุ่งขึ้นราว 47% แซงหน้า S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 4% อย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และดัชนี S&P 500 เริ่มเคลื่อนไหวใกล้เคียงกันอีกครั้ง โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่แตะระดับ 0.88 (โดย 0 คือไม่มีความสัมพันธ์ และ 1 คือความสัมพันธ์แบบสัมบูรณ์) ตามเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันล่าสุด โดยปัจจัยภายในที่แสดงให้เห็นบนเครือข่ายอาจจะได้แรงหนุนอย่าง มีนัยสำคัญอย่างน้อยจนถึงกลางปี ​​2025 แต่อย่างไรก็ตาม อาจะเกิดความเสี่ยงในระยะสั้นสำหรับ Bitcoin ที่มา : CoinDesk — — — — — — — — — — ภูฏานเตรียมจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ในภูฏานมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งประกอบด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำคัญ ได้แก่ Bitcoin และ Ether โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม เขตปกครองพิเศษ Gelephu (SAR) หรือที่รู้จักกันในชื่อเมือง Gelephu Mindfulness City (GMC) เปิดเผยแผนการรับรองสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin Ether และ BNB เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเปิดโอกาสใหม่ๆ จากการมีส่วนร่วมในการขุด Bitcoin ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly Wrap-Up: MicroStrategy Buys 1,070 More Bitcoin | Bitcoin Crash Triggers Mass Liquidations | Bitcoin ETF Inflows Surge to $1 Billion Stay ahead in the world of cryptocurrency and blockchain with Bitkub Blog! We’ve rounded up the hottest news from the past week, all in one place. Wondering what investors need to know right now? Let’s dive in! This curated summary brings you the top stories from global sources, broken down into bite-sized insights for easy understanding. (P.S. Remember, this is for your knowledge only — it’s not investment advice!) — — — — — — — — — — MicroStrategy Kicks Off 2025 by Acquiring an Additional 1,070 BTC MicroStrategy, the enterprise software and consulting firm that holds the largest Bitcoin treasury in the world, announced that it has purchased an additional 1,070 BTC for about $101 million. The purchase was made on December 30–31, 2024, at an average price of $94,004 per Bitcoin. This brings MicroStrategy’s total Bitcoin holdings to 447,470 BTC, worth over $27.97 billion, at an average cost of $62,503 per Bitcoin. This represents 2.1% of all Bitcoin ever mined. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Crypto Bloodbath: $700M Liquidated as Bitcoin Crashes Coinglass reported that the crypto market experienced $712 million in liquidations from 237,375 traders within 24 hours. This was triggered by Bitcoin falling below $100,000, with long positions accounting for 88.83% of the liquidations, worth $631.21 million, compared to just $79.35 million in short positions. Ethereum also suffered significant liquidations, amounting to $150 million. This event highlights the volatility of the crypto market and the risks associated with leveraged trading. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Spot Bitcoin ETF Inflows Surge to 6-Week High, Approaching $1 Billion On January 6th, Bitcoin ETFs in the US saw their largest single-day inflow since November 21st, with $978 million, equivalent to 9,577 BTC, flowing into these investment products. This also marked the second consecutive day with over $900 million in inflows, following $908 million on January 3rd across all 11 ETFs. This $1.88 billion inflow reversed a previous outflow trend of $1.97 billion since December 19th, effectively erasing almost all of those outflows in just two days. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Van Straten: Bitcoin-US Stocks Correlation Rekindled, Posing Short-Term Risk to Bitcoin Price Since Donald Trump’s presidential election on November 5th, Bitcoin (BTC) has surged by about 47%, quickly outpacing the S&P 500's 4% gain. Recently, we’ve seen the correlation between Bitcoin and the S&P 500 begin to move closely together again. Their correlation has reached 0.88 (where 0 is no correlation and 1 is perfect correlation) based on a 20-day moving average. On-chain metrics suggest significant potential upside for Bitcoin, at least until mid-2025. However, there could be some short-term risks for Bitcoin. Source: CoinDesk — — — — — — — — — — Bhutan Makes Bold Move: Crypto in Strategic Reserves A new economic hub in Bhutan plans to establish a strategic cryptocurrency reserve fund comprised of major digital assets, including Bitcoin and Ether. On January 8th, the Gelephu Special Administrative Region (SAR), also known as Gelephu Mindfulness City (GMC), revealed plans to adopt digital assets like Bitcoin, Ether, and BNB as part of a strategic reserve fund. The goal is to enhance economic resilience and unlock new opportunities by participating in Bitcoin mining. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: -Cryptocurrency is highly risky; investors may lose all investment money. -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. รวมข่าวรายสัปดาห์ : MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่ม | บัญชีคริปโตถูกถูกล้างพอร์ต ทะลุ $700 ล้าน was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน: Napisa Wisuttipun | 10 ม.ค. 68 |อ่าน: 860
news

Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ CARVมูลค่า 300 บาท

กิจกรรม: Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ CARV มูลค่า 300 บาทระหว่าง: วันที่ 16 ม.ค. 68 เวลา 19:00–20:00 น.ลงทะเบียนได้ระหว่างวันที่ 13–16 ม.ค. 68 คลิก: https://form.bitkub.com/learn-and-earn-carv ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1.กิจกรรม Learn and Earn LIVE ตอบถูกตอบไว รับเหรียญ CARV มูลค่า 300 บาท (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2.กิจกรรมนี้เริ่มวันที่ 16 ม.ค. 68 3.ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านลิงก์ https://form.bitkub.com/learn-and-earn-carv ระหว่างวันที่ 13–16 ม.ค. 68 4.ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องตอบคำถามเพื่อรับของรางวัล ผ่านรายการ Learn and Earn LIVE วันที่ 16 ม.ค. 68 เวลา 19:00–20:00 น. บนเพจ Facebook : Bitkub 5.ของรางวัล คือ เหรียญ CARV มูลค่า 300 บาท หรือจำนวน 9.13 เหรียญ/รางวัล (คำนวณราคาเหรียญ CARV ณ วันที่ 18 ธ.ค. 67 ประมาณ 32.87 บาท/เหรียญ) จำนวน 200 สิทธิ์ 6.ขอสงวนสิทธิ์การมอบของรางวัลให้ผู้ร่วมกิจกรรม ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้- ผู้ที่กรอกแบบฟอร์มเข้าร่วมกิจกรรมถูกต้องและครบถ้วน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าที่กรอกชื่อไม่ตรงตามบัญชี Facebook จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมทุกประการ- ผู้ที่ตอบคำถามผ่านรายการ Learn and Earn LIVE ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด- ผู้ที่มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนลำดับที่ 1 ขึ้นไป ณ วันที่เข้าร่วมกิจกรรม 7.วิธีการกรอกชื่อ Facebook ลงในแบบฟอร์ม(1) กรอกชื่อ Facebook ตรงตามที่แสดงอยู่บนหน้าเพจหรือโปร์ไฟล์(2) ต้องระบุเว้นวรรค สัญลักษณ์ เครื่องหมาย ตรงตามบัญชี Facebook ทุกประการ หากมีการเว้นวรรคหรือกรอกชื่อไม่ตรงตามบัญชี Facebook ระบบจะไม่สามารถดึงข้อมูลได้ เช่น ชื่อ Facebook ของท่านคือ Bitkub Exchange ต้องระบุว่า “Bitkub Exchange” (มีเว้นวรรค)(3) หากชื่อบัญชี Facebook มีอักขระ หรือสัญลักษณ์พิเศษ โปรดกรอกตามประเภทแป้นพิมพ์ ตามจริงที่แสดงบนบัญชี Facebook เช่น ชื่อบัญชี Facebook ของท่านคือ Kitty’ Nina โปรดตรวจสอบเครื่องหมาย ‘ บนชื่อของท่านว่าใช้แป้นพิมพ์ในหมวดภาษาเดียวกัน หากชื่อบน Facebook ของท่านใช้เครื่องหมาย ‘ โดยใช้แป้นพิมพ์หมวดภาษาอังกฤษ ให้ใช้เครื่องหมายจากประเภทแป้นพิมพ์เดียวกัน หากท่านกรอกเข้ามาโดยพิมพ์สัญลักษณ์ ’ เป็นภาษาไทย ระบบจะถือว่าไม่ตรงกัน 8.ทางบริษัทฯ จะพิจารณายึดข้อมูลจากลำดับเวลาของการตอบคำถามถูกต้องและรวดเร็วที่สุด จำนวน 200 ท่านแรก 9.ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และผ่านการอบรมความรู้ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเบื้องต้นจากลิงก์ที่แนบไว้ในแบบฟอร์ม 10.บริษัทขอสงวนสิทธิ์การลงทะเบียน 1 อีเมล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange ต่อ 1 บัญชี Facebook เท่านั้น 11.ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 12.ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเหรียญ และส่งอีเมลยืนยันสิทธิ์ให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 60 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 13.ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 120 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 14.ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 15.ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 16.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 17.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ CARVมูลค่า 300 บาท was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ผู้เขียน: Mo Jatupol | 10 ม.ค. 68 |อ่าน: 551
news

Learn, Trade, & Earn แจก ATH สูงสุด 3,500 บาท

Learn, Trade, & Earn แจก ATH สูงสุด 3,500 บาท

ผู้เขียน: Pat Patcha | 09 ม.ค. 68 |อ่าน: 2,122
news

ทำความรู้จัก MARBLEX เปลี่ยนการเล่นเกมแบบดั้งเดิม สู่นวัตกรรม Blockchain Ecosystem

ทำความรู้จัก MARBLEX เปลี่ยนการเล่นเกมแบบดั้งเดิม สู่นวัตกรรม Blockchain Ecosystem

21 ม.ค. 68
news

CARV ผู้พัฒนาบล็อกเชนด้วย AI Chain Ecosystem ยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์แบบกระจายอำนาจ

CARV คืออะไร? CARV เป็น AI Chain Ecosystem ที่นำ Artificial General Intelligence (AGI) มาใช้ โดยมี CARV SVM Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย และมีความสามารถในการขยายตัวสูง ช่วยทำให้นักพัฒนาสามารถกำหนดรูปแบบของข้อมูล สำหรับการเป็นเจ้าของข้อมูล การแบ่งปัน และการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยการรวมเอาจุดเด่น Solana Virtual Machine (SVM) ที่มีความสามารถด้านความสามารถด้านการปรับขนาดรวมเข้ากับ Ethereum ที่โดดเด่นด้านความปลอดภัยและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ทำให้ CARV SVM Chain กลายมาเป็นผู้บุกเบิกยุคใหม่ของการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ ที่ AI Agents สามารถทำงานได้อัตโนมัติและปลอดภัย ปัจจุบัน CARV มีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 15 ล้านคน มีการนำไปใช้งานร่วมกับโปรเจ็กต์เกมมากกว่า 900 เกม และยังมีบล็อกเชนอีกมากกว่า 40 บล็อกเชนที่เข้าร่วม เป็นก้าวสำคัญของการปลดล็อกอนาคตของระบบนิเวศที่ใช้ AI ขับเคลื่อนระบบนิเวศ AI Chain Ecosystem ของ CARV เสริมพลังให้ AI เอเจนต์ด้วยโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย ชาญฉลาด และร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น — SVM Chain เป็นระบบฉันทามติที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง การเข้ารหัสข้อมูล และการตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้มั่นใจถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับ AI — D.A.T.A (Data Authentication, Trust, and Attestation) เป็น Framework ที่มอบข้อมูลคุณภาพสูงทั้งแบบบนเครือข่าย และนอกเครือข่าย พร้อมด้วย tags และ metrics ช่วยให้ AI Agents สามารถเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ CARV และ CARV ID ยังช่วยทำให้การเป็นเจ้าของข้อมูล และความเป็นส่วนตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและสร้างรายได้จากข้อมูลของตนเอง ในขณะเดียวกันก็สามารถมอบข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมให้กับ AI Agents เมื่อส่วนประกอบเหล่านี้มารวมกัน ทำเกิดระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ที่ทำให้ AI Agents และ มนุษย์ สามารถร่วมมือและตอบโต้กันได้ท่ามกลางข้อมูลจำนวนมหาศาล ภาพรวมของ CARV — ที่มา: carv.io ระบบนิเวศของ CARV ประกอบด้วยส่วนสำคัญทั้งหมด 4 ส่วน คือ — CARV SVM Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มี AI Agents ด้วยการรวมเอา Solana Virtual Machine (SVM) ที่มีความสามารถด้านความสามารถด้านการปรับขนาดรวมเข้ากับ Ethereum ที่โดดเด่นด้านความปลอดภัยและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งมารวมเข้าด้วยกัน ทั้งนี้ SVM Chain ยังช่วยทำให้ AI Agents สามารถจัดการและโต้ตอบกับข้อมูลได้แบบครบวงจรแบบอัตโนมัติ และยังรักษาความเป็นส่วนตัวผ่านเทคโนโลยี zk-technology และ Trusted Execution Environments (TEE) โครงสร้างนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของ ควบคุม และสร้างรายได้จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวก็สามารถให้รางวัลแก่นักพัฒนาที่สร้างและบำรุงรักษาข้อมูลโดยช่วยการทำงานด้านต่างๆ เช่น การพัฒนา AI, เกม, DeSci และอื่นๆ อีกมากมาย — D.A.T.A. (Data Authentication, Trust, and Attestation) Framework เป็นตัวเพิ่มศักยภาพให้กับ AI Agents ด้วยข้อมูลคุณภาพสูงจากทั้งแบบ on-chain และ off-chain สามารถช่วยให้เกิดการเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาได้ พร้อมรับประกันความเป็นส่วนตัวด้วย Trusted Execution Environments (TEE) และการเข้ารหัสข้อมูล เป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความไว้วางใจ ทำให้ AI Agents สามารถเติบโตในระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจ — CARV ID (ERC7231) เป็นส่วนหนึ่งของ D.A.T.A. ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลระบุตัวตนทั้งแบบ on-chain และ off-chain สำหรับ AI Agents ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ใช้งานและกิจกรรมบนบล็อกเชน นอกจากนี้ยังทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลที่กระจัดกระจายเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ขณะเดียวกันก็เพิ่มขีดความสามารถให้กับ AI Agents ด้วยความรู้ที่จำเป็นในการเรียนรู้ แบ่งปัน และพัฒนาภายในระบบนิเวศที่ปลอดภัยและโปร่งใส — CARV Labs เป็นผู้พัฒนาการเติบโตของระบบนิเวศบนบล็อกเชนที่มากกว่าการพัฒนาเพียงระบบนิเวศ CARV เพียงรายเดียว แต่ CARV Labs ยังเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมโครงสร้างพื้นที่ใช้ AI Agents ด้วยการมุ่งเน้นเสริมสร้างศักยภาพของนักพัฒนาและขับเคลื่อนการนำไปใช้งานอย่างแท้จริงให้แพร่หลายบนระบบนิเวศ CARV AI Chain นอกจาก CARV Labs ทำหน้าที่เป็นแหล่งบ่มเพาะ (Incubator) สำหรับโครงการและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในด้านการให้ความเป็นเจ้าของของข้อมูลในรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีใหม่สำหรับ Artificial General Intelligence (AGI) ซึ่งจะช่วยเรื่องการรวบรวม แบ่งปัน และการให้ความสำคัญของข้อมูลคุณภาพสูงทั้งแบบ on-chain และ off-chain เบื้องหลังการพัฒนา CARV Protocol CARV ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิดเรื่อง soulbound tokens concept ของ Vitalik Buterin ได้ระดมทุนรวมทั้งสิ้น 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Tribe Capital, HashKey Capital และ Animoca Brands โดย CARV ได้พัฒนาจากจุดเริ่มต้นที่มุ่งเน้นโซลูชันการระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์ จนกลายเป็นกำลังสำคัญในด้านการปกป้องและการสร้างรายได้จากข้อมูล หลังจากเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม 2023 และเปิดตัว mainnet สำเร็จในกลางปี 2024 ปัจจุบัน CARV กำลังสร้างระบบนิเวศน์ AI chain เพื่อให้เกิดอำนาจในการควบคุมข้อมูลในระดับใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเสริมพลังให้ AI เอเจนต์มีอำนาจควบคุมข้อมูลอย่างแท้จริง CARV นำเสนอโครงสร้างพื้นฐานแบบครบวงจรที่ผู้ใช้ นักพัฒนา และระบบ AI สามารถเติบโตได้อย่างปลอดภัยและร่วมมือกัน เทคโนโลยีล้ำสมัยของ CARV ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างข้อมูลบนเชนและนอกเชนเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นการวางรากฐานสำหรับนวัตกรรมในด้านเกม ปัญญาประดิษฐ์ และอื่นๆ อีกมากมาย ในเดือนมกรา 2025 CARV ได้เปิดตัว CARV SVM Chain ในช่วงเวลาที่ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญอย่างยิ่ง CARV มุ่งมั่นในการสร้างโอกาสให้กับผู้ใช้งานและนักพัฒนาได้สามารถควบคุมข้อมูลของตนเองได้ ด้วยการขยายขีดความสามารถไปสู่ Ethereum เครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นผู้บุกเบิกระบบนิเวศที่ปลอดภัยและราบรื่นที่จะทำให้ AI Agents สามารถเติบได้ ทั้งนี้ CARV SVM Chain ทำงานด้วยเทคโนโลยี zk-technology และ Trusted Execution Environments (TEE) ที่มอบความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความสามารถการปรับขนาด และการเชื่อมต่อสภาพคล่องระหว่าง Ethereum และ Solana ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ CARV ช่วยให้บริษัทเกมและ AI จำนวนมากกว่า 900 แห่งทั่วทั้งโลก Web2 และ Web3 เช่น Electronic Arts, Netmarble และ AliCloud สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลในลักษณะของสินค้าในรูปแบบเฉพาะตามความต้องการทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการฝึก NPC ภายในเกม การเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งาน เป็นต้น CARV สามารถดึงดูดผู้ใช้ที่ลงทะเบียนรวมกันกว่า 15 ล้านรายและกระเป๋าเงินรายวัน (Daily Unique Active Wallets) มากถึง 2.1 ล้านรายบนเครือข่ายมากกว่า 40 แห่ง ปัจจุบัน CARV กำลังขยายนวัตกรรมของตนไปยังโครงสร้างพื้นฐานของ AI Agents ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับแอปพลิเคชันที่มี AI CARV SVM Chain มีความสำคัญอย่างไร CARV SVM Chain มีลักษณะเป็นโครงสร้างพื้นแบบ AI Agentic ที่ขยายขีดความสามารถของ SVM ไปสู่ ​​Ethereum โดยใช้ประโยชน์จาก zk-technology และ Trusted Execution Environments (TEE) เพื่อให้มั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล สิ่งที่ทำให้ CARV SVM Chain มีความแตกต่าง: — การปรับขนาด (Scalability): ใช้ประโยชน์จากความเร็วในการทำธุรกรรมและต้นทุนต่ำของ Solana — ความปลอดภัย: ใช้ความสามารถด้านความปลอดภัยที่พิสูจน์แล้วของ Ethereum และ zk — สภาพคล่องแบบหลายเครือข่าย (Liquidity Bridging): เป็นนำเอาสภาพคล่องของ Solana และ Ethereum มารวมเข้าด้วยกัน สร้างสภาพคล่องที่โดดเด่น — มีความเป็นส่วนตัว: การโต้ตอบข้อมูลได้รับการรักษาความปลอดภัยผ่าน TEE และ zk-proofs ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้และ agent ยังคงเป็นความลับ — AI Agent Support: ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการโต้ตอบระหว่าง autonomous agents, ผู้ใช้งาน และแอปพลิเคชัน CARV SVM Chain มีประโยชน์ต่อนักพัฒนาและผู้ใช้งานอย่างไร — นักพัฒนา: ตัวเครือข่ายสร้างแรงจูงใจให้กับนักพัฒนาที่สร้างและดูแลระบบนิเวศ AI Agents รวมถึง DApps ให้มีความสามารถด้านการปรับขนาด มีความปลอดภัย และลดอุปสรรคการทำงานร่วมกันแบบข้ามเครือข่าย — ผู้ใช้งาน: CARV SVM Chain ช่วยให้บุคคลต่างๆ เป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลของตนเองได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้จากข้อมูลของตนเองได้ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัว ในลักษณะที่สามารถครอบครองข้อมูลเจ้าตัวตนดิจิทัล และยังได้รับผลตอบแทนเช่นเดียวกับการนำข้อมูลไปใช้สำหรับ AI — AI Agents: AI Agents ได้รับผลประโยชน์จากระบบนิเวศที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ, ออกให้ AI สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด, ร่วมทำงานได้แบบอัตโนมัติ และช่วยแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้แบบเรียลไทม์ CARV มีความสำคัญอย่างไรสำหรับอนาคต ในอนาคตมีความเป็นได้ว่า AI Agents จะมีความสามารถในการเรียนรู้ โต้ตอบ และพัฒนาไปพร้อมกับผู้ใช้งานได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ข้อมูลในอุตสาหกรรมต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุม รวบรวม และสร้างรายได้จากข้อมูลของต้นได้ พร้อมทั้งยังรักษาความเป็นส่วนตัวและสร้างรายได้อย่างเท่าเทียม ตัวอย่างการนำมาใช้งาน — สำหรับเกม: สร้างการมีส่วนร่วมใหม่ๆ ผ่านการใช้งานตัวละคร NPC ที่ฉลาดขึ้น และเพิ่มประสบการส่วนบุคคลด้วยการใช้ AI มาช่วยเหลือ — DeSci: ช่วยให้นักวิจัยทั่วโลกทำงานร่วมกันเกี่ยวกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อนด้วยเครื่องมือที่รักษาความเป็นส่วนตัว เร่งให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนายาเฉพาะบุคคล — AI แบบส่วนที่สามารถปรับแต่งได้: ร่วมสร้างรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์ใหม่ๆ สนับสนุนให้เกิดการสร้าง AI ที่เป็นเพื่อนที่ชาญฉลาดทางอารมณ์ และเป็นเพื่อนในชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โทเคน CARV คืออะไร? CARV เป็น Governance Token ของระบบนิเวศ CARV ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของ ควบคุมและสร้างรายได้จากข้อมูลส่วนบุคคลของต้นได้ ตัวโทเคน CARV สร้างขึ้นบนเครือข่าย Base โดยให้ผู้ถือครองสามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เสนอฟีเจอร์ใหม่ และกำหนดรูปแบบระบบนิเวศของ CARV ได้อย่างจริงจัง มีเป้าหมายเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ยั่งยืน ซึ่งผู้ใช้จะได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วม ทำให้ข้อมูลเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลที่มีค่าในโลก Web3 ที่กำลังเติบโต นอกจากนี้ CARV ยังมีการอัปเกรดโทเคนของ SVM Chain หลายประการ เช่น — Gas Token ใช้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการประมวลผลเครือข่ายของโหนดบนบล็อกเชน — Liquidity Pairing เป็น AI Agent โทเคนที่จะจะถูกจับคู่กับโทเคน CARV ในกลุ่มสภาพคล่อง — ใช้เป็นสกุลเงินสำหรับการชำระเงิน — โทเคนรูปแบบ premium สำหรับผู้ค้าปลีกในระบบนิเวศ CARV เช่น ค่าแก๊สแบบหลายเครือข่าย การซื้อสินทรัพย์ในเกม ฯลฯ — AI Agents และโปรเจ็กต์เกี่ยวกับ AI ที่จะเป็นช่องทางการเข้าใช้งานอรรถประโยชน์ของ CARV protocol อย่างต่อเนื่อง — แรงจูงใจในช่วงเริ่มต้นของ CARV protocol (bootstrap) เช่น การพัฒนา modular data layer สำหรับการเป็นต้วของข้อมูล, การให้บริการ และสำหรับผู้บริโภค — CARV สามารถแปลงเป็น veCARV ได้ด้วยอัตราส่วน 1:1 ผ่านการทำ Staking เป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ดำเนินการโหนดที่รักษาความปลอดภัยและสนับสนุนเครือข่าย และยังสามารถแลก นอกจากผู้ทำหน้าที่รันโหนดให้กับ CARV ยังได้รับรางวัลเป็น veCARV และผู้ที่ stake โทเคน CARV จะได้รับ veCARV(s) โดยตัวโทเคน veCARV and veCARV(s) เป็นโทเคนในแบบที่ไม่สามารถโอนได้ที่ให้ อนุญาตให้ผู้ถือครองเข้าร่วมในการกำกับดูแล โดยโทเคน veCARV ทำงานอยู่บนเครือข่าย Arbitrum ส่วน veCARV(s) ทำงานอยู่บนเครือข่าย Base ซึ่งทั้งสองโทเคนให้ผู้ถือครองสามารถมีส่วนร่วมในการกำกับดูแล โดยการล็อกโทเคนเอาไว้เพื่อเพิ่มอำนาจการลงคะแนนผ่านรูปแบบ “voting escrow” เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมในระยะยาว ในเวอร์ชันนี้มุ่งเน้นในการตัดสินใจด้านการกำกับดูแลเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันยังจำกัดอยู่ในการลงคะแนนเท่านั้น โดยในอนาคตอาจจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานในอนาคต รูปแบบการใช้งานโทเคน CARV — ที่มา CARV.io การกระจายโทเคนของ CARV ปริมาณรวมของ CARV อยู่ที่ 1,000,000,000 และจะสามารถเข้าถึงได้ภายในระยะเวลา 4 ปี เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาของการสร้างโทเคน Token Generation Event (TGE) ดังนี้ — โหนดและชุมชน 50.000% — ผ่านวิธีการต่างๆ เพื่อตอบแทนชุมชนสำหรับความพยายามและการมีส่วนสนับสนุนให้โครงการประสบความสำเร็จ — ระบบนิเวศและคลัง 9.000% — กองคลังเป็นผู้ถือโทเคน CARV — นักลงทุนรายแรก 9.246% — นักลงทุนช่วงเริ่มต้นและนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ในช่วงแรกบน CARV ที่และกลุ่มที่เต็มใจจะร่วมลงทุนในโครงการในระยะยาว — การระดมทุนส่วนบุคคล 8.295% — เกิดขึ้นในช่วงการระดมทุน Series A และนักลงทุนบน CARV ที่เข้าร่วมในการระดม — ทีมผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษา 19.459% — ตอบแทนกลุ่มผู้ก่อตั้งหลักและที่ปรึกษาสำหรับความพยายามเต็มเวลาของพวกเขาเพื่อความสำเร็จของโครงการ — สภาพคล่อง 4.000% — เป็นโทเคนที่จัดสรรเพื่อให้ระบบนิเวศมีสภาพคล่อง ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ CARV ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2025 เหรียญ CARV มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 11,579,658 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,799,409,871 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ CARV ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.6471 ดอลลาร์ หรือประมาณ 22.03 บาทต่อ 1 CARV โดย CARV เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 1.40 ดอลลาร์ หรือ 48.15 บาท ต่อ 1 CARV เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 อ้างอิง: CARV.IO, Doc CARV, CoinMarketCap, CARV Medium — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — CARV AI Chain Ecosystem: Building the Future of AI with Decentralized Data and User-Driven What is CARV? CARV is an innovative AI chain ecosystem designed to enable data sovereignty at scale. Its primary goal is to empower users and developers by providing them with control over their data, ensuring privacy and security in a decentralized environment. Recently, CARV launched the CARV SVM Chain, which aims to create a self-sovereign AI agent infrastructure that extends its existing capabilities onto the Ethereum blockchain. This infrastructure allows AI agents to autonomously acquire, verify, store, and process data while maintaining high standards of privacy and security through technologies like zero-knowledge proofs (zk) and trusted execution environments (TEE). Background Behind CARV CARV, founded in 2022, emerged from an inspiration sparked by Vitalik Buterin’s soulbound tokens concept. Having raised an impressive $50M in total funding from top-tier investors like Tribe Capital, HashKey Capital, and Animoca Brands, CARV has evolved from its initial focus on decentralized identity solutions to become a pioneering force in data protection and monetization. After becoming operational in December 2023 and successfully launching its mainnet in mid-2024, CARV is now building an AI chain ecosystem to enable data sovereignty at scale. Dedicated to empowering AI agents with true data sovereignty, CARV delivers a unified infrastructure where users, developers, and AI systems can thrive securely and collaboratively. Its cutting-edge technology ensures a seamless interplay between on-chain and off-chain data, setting the stage for innovation in gaming, artificial intelligence, and beyond How Does CARV Work? CARV’s chain ecosystem empowers AI agents with a unified infrastructure to operate securely, intelligently, and collaboratively. — The SVM Chain provides trustless consensus, cryptographic proofs, and verifiable execution, ensuring a secure environment for AI operations. — The D.A.T.A (Data Authentication, Trust, and Attestation) Framework delivers high-quality on-chain and off-chain data, enriched with tags and metrics, enabling AI agents to learn, share, and evolve dynamically. — Complementing this, the CARV Protocol and CARV ID ensure data sovereignty and privacy, allowing users to control and monetize their data while providing AI agents with comprehensive, cross-chain insights. Together, these components create a robust ecosystem where AI agents and humans can thrive through secure, collaborative, and data-rich interactions CARV’s Ecosystem The CARV ecosystem comprises several key components CARV SVM Chain CARV SVM Chain is an AI agentic infrastructure that extends SVM’s capabilities onto Ethereum. With Solana’s scalability and Ethereum’s security, it empowers native AI agents with perception, cognition, and intelligent action based on data sovereignty, accelerating evolution towards Artificial General Intelligence. D.A.T.A. (Data Authentication, Trust, and Attestation) Framework The D.A.T.A Framework (Decentralized Autonomous Transparent Access) empowers AI agents with high-quality on-chain and off-chain data enriched with actionable metrics. It enables learning, sharing, and evolution while ensuring privacy through Trusted Execution Environments (TEE) and cryptographic proofs. By fostering collaboration and trust, D.A.T.A equips AI agents to thrive in a decentralized ecosystem. CARV ID (ERC-7231) CARV ID powers the D.A.T.A Framework by aggregating cross-chain and off-chain identities, providing AI agents with comprehensive insights that enhance their understanding of users and blockchain activities. It unifies fragmented data, enabling deeper context through enriched tags and metrics. This seamless integration ensures data sovereignty, allowing users to control their data while empowering AI agents with the knowledge needed to learn, share, and evolve within a secure and transparent ecosystem. CARV Labs To accelerate ecosystem growth in and beyond CARV’s ecosystem, CARV Labs spearheads innovation in the AI agentic infrastructure enabling data sovereignty with incubation, grants, and infrastructure. With a focus on empowering developers and driving mass adoption in CARV AI Chain ecosystem, CARV Labs serves as the incubator for groundbreaking projects and technologies that redefine data ownership towards a new form of evolution for AGI: one driven by the aggregation, sharing, and refinement of high-quality on-chain and off-chain data. What is CARV Token The CARV Token ($CARV) is the native cryptocurrency of the CARV ecosystem. It serves multiple functions, including governance, utility within various applications, and incentivizing participation in the ecosystem. Governance: CARV grants holders the ability to actively engage in decision-making, propose new features, and shape the CARV ecosystem. Gas Fees: CARV Token used to pay for the network computing costs of nodes in the blockchain. Liquidity Pairing: AI agent token will be paired with the $CARV token in its respective liquidity pool. Payment Currency: CARV tokens can be used as a medium of exchange for payments or transfers to other users within the ecosystem. Incentives for Nodes: CARV tokens are used as rewards given to Node Operators as an incentive to maintain network stability. Staking: Users can stake CARV tokens to earn rewards in the form of veCARV tokens. veCARV can be used for voting and can later be redeemed back into CARV tokens. Currently, CARV is trading at $0.6455 per token with a total market capitalization of $111.1 million, ranking 505th in the cryptocurrency market. It has a circulating supply of 172,427,649 CARV out of a maximum supply of 1,000,000,000 CARV (data referenced from Coingecko as of January 12, 2025). CARV Token Distribution The total supply of CARV is 1,000,000,000 tokens, which will become accessible over a 4-year period, starting from the Token Generation Event (TGE). Here’s the breakdown: — Nodes and Community: 50.000% — Distributed through various methods to reward the community for their efforts and contributions to the project’s success. — Ecosystem and Treasury: 9.000% — The treasury holds these CARV tokens for ecosystem development and operations. — Early Investors: 9.246% — Allocated to early-stage and strategic investors who supported CARV in its initial phases and are committed to the project’s long-term vision. — Private Fundraising: 8.295% — Tokens sold during the Series A funding round to private investors who participated in the capital raise. — Founding Team and Advisors: 19.459% — Rewards the core founding team and advisors for their full-time dedication and efforts towards the project’s success. — Liquidity: 4.000% — Tokens allocated to ensure sufficient liquidity within the CARV ecosystem. Summary In conclusion, CARV is at the forefront of building an AI chain ecosystem that champions data sovereignty through its innovative technologies and frameworks. The launch of the CARV SVM Chain Testnet marks a significant milestone in enabling AI agents to operate autonomously while ensuring user privacy and control over personal data. With a strong foundation built on experienced leadership, extensive user engagement, and a commitment to decentralization, CARV is poised to redefine how data is managed and utilized in an increasingly digital world. Stay updated with CARV’s important developments at https://x.com/carv_official Reference: CARV.IO, Doc CARV, CoinMarketCap, CoinGecko — — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — CARV ผู้พัฒนาบล็อกเชนด้วย AI Chain Ecosystem ยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์แบบกระจายอำนาจ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

21 ม.ค. 68
news

Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen

Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen

20 ม.ค. 68
news

รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin แตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสม

รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin กลับมาแตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสมทะลุ $20 ล้านล้าน | มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงถึง 322% Bitkub Blog รวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้อ่านกันที่นี่แล้ว มีข่าวอะไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาดบ้าง มาดูกันได้เลย! เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด — — — — — — — — — — Bitcoin กลับมาแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% Bitcoin พุ่งขึ้นจาก 96,000 ดอลลาร์เป็น 98,400 ดอลลาร์ หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเดือนธันวาคมและข้อมูล PPI ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.4% ต่อเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อประจำปีอยู่ที่ 2.9% สูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปีลดลงเหลือ 3.2% จาก 3.3% การตอบสนองของตลาดสะท้อนถึงการมองโลกในแง่ เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลง แม้ว่าดัชนี CPI ประจำปีที่เพิ่มขึ้น ที่อาจสร้างแรงกดดันด้านราคา ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin สะท้อนถึงความอ่อนไหวต่อตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวชี้วัดที่มีอิทธิพลต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งการประชุมนโยบายครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐน่าจะให้ทิศทางเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคตได้ ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสมทะลุ 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ Circle ออกเผยแพร่รายงานว่า USD Coin (USDC) มีปริมาณธุรกรรมสะสมเกิน 20 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน 2024 USDC มีปริมาณธุรกรรมรายเดือนที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ รายงานเน้นย้ำถึงบทบาทของ USDC ในฐานะตัวแทนเงินดิจิทัลของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อยู่ในบล็อกเชนต่างๆ นอกจากนี้ การหมุนเวียนของ USDC ยังเติบโตขึ้น 78% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรายงานยังสนับสนุนข้อได้เปรียบของ stablecoin เมื่อเทียบกับเงิน fiat เช่น ประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความเร็วในการทำธุรกรรมที่แทบจะทันที และการเข้าถึงทั่วโลก ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงถึง 322% ในไตรมาส 4 ปี 2024 ได้แรงสนับสนุนจากเครือข่าย Solana มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงขึ้น 322% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นจาก 4,800 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคมเป็น 15,500 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม โดยเมื่อวันที่ 14 มกราคม CoinGecko ได้เผยแพร่ “Annual Crypto Industry Report” เปิดเผยว่า AI Agents ได้รับความนิยมในหลังจากมีการเปิดตัวโปรเจ็กต์ Goatseus Maximus (GOAT) เมื่อเดือนตุลาคม 2024 AI Agents เป็นโปรแกรมแบบอัตโนมัติที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ในการดำเนินงาน มักจะอยู่ในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) หรือเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศบล็อกเชน ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — ตลาดอนุพันธ์ใน Bitcoin ส่งสัญญาณความผันผวนเพิ่มขึ้นก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง 20 มกราคม ตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin ส่งสัญญาณผันผวนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเตรียมตัวสำหรับการเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 ในวันที่ 20 มกราคม 2025 กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน ต่อจาก Grover Cleveland ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในปี 1893 ที่มีความแตกต่างจากทรัมป์ เพราะ Cleveland คัดค้านการใช้ภาษีศุลกากรสูง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าผู้ซื้อขายจะระมัดระวังมากขึ้น ข้อมูลจากตลาดซื้อขายอนุพันธ์ Derive.xyz แสดงให้เห็นสัญญาณของการคาดการณ์แนวโน้มขาลงในระยะกลาง โดยการซื้อ Bitcoin แบบ Options เพิ่มขึ้นจนคิดเป็น 40% ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบน Derive.xyz เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา “ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 20% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบ่งชี้ว่าผู้ซื้อขายกำลังป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงด้านลบขณะที่เรากำลังเข้าใกล้พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์” Sean Dawson หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Derive.xyz กล่าวกับ The Block ที่มา : The Block — — — — — — — — — — สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เตือนภัยคุกคามการแฮ็กสกุลเงินดิจิทัลจากเกาหลีเหนือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ออกคำเตือนร่วมกันเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากแฮ็กเกอร์สกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) โดยมีกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่ม Lazarus ที่มีชื่อเสียงด้านลบเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีการโจรกรรมทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดบางคดีบนโลก Web3 รวมถึงการแฮ็กเครือข่าย Ronin มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์และการแฮ็กการแลกเปลี่ยน WazirX มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อ “ความสมบูรณ์และเสถียรภาพของระบบการเงินระหว่างประเทศ” ตามประกาศร่วมที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 มกราคม แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่าเกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่จะระดมทุนสำหรับโครงการขีปนาวุธพิสัยไกลผ่านการขโมยสกุลเงินดิจิทัล “รัฐบาลทั้งสามและอุตสาหกรรมเอกชน มุ่งมั่นร่วมกันป้องกันการโจรกรรมจากเกาหลีเหนือ และมีความพยายามที่จะกู้คืนเงินที่ถูกขโมยไป มีเป้าหมายเพื่อปฏิเสธรายได้ที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือจากโครงการสร้างอาวุธทำลายล้างสูงและขีปนาวุธพิสัยไกล” ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly Wrap-Up: Bitcoin Hits $100K on Inflation News | USDC Transactions Top $20 Trillion | AI Agents Market Explodes 322% on Solana Stay ahead in the world of cryptocurrency and blockchain with Bitkub Blog! We’ve rounded up the hottest news from the past week, all in one place. Wondering what investors need to know right now? Let’s dive in! This curated summary brings you the top stories from global sources, broken down into bite-sized insights for easy understanding. (P.S. Remember, this is for your knowledge only — it’s not investment advice!) — — — — — — — — — — Bitcoin Surges to $100,000 on Positive US Inflation Data Bitcoin surged from $96,000 to $98,400 following the release of December’s Consumer Price Index (CPI) and Producer Price Index (PPI) data. The CPI report indicated a 0.4% monthly increase, in line with forecasts. The annual inflation rate stands at 2.9%, a slight uptick from November’s 2.7%, also meeting expectations. Core inflation, excluding food and energy, rose by 0.2% month-on-month, matching predictions, but the annual core inflation rate dipped to 3.2% from 3.3%. The market’s response reflects optimism as the data suggests a downward trend in inflation, despite the rise in the annual CPI, which could exert price pressure. Bitcoin’s price movement underscores its sensitivity to macroeconomic indicators, particularly those influencing the Federal Reserve’s policies. The upcoming Federal Reserve policy meeting is expected to provide further direction, especially regarding interest rate adjustments that could impact the future economy. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — USDC Surpasses $20 Trillion in All-time Transaction Volume Circle has released a report stating that USD Coin (USDC) has surpassed $20 trillion in cumulative transaction volume in 2024. In November 2024 alone, USDC recorded a monthly transaction volume of $1 trillion. The report emphasizes USDC’s role as a digital representation of the US dollar across various blockchains. Additionally, USDC’s circulation has grown by 78% year-over-year. The report further supports the advantages of stablecoins compared to fiat currency, such as cost efficiency, near-instant transaction speeds, and global accessibility. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — AI Agents Market Cap Soars 322% in Q4 2024, Fueled by Solana Network The market capitalization of AI Agents surged by 322% in the fourth quarter of 2024, increasing from $4.8 billion in October to $15.5 billion in December. According to CoinGecko’s “Annual Crypto Industry Report” released on January 14th, AI Agents gained significant traction following the Goatseus Maximus (GOAT) project launch in October 2024. AI Agents are autonomous programs that leverage artificial intelligence to execute tasks, often within decentralized finance (DeFi) or as integral components of blockchain ecosystems. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Bitcoin Derivatives Market Signals Rising Volatility Ahead of Trump’s January 20 Inauguration The Bitcoin derivatives market is showing signs of volatility due to rising expectations as President Donald Trump prepares for his second term inauguration on January 20, 2025, becoming the second U.S. president in history to serve non-consecutive terms, following Grover Cleveland, who served his second term in 1893 and opposed high tariffs, unlike Trump. In light of these developments, traders seem to be more cautious. Data from the derivatives trading platform Derive.xyz indicates signs of a bearish trend prediction in the medium term, with Bitcoin options purchases rising to account for 40% of futures contracts on Derive.xyz, marking a significant increase over the past week. “This is a sharp rise from 20% last week, indicating that traders are hedging against potential downside risks as we approach Trump’s inauguration,” said Sean Dawson, Head of Research at Derive.xyz, in an interview with The Block. Source: The Block — — — — — — — — — — US, Japan, and South Korea Warn of Rising North Korean Crypto Hacking Threat The United States, Japan, and South Korea have issued a joint warning about the growing threat of cryptocurrency hackers linked to the Democratic People’s Republic of Korea (DPRK). Groups like the infamous Lazarus Group are prime suspects in some of the biggest cyber heists in the Web3 world, including the $600 million Ronin Network hack and the $230 million WazirX exchange hack. North Korean hackers now pose a significant threat to the “integrity and stability of the international financial system,” according to the joint advisory published on January 14th. The statement claims that North Korea aims to fund its long-range missile programs through cryptocurrency theft. “The three governments, along with private industry, are committed to disrupting North Korean theft and attempted laundering of stolen funds, with the goal of denying North Korea illicit revenue for its weapons of mass destruction and ballistic missile programs.” Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: -Cryptocurrency is highly risky; investors may lose all investment money. -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin แตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสม was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

17 ม.ค. 68
news

LeisureMeta โปรเจกต์ Web 3.0

LeisureMeta โปรเจกต์ Web 3.0 Community ที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้งานจริงในอุตสาหกรรมบันเทิง LeisureMeta (LM) คืออะไร LeisureMeta ผู้นำในการผสมผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับการความบันเทิง โครงการนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบนิเวศที่เรียกว่า “LM Twin City” ที่เชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริง และโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกัน และทำให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมใน DAO LM Twin City — ที่มา https://x.com/LeisureMeta_LM/status/1830791691776991718 โครงการ LeisureMeta มุ่งมั่นที่จะเป็น Web3 Enabler เพื่อสร้างชุมชน DAO ที่ยั่งยืนผ่าน DAO ที่ใช้บล็อกเชนเป็นตัวเชื่อมโยง เพื่อทำให้เกิดการสร้างงาน แหล่งรายได้แบบใหม่ และตระหนักถึงคุณค่า Web3 ในด้านของสิทธิ์ ความเป็นธรรม และเคารพถึงเสรีภาพของมนุษย์ ด้วยนำเสนอ “new normal” สำหรับชุมชนทางสังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีอยู่ เช่น ความสามารถในการปรับขนาด (scalability) ค่าธรรมเนียมก๊าซที่มีราคาสูง และ UX ที่ใช้งานยากและไม่น่าสนใจ ที่มา : LeisureMeta — x.com LeisureMeta ทำงานอย่างไร? LeisureMeta ถูกสร้างขึ้นจากการผสมผสานอันทรงพลังของเทคโนโลยีบล็อกเชนและวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ขั้นสูงเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลบน Web3 หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ โครงสร้างบัญชี Unspent Transaction Output หรือ UTXO แบบไฮบริด ซึ่งผสานบล็อกเชนโมเดล 2 แบบ เข้าด้วยกัน เพื่อให้การธุรกรรมรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น การออกแบบนี้ทำให้เกิดความยืนหยุ่นสำหรับ Smart contract และ Decentralized applications (DApps) เพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ตัว LeisureMeta ใช้อัลกอริทึมฉันทามติแบบผสม Byzantine Fault Tolerant (BFT) แบบ Tendermint + Hotstuff ผสมเข้ากับ proof-of-stake (PoS) ซึ่งช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถจัดการธุรกรรมได้สูงสุดที่ 1,000 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็ว เช่น แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และตลาด NFT LeisureMeta ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายด้วย Bloom filters ซึ่งช่วยลดการส่งข้อมูลระหว่างโหนดด้วยการกรองธุรกรรมที่ทราบออกไป ส่งผลให้เครือข่ายทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคุณสมบัติที่สำคัญถัดมา คือ ความสามารถในการรองรับการจับคู่ private key แบบหลายชุด ช่วยให้ผู้ใช้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย และปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โครงสร้าง Conflict free Replicated Data Type (CRDT) ยังช่วยขจัดธุรกรรมที่ซับซ้อน ทำให้บล็อกเชนสามารถสร้างบล็อกได้ถายในเวลาเพียง 1 วินาที ช่วยให้การตอบโต้สามารถเกิดขึ้นได้แบบเรียลไทม์ คุณสมบัติการเชื่อมต่อได้แบบหลายเครือข่ายของ LeisureMeta ยังช่วยให้บล็อกเชนต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น เช่น ผู้ใช้สามารถโอนโทเคน LM ระหว่างเครือข่าย LeisureMeta และ Ethereum ได้อย่างง่ายดาย ทำให้มีสภาพคล่องและใช้งานได้ในทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ ทำให้ LeisureMeta สามารถมอบโครงสร้างพื้นที่ทำงานได้รวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถปรับขนาดได้ เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้งาน ที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของ DApps และเศรษฐกิจดิจิทัล หัวใจหลักของฟังก์ชันการทำงานของ LeisureMeta คือ DApp ซึ่งทำงานอัตโนมัติผ่านระบบสัญญาอัจฉริยะโดยไม่มีการควบคุมจากส่วนกลาง ตัวแพลตฟอร์มนำเสนอบริการ DApp ที่หลากหลาย รวมถึงชุมชน Web 3.0 อย่าง “LM NOVA”, NFT Marketplace 2.0 “playNomm” และ “LM Wallet” ที่ได้รับรางวัล และยังมี DAO ที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใน ทำให้ชุมชนสามารถตัดสินใจได้อย่างโปร่งใสและดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา LeisureMeta LeisureMeta เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้าน Web3 โดยส่งเสริมชุมชน สังคม วัฒนธรรมและเศรษฐกิจ ผู้อยู่เบื้องหลักการพัฒนาสำคัญนี้ ประกอบด้วย Sung Uk Moon ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO, Dong Cherl Han ดำรงตำแหน่ง CTO, Sung Sik Park ดำรงตำแหน่ง CCO และ Harry Kim ดำรงตำแหน่ง CSO โดยพวกเขามีความเชี่ยวชาญครอบคลุมในหลายๆ ด้าน มีส่วนสนับสนุนในการสร้างและพัฒนา LeisureMeta นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุน เช่น eugene70, hysung220, kjg0904, G-yhlee, pjw0328, senthil28, sungkmi, scouts0i, airlift01, pickup08, LatteScience08, guidedarrow, walfarepunkloser, onthepage, insightdevcoder และ LeisureMeta_LM LeisureMeta Ecosystem มีอะไรบ้าง I LIKE LM คือ หัวใจสำคัญของระบบนิเวศ LeisureMeta ที่มีเป้าหมายสร้างความแตกต่างบนตลาด Web3 ด้วยรูปแบบของ SocialFi โดยมีคุณสมบัติหลักของแพลตฟอร์ม ดังนี้ — รองรับการสร้างคอนเทนต์สร้างสรรค์: ส่งเสริมให้ผู้สร้างคอนเทนต์สามารถผลิตเนื้อหาที่มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นต้นฉบับ — การมีส่วนร่วมของชุมชน: สร้างรูปแบบการสื่อสารที่แข็งแกร่งระหว่างผู้สร้างคอนเทนต์และแฟนคลับ — มี DAO ที่โปร่งใส: สร้างมูลค่าร่วมกันและให้รางวัลแก่ผู้มีส่วนสนับสนุนผ่านชุมชน DAO ที่ยุติธรรมและโปร่งใส — เชื่อมโยงโลกแห่งความจริงและเสมือนจริงเข้าด้วยกัน: มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ระหว่างโลกเสมือนและโลกแห่งความจริงผ่านโลกบล็อกเชน LM NOVA เป็นชุมชนบน Web3 (A2E) ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นพื้นที่สำหรับระบบนิเวศที่ยั่งยืนของผู้สร้าง Web3 และแฟนคลับ นอกจากนี้สำหรับ Web3 Creators สามารถรับรางวัลเป็นโทเคนได้เพียงแค่อัปโหลดเนื้อหาและตอบกลับผู้ใช้ และสุดท้ายสำหรับผู้ใช้งาน สามารถได้รับรางวัลจากการเป็นผู้ติดตามผู้สร้างคอนเทนต์ที่ชื่นชอบได้ ผ่านการดูคอนเทนต์และตอบโตกับผู้สร้าง LM ใช้งานสำหรับอะไร? LM เป็น Native token ของระบบนิเวศ LeisureMeta โดยมีอุปทานสูงสุด 5 พันล้านโทเคน โดยโทเคน LM มีอยู่ด้วยกัน 2 รูปแบบ LMC LM บนเครือข่าย LeisureMetaverse และ ERC-20 LM สำหรับ Ethereum ที่ใช้สำหรับเครือข่ายอื่นๆ เช่น Centralized Exchanges (CEX) และ Decentralized Exchanges (DEX) ที่มา https://iq.wiki/wiki/leisuremeta/ ตัวโทเคน LM สามารถใช้ทำกิจกรรมที่แตกต่างกันได้ เช่น — สื่อกลางการทำธุรกรรม: ใช้สำหรับการซื้อ การขาย และการซื้อขายทั้งหมดภายในระบบนิเวศ — การกำกับดูแล: อนุญาตให้ผู้ถือโทเคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและข้อเสนอของแพลตฟอร์ม — ใช้สำหรับ Staking : ผู้ใช้สามารถ staking เพื่อรับรางวัลหรือเข้าถึงฟีเจอร์พรีเมียม — ค่าตอบแทนสำหรับผู้สร้างคอนเทนต์ : ให้รางวัลแก่ผู้สร้างเนื้อหาและผู้ให้บริการสำหรับการสนับสนุนแพลตฟอร์ม — การจัดเตรียมสภาพคล่อง: สามารถใช้ในกลุ่มสภาพคล่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายแบบกระจายอำนาจ LeisureMeta Token Economy — ที่มา : LeisureMeta Whitepaper อุปทานรวมของโทเคน LM และการกระจายเหรียญ LM โทเคนมีจำนวนจำกัดจำนวน 5,000 ล้านโทเคนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืดอันเกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยกระจายเหรียญดังนี้ — DAO (60%): สำหรับรางวัลและการตั้งค่า DAO มีการปล่อยโทเคนเป็นรายเดือน เดือนละ 1.67% ทุกๆ 30 วัน — การขาย (10%): สำหรับการพัฒนาเบื้องต้น โดย 1% ปล่อยโทเคนเมื่อมีการ listing และอีก 9% ปล่อย 30 วันถัดไป และตามด้วยการปล่อยอีกในทุกๆ เดือน คิดเป็น 10% — ระบบนิเวศ (13%): สำหรับการพัฒนาระบบนิเวศและเทคโนโลยี ปล่อยโทเคนหลังจาก 180 วันหลังจากการ listing และปล่อยโทเคนจำนวน 5% ทุกๆ เดือน — ทีมและที่ปรึกษา (10%): สำหรับทีมและที่ปรึกษา มีการปล่อยเหมือนกับในส่วนของระบบนิวเศและทีมและที่ปรึกษา — PR (2%): สำหรับการเปิดใช้งานและสภาพคล่อง ปลดล็อกทั้งหมดเมื่อเปิดตัวและออกโทเคนสู่ตลาดเป็นครั้งแรก (Token Generation Event) ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ LM ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 เหรียญ LM มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 12,552,664 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 434,322,143 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ LM ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.0047 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.1626 บาทต่อ 1 LM โดย LM เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 1.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 48.45 บาท ต่อ 1 LM เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023 อ้างอิง : LeisureMeta Whitepaper, LeisureMeta Medium, CoinMarketCap — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — LeisureMeta: Revolutionizing the Entertainment Industry with Web 3.0 and Blockchain Technology What is LeisureMeta (LM)? LeisureMeta is a leader in integrating blockchain technology with entertainment. This project focuses on building an ecosystem called “LM Twin City” that connects the real world and the virtual world, and enables users to participate in a DAO (Decentralized Autonomous Organization). LM Twin City — ที่มา https://x.com/LeisureMeta_LM/status/1830791691776991718 The LeisureMeta project aims to be a Web3 Enabler, building a sustainable DAO community through blockchain technology. This will facilitate job creation, new income sources, and realize the Web3 values of rights, fairness, and respect for human freedom. It offers a “new normal” for social, cultural, and economic communities, overcoming the limitations of existing blockchain platforms, such as scalability issues, high gas fees, and poor, unengaging UX (user experience). ที่มา : LeisureMeta — x.com How does LeisureMeta work? LeisureMeta is built on a powerful combination of blockchain technology and advanced computer engineering to support the Web3 digital economy. One of its standout features is a hybrid Unspent Transaction Output (UTXO) account structure, which merges two blockchain models for faster and more efficient transactions. This design allows for flexibility for Smart contracts and Decentralized applications (DApps). To ensure optimal performance, LeisureMeta uses a hybrid consensus algorithm: Tendermint + Hotstuff Byzantine Fault Tolerant (BFT) combined with proof-of-stake (PoS). This enables the platform to handle up to 1,000 transactions per second (TPS), making it ideal for speed-intensive applications like Decentralized Finance (DeFi) platforms and NFT marketplaces. LeisureMeta also optimizes network performance with Bloom filters, which reduce data transmission between nodes by filtering out known transactions. This results in a faster and more efficient network. Another key feature is the ability to support multiple private key pairings, allowing users to easily manage digital assets across different devices with enhanced security. Moreover, the Conflict-free Replicated Data Type (CRDT) structure eliminates complex transactions, enabling the blockchain to generate blocks in just 1 second, facilitating real-time interactions. LeisureMeta’s multi-network connectivity enables seamless interoperability between different blockchains. For example, users can easily transfer LM tokens between the LeisureMeta network and Ethereum, ensuring liquidity and usability across platforms. By leveraging these technologies, LeisureMeta provides a fast, secure, and scalable infrastructure suitable for both developers and users, fostering the growth of DApps and the digital economy. At the heart of LeisureMeta’s functionality are DApps, which operate automatically through smart contracts without centralized control. The platform offers a variety of DApp services, including the Web 3.0 community “LM NOVA”, the NFT Marketplace 2.0 “playNomm”, and the award-winning “LM Wallet”. DAOs also play a crucial role in decision-making, enabling the community to make transparent decisions and take action to achieve common goals. The people behind the development of LeisureMeta LeisureMeta plays a crucial role in Web3 by promoting community, social, cultural, and economic aspects. Key figures behind this development include: — Sung Uk Moon: CEO — Dong Cherl Han: CTO — Sung Sik Park: CCO — Harry Kim: CSO Their expertise covers a wide range of areas, contributing to the creation and development of LeisureMeta. Furthermore, the project is supported by contributors such as eugene70, hysung220, kjg0904, G-yhlee, pjw0328, senthil28, sungkmi, scouts0i, airlift01, pickup08, LatteScience08, guidedarrow, walfarepunkloser, onthepage, insightdevcoder, and LeisureMeta_LM. What’s in the LeisureMeta Ecosystem? I LIKE LM is the heart of the LeisureMeta ecosystem, aiming to differentiate itself in the Web3 market with its SocialFi approach. Here are the platform’s key features: — Supports Creative Content Creation: Encourages content creators to produce original and imaginative content. — Community Engagement: Builds strong communication channels between creators and fans. — Transparent DAO: Creates shared value and rewards contributors through a fair and transparent DAO community. — Connects Real and Virtual Worlds: Provides new experiences bridging the virtual and real worlds through blockchain technology. — LM NOVA is a Web3 community (A2E) powered by blockchain technology. It serves as a sustainable ecosystem for Web3 creators and fans. Web3 creators can earn token rewards simply by uploading content and interacting with users. Users can also earn rewards by following their favorite creators, watching content, and engaging with creators. What is LM used for? LM is the native token of the LeisureMeta ecosystem, with a maximum supply of 5 billion tokens. LM exists in two forms: LMC, used on the LeisureMetaverse network, and ERC-20 LM for Ethereum, used for other networks such as Centralized Exchanges (CEX) and Decentralized Exchanges (DEX). ที่มา https://iq.wiki/wiki/leisuremeta/ The LM token can be used for various activities, such as: — Medium of Exchange: Used for all purchases, sales, and trades within the ecosystem. — Governance: Allows token holders to participate in platform governance and proposals. — Staking: Users can stake LM to earn rewards or access premium features. — Content Creator Rewards: Rewards content creators and service providers for their contributions to the platform. — Liquidity: This can be used in liquidity pools to facilitate decentralized trading. LeisureMeta Token Economy — ที่มา LeisureMeta Whitepaper Total Supply and Token Distribution of LM The LM token has a limited supply of 5 billion tokens to prevent inflation caused by increased demand. The token distribution is as follows: — DAO (60%): Allocated for rewards and DAO settings. Tokens are released monthly at a rate of 1.67% every 30 days. — Sale (10%): For initial development. 1% is released upon listing, followed by 9% released over the next 30 days. Subsequent releases occur monthly, accounting for 10% of the total sale allocation. — Ecosystem (13%): For ecosystem and technology development. Token release begins 180 days after listing, with 5% released monthly. — Team and Advisors (10%): Allocated to the team and advisors. The release schedule mirrors that of the Ecosystem allocation. — PR (2%): For bootstrapping and liquidity. Fully unlocked upon launch and initial token offering (Token Generation Event). Interesting Price Information for LM According to data from the CoinMarketCap website on January 16, 2025, the LM token has a market capitalization of $13,484,703, equivalent to approximately 464,629,362 THB. At the time of writing this article, LM is trading at approximately $0.005291 or 0.1826 THB per token. The all-time high (ATH) price of LM was $1.40 or 48.21 THB per token, achieved on February 23, 2023. Reference: LeisureMeta Whitepaper, LeisureMeta Medium, CoinMarketCap — — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — LeisureMeta โปรเจกต์ Web 3.0 was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

16 ม.ค. 68
news

รวมข่าวเด่นรายสัปดาห์ย้อนหลัง

รวมข่าวเด่นรายสัปดาห์ย้อนหลัง

14 ม.ค. 68
news

ทำความรู้จัก Celer Network ที่มี Inter-chain Messaging Framework สร้าง DApps แบบหลายบล็อกเชน

Celer Network คืออะไร? Celer คือ โปรโตคอลการทำงานร่วมกันของบล็อกเชนที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงโทเคนสำหรับ DeFi, GameFi, NFT, เป็นโทเคนการกำกับดูแล และอื่นๆ อีกมากมายสำหรับการใช้งานแบบหลายเครือข่าย เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้าง inter-chain-native dApps โดยใช้ Celer Inter-chain Messaging SDK เพื่อเข้าถึงการใช้สภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพ ทางด้านผู้ใช้ dApps ที่รองรับ Celer จะได้รับประโยชน์จากระบบนิเวศของบล็อกเชนแบบหลายเครือข่ายที่หลากหลายพร้อมกับความเรียบง่ายของ UX ของธุรกรรมเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้จากเครือข่ายเดียว Celer Inter-chain Messaging Overview — ที่มา : Celer Network Celer Network ช่วยแก้ปัญหาบล็อกเชนด้านใดบ้าง? Celer Network ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดปัญหาต่างๆ ที่พบในเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำในปัจจุบัน โปรโตคอลนี้ทำงานเป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารระหว่างบล็อกเชน และเป็น cross-layer communication platform ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดที่เพิ่มขึ้นในเครือข่าย Layer 1 ได้อย่างมาก ทั้งนี้ Celer ได้ร่วมมือกับ Arbitrum, Ethereum, BSC, Polygon, Fantom, Avalanche และเครือข่ายอื่นๆ อีกมากมาย — ความสามารถในการปรับขนาด (Scaling) : เครือข่าย Celer ช่วยปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาดที่สามารถดำเนินการได้แบบทันที ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวในระดับที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ต้นทุนในการทำธุรกรรม Celer ยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการใช้งาน Layer 1 — ความเป็นส่วนตัว : ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว โดยใช้ระบบการวิเคราะห์ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนทำให้เกิดการติดตามและสามารถเปิดเผยได้ว่าใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล โดยทาง Celer ได้ผสมผสานเทคโนโลยี เข้าด้วยกันเพื่อเปิดใช้งานธุรกรรมนอกเครือข่ายส่วนตัว (private off-chain) สำหรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลและการดำเนินการตามสัญญาอัจฉริยะ โครงสร้างนี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Dapps ที่เน้นความเป็นส่วนตัวได้ ประโยชน์ของ Celer Network Celer Network เป็น open-source protocol ที่ได้รับการตรวจสอบโดยชุมชนและบริษัทรักษาความปลอดภัย third-party smart contract security เครือข่ายนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากบล็อกเชนที่พวกเขาชื่นชอบได้ในขณะที่หลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมสูงหรือความล่าช้าของธุรกรรม Celer เป็น Layer 2 ที่คุ้มต้นทุนและขยายฟังก์ชันการทำงานซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้ ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Celer Network Celer Network ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยทีมวิศวกรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ โดยมีผู้ก่อตั้งร่วมทั้งหมด 4 คนของ Celer สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น MIT และ UC Berkely และล้วนมีประวัติการทำงานกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ — Dr. Mo Dong สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก UIUC เป็นวิศวกรผู้ก่อตั้งและผู้จัดการผลิตภัณฑ์ที่ Veriflow ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบรูปแบบเครือข่าย เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการนำทฤษฎีเกมอัลกอริทึมมาใช้กับการออกแบบโปรโตคอล และสอนหลักสูตร Full-stack Smart Contract Courses โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาหลายร้อยคน — Dr. Junda Liu สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก UC Berkeley เขาเข้าร่วมกับ Google ในปี 2011 เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานศูนย์เครือข่ายข้อมูล จากนั้นจึงเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของบริการมือถือ Project Fi ตั้งแต่ปี 2014 นอกจากนี้ เขายังดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี Android สำหรับบริการผู้ให้บริการ ซึ่งทำงานบนอุปกรณ์มากกว่า 1.5 พันล้านเครื่อง — Dr. Xiaozhou Li สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์ในสถานที่ชั้นนำในระบบ Distributed systems, Networking, Storage, และ Data management และกลายมาเป็นส่วนประกอบหลักของ Google TensorFlow, Intel DPDK และ Barefoot Deep Insight — Dr. Qingkai Liang สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก MIT การวิจัยของเขาเน้นศึกษาปัญหาการเรียนรู้และการควบคุมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระบบเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง online learning algorithms in adversarial networks ซึ่งได้รับการนำไปใช้อย่างประสบความสำเร็จใน Raytheon BBN Technologies และ Bell Labs การกระจายโทเคนของ CELR CELR เป็น Utility Token สำหรับเครือข่าย Celer เป็นโทเคนมาตรฐาน ERC-20 ที่อยู่ในเครือข่ายหลักของ Ethereum สามารถใช้ CELR เพื่อส่งเงินโดยตรงแบบ peer-to-peer นอกจากนี้โทเคนยังมีบทบาทสำคัญในการชำระค่าธรรมเนียมและครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตาม Smart contract นอกจากนี้ CELR ยังเป็น Governance Token ที่จำเป็นในการอัปเดตและเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์ของโปรโตคอล เช่น บล็อกเชนและโทเคนที่รองรับ กำหนดค่าค่าธรรมเนียมสำหรับแต่ละบล็อกเชน โทเคน และ moduleใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามา การอัปเกรดหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของ SGN รวมถึงพารามิเตอร์เหล่านี้จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลผ่าน SGN ด้วยโทเคน CELR CELR มีอุปทานสูงสุด 10,000 ล้านโทเคน ซึ่งแจกจ่ายดังนี้:  — 25% — รางวัลการขุด PoLC และการสร้างระบบนิเวศนอกเครือข่าย  — 20% — แบ่งออกเป็นสำหรับทีมทำงาน (18.3%) และที่ปรึกษา (1.7%)  — 17% — มูลนิธิ  — 5% — การตลาดและระบบนิเวศ  — 33% — การขาย ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ CELR ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2025 เหรียญ CELR มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 115,242,729 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4,010,274,129 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ CELR ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.01489 ดอลลาร์ หรือประมาณ 0.5194 บาทต่อ 1 CLER โดย CELR เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 0.1987 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6.78 บาท ต่อ 1 CLER เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2021 อ้างอิง: Celer Network, CoinMarketCap, TokenInsight — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Introducing Celer Network: The Inter-Chain Messaging Framework Powering Multi-Blockchain DApps with Efficient Liquidity What is Celer Network? Celer is a blockchain interoperability protocol that gives users access to tokens for DeFi, GameFi, NFTs, governance, and more across multiple blockchains. It allows developers to build inter-chain-native dApps using the Celer Inter-chain Messaging SDK to access efficient liquidity utilization. On the user side, Celer-enabled dApps benefit from a diverse multi-blockchain ecosystem with the UX simplicity of single-transaction experiences, all from one network. Celer Inter-chain Messaging Overview — Source: Celer Network Celer Network: Solving Blockchain Challenges Celer Network is designed to mitigate several issues found in today’s leading blockchain networks. It acts as an inter-blockchain and cross-layer communication platform, significantly alleviating the growing congestion problem in Layer-1 networks. Celer has partnered with various networks, including Arbitrum, Ethereum, BSC, Polygon, Fantom, Avalanche, and many more. Here are some key blockchain challenges that Celer Network addresses: — Scalability: Celer Network enhances scalability for instant transactions while maintaining a higher degree of privacy. Transaction costs on Celer are also just a fraction of those on Layer-1. — Lack of Privacy: Blockchain analytics can track and potentially reveal the owners of digital assets, compromising privacy. Celer integrates technologies to enable private off-chain transactions for cryptocurrency payments and smart contract execution. This framework allows developers to build privacy-focused dApps. Benefits of Celer Network Celer Network is an open-source protocol that has been audited by the community and third-party smart contract security firms. The network allows users to take advantage of their favorite blockchains while avoiding high fees or transaction delays. Celer is a cost-effective Layer-2 scaling solution that enhances the user experience. The People Behind the Development of Celer Network Celer Network was founded in 2018 by a team of highly experienced and accomplished engineers. All four co-founders hold PhDs in computer science from prestigious universities like MIT and UC Berkeley and have impressive backgrounds working with leading technology companies. Here’s a closer look at the co-founders: Dr. Mo Dong: With a PhD from UIUC, Dr. Dong was a founding engineer and product manager at Veriflow, specializing in network formal verification. He’s an expert in applying algorithmic game theory to protocol design and has taught full-stack smart contract courses to hundreds of students. Dr. Junda Liu: Dr. Liu earned his PhD from UC Berkeley. He joined Google in 2011 to build data center network infrastructure and later became a founding member of Project Fi, Google’s mobile service, in 2014. He also served as the Android tech lead for carrier services, impacting over 1.5 billion devices. Dr. Xiaozhou Li: A PhD graduate from Princeton University, Dr. Li’s work has been published in top venues in distributed systems, networking, storage, and data management. His research has become core components of Google TensorFlow, Intel DPDK, and Barefoot Deep Insight. Dr. Qingkai Liang: Dr. Liang holds a PhD from MIT. His research focuses on learning and control problems in networked systems, particularly online learning algorithms in adversarial networks. His work has been successfully applied at Raytheon BBN Technologies and Bell Labs. CELR Token Distribution CELR is the utility token for the Celer Network. It’s an ERC-20 token residing on the Ethereum mainnet. CELR can be used for direct peer-to-peer payments. The token also plays a crucial role in settling fees and covering the costs of smart contract executions. Furthermore, CELR serves as a governance token, essential for updating and changing protocol parameters, such as: — Supported blockchains and tokens — Fee configurations for each blockchain, token, and new modules — Upgrades or modifications to the State Guardian Network (SGN) Any upgrades or changes to the SGN, including these parameters, require governance through the SGN using CELR tokens. CELR has a maximum supply of 10 billion tokens, distributed as follows: — 25% — PoLC Mining Rewards and Off-chain Ecosystem Building: This portion incentivizes users to participate in Proof-of-Liquidity Commitment (PoLC) mining and contribute to the off-chain ecosystem. — 20% — Team (18.3%) and Advisors (1.7%): Allocated to the Celer Network team and advisors for their contributions to the project. — 17% — Foundation: Reserved for the Celer Network foundation to support long-term development and growth. — 5% — Marketing and Ecosystem: Dedicated to marketing efforts and fostering the overall Celer ecosystem. — 33% — Sale: Distributed through token sales to raise funds for the project’s development. Interesting Price Information for CELR According to data from the Coinmarketcap website on December 13, 2024, the CELR has a market capitalization of $115,242,729 or 4,010,274,129 Thai Baht. At the time of writing this article, the CELR coin is trading at approximately $0.01489 or 0.5194 Baht per 1 CELR. CELR reached an all-time high of $0.1987 or 6.78 Baht per 1 CELR on September 26, 2021. Source: Celer Network, CoinMarketCap, TokenInsight — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — ทำความรู้จัก Celer Network ที่มี Inter-chain Messaging Framework สร้าง DApps แบบหลายบล็อกเชน was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

13 ม.ค. 68
news

รวมข่าวรายสัปดาห์ : MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่ม | บัญชีคริปโตถูกถูกล้างพอร์ต ทะลุ $700 ล้าน

รวมข่าวรายสัปดาห์ : MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่ม 1,070BTC | บัญชีคริปโตถูกถูกล้างพอร์ต ทะลุ 700 ล้านดอลลาร์ | Spot Bitcoin ETF มีกระแสเงินไหลเข้าพุ่งสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ Bitkub Blog รวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้อ่านกันที่นี่แล้ว มีข่าวอะไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาดบ้าง มาดูกันได้เลย! เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด — — — — — — — — — — MicroStrategy เริ่มต้นปี 2025 ด้วยการซื้อ Bitcoin เพิ่ม 1,070BTC MicroStrategy บริษัทที่ปรึกษาและพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ที่ถือบิตคอยน์มากที่สุดในโลกประกาศการซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีกจำนวน 1,070 BTC ในราคาประมาณ 101 ล้านดอลลาร์ การซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30–31 ธันวาคม 2024 ด้วยราคาเฉลี่ย 94,004 ดอลลาร์ต่อ Bitcoin ซึ่งทำให้ MicroStrategy มี Bitcoin ทั้งหมดที่ถือครองอยู่ที่ 447,470 BTC มีมูลค่ารวมกว่า 27,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีราคาเฉลี่ยของบิตคอยน์ที่ 62,503 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ คิดเป็น 2.1% ของบิตคอยน์ทั้งหมด ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — Coinglass ระบุ บัญชีคริปโตถูกชำระบัญชีหรือถูกล้างพอร์ต ทะลุ 700 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Bitcoin ร่วงลงมาเหลือ 95,000 ดอลลาร์ Coinglass ระบุว่า ตลาดคริปโตประสบกับสถานการณ์การชำระบัญชีมูลค่า 712 ล้านดอลลาร์ จากนักเทรดจำนวน 237,375 ราย ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุมาจากราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ จากการวางสถานะไว้ที่สถานะ Long ด้วยสัดส่วน 88.83% มูลค่า 631.21 ล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับการวางสถานะไว้ที่ Short ที่มีเพียง 79.35 ล้านดอลลาร์ ทางด้าน Ethereum ก็ประสบกับการชำระบัญชีเช่นกันด้วยมูลค่ามากถึง 150 ล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความผันผวนของตลาดคริปโตและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายแบบใช้ Leverage ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — Spot Bitcoin ETF มีกระแสเงินไหลเข้าพุ่งสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่เกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันที่ 6 มกราคม กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้าสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน โดยมีเงิน 978 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 9,577 BTC ที่ไหลเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน นอกจากนี้ ยังเป็นวันที่สองติดต่อกันที่มีเงินไหลเข้ามากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อวันที่ 3 มกราคม มีเงินไหลเข้า 908 ล้านดอลลาร์จากกองทุนทั้ง 11 กองทุน โดยจำนวนเงินไหลเข้า 1,880 พันล้านดอลลาร์ได้พลิกกลับแนวโน้มที่ก่อนหน้านี้มีเงินไหลออกจำนวน 1,970 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม ซึ่งเป็นจำนวนเงินไหลออกเกือบหมดในเวลาเพียงสองวัน ที่มา : CryptoPotato — — — — — — — — — — Van Straten เผยความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และหุ้นสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง อาจสร้างความเสี่ยงในระยะสั้นต่อราคา Bitcoin นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน Bitcoin (BTC) ก็พุ่งขึ้นราว 47% แซงหน้า S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 4% อย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และดัชนี S&P 500 เริ่มเคลื่อนไหวใกล้เคียงกันอีกครั้ง โดยความสัมพันธ์ของทั้งคู่แตะระดับ 0.88 (โดย 0 คือไม่มีความสัมพันธ์ และ 1 คือความสัมพันธ์แบบสัมบูรณ์) ตามเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วันล่าสุด โดยปัจจัยภายในที่แสดงให้เห็นบนเครือข่ายอาจจะได้แรงหนุนอย่าง มีนัยสำคัญอย่างน้อยจนถึงกลางปี ​​2025 แต่อย่างไรก็ตาม อาจะเกิดความเสี่ยงในระยะสั้นสำหรับ Bitcoin ที่มา : CoinDesk — — — — — — — — — — ภูฏานเตรียมจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ ศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ในภูฏานมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนสำรองสกุลเงินดิจิทัลเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งประกอบด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลที่สำคัญ ได้แก่ Bitcoin และ Ether โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม เขตปกครองพิเศษ Gelephu (SAR) หรือที่รู้จักกันในชื่อเมือง Gelephu Mindfulness City (GMC) เปิดเผยแผนการรับรองสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น Bitcoin Ether และ BNB เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเปิดโอกาสใหม่ๆ จากการมีส่วนร่วมในการขุด Bitcoin ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly Wrap-Up: MicroStrategy Buys 1,070 More Bitcoin | Bitcoin Crash Triggers Mass Liquidations | Bitcoin ETF Inflows Surge to $1 Billion Stay ahead in the world of cryptocurrency and blockchain with Bitkub Blog! We’ve rounded up the hottest news from the past week, all in one place. Wondering what investors need to know right now? Let’s dive in! This curated summary brings you the top stories from global sources, broken down into bite-sized insights for easy understanding. (P.S. Remember, this is for your knowledge only — it’s not investment advice!) — — — — — — — — — — MicroStrategy Kicks Off 2025 by Acquiring an Additional 1,070 BTC MicroStrategy, the enterprise software and consulting firm that holds the largest Bitcoin treasury in the world, announced that it has purchased an additional 1,070 BTC for about $101 million. The purchase was made on December 30–31, 2024, at an average price of $94,004 per Bitcoin. This brings MicroStrategy’s total Bitcoin holdings to 447,470 BTC, worth over $27.97 billion, at an average cost of $62,503 per Bitcoin. This represents 2.1% of all Bitcoin ever mined. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Crypto Bloodbath: $700M Liquidated as Bitcoin Crashes Coinglass reported that the crypto market experienced $712 million in liquidations from 237,375 traders within 24 hours. This was triggered by Bitcoin falling below $100,000, with long positions accounting for 88.83% of the liquidations, worth $631.21 million, compared to just $79.35 million in short positions. Ethereum also suffered significant liquidations, amounting to $150 million. This event highlights the volatility of the crypto market and the risks associated with leveraged trading. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Spot Bitcoin ETF Inflows Surge to 6-Week High, Approaching $1 Billion On January 6th, Bitcoin ETFs in the US saw their largest single-day inflow since November 21st, with $978 million, equivalent to 9,577 BTC, flowing into these investment products. This also marked the second consecutive day with over $900 million in inflows, following $908 million on January 3rd across all 11 ETFs. This $1.88 billion inflow reversed a previous outflow trend of $1.97 billion since December 19th, effectively erasing almost all of those outflows in just two days. Source: CryptoPotato — — — — — — — — — — Van Straten: Bitcoin-US Stocks Correlation Rekindled, Posing Short-Term Risk to Bitcoin Price Since Donald Trump’s presidential election on November 5th, Bitcoin (BTC) has surged by about 47%, quickly outpacing the S&P 500's 4% gain. Recently, we’ve seen the correlation between Bitcoin and the S&P 500 begin to move closely together again. Their correlation has reached 0.88 (where 0 is no correlation and 1 is perfect correlation) based on a 20-day moving average. On-chain metrics suggest significant potential upside for Bitcoin, at least until mid-2025. However, there could be some short-term risks for Bitcoin. Source: CoinDesk — — — — — — — — — — Bhutan Makes Bold Move: Crypto in Strategic Reserves A new economic hub in Bhutan plans to establish a strategic cryptocurrency reserve fund comprised of major digital assets, including Bitcoin and Ether. On January 8th, the Gelephu Special Administrative Region (SAR), also known as Gelephu Mindfulness City (GMC), revealed plans to adopt digital assets like Bitcoin, Ether, and BNB as part of a strategic reserve fund. The goal is to enhance economic resilience and unlock new opportunities by participating in Bitcoin mining. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: -Cryptocurrency is highly risky; investors may lose all investment money. -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. รวมข่าวรายสัปดาห์ : MicroStrategy ซื้อ Bitcoin เพิ่ม | บัญชีคริปโตถูกถูกล้างพอร์ต ทะลุ $700 ล้าน was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

10 ม.ค. 68
news

Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ CARVมูลค่า 300 บาท

กิจกรรม: Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ CARV มูลค่า 300 บาทระหว่าง: วันที่ 16 ม.ค. 68 เวลา 19:00–20:00 น.ลงทะเบียนได้ระหว่างวันที่ 13–16 ม.ค. 68 คลิก: https://form.bitkub.com/learn-and-earn-carv ข้อกำหนดและเงื่อนไขของกิจกรรม 1.กิจกรรม Learn and Earn LIVE ตอบถูกตอบไว รับเหรียญ CARV มูลค่า 300 บาท (“กิจกรรม”) นี้ จัดขึ้นโดย บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จํากัด (“บริษัทฯ”) 2.กิจกรรมนี้เริ่มวันที่ 16 ม.ค. 68 3.ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องกรอกแบบฟอร์มเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านลิงก์ https://form.bitkub.com/learn-and-earn-carv ระหว่างวันที่ 13–16 ม.ค. 68 4.ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องตอบคำถามเพื่อรับของรางวัล ผ่านรายการ Learn and Earn LIVE วันที่ 16 ม.ค. 68 เวลา 19:00–20:00 น. บนเพจ Facebook : Bitkub 5.ของรางวัล คือ เหรียญ CARV มูลค่า 300 บาท หรือจำนวน 9.13 เหรียญ/รางวัล (คำนวณราคาเหรียญ CARV ณ วันที่ 18 ธ.ค. 67 ประมาณ 32.87 บาท/เหรียญ) จำนวน 200 สิทธิ์ 6.ขอสงวนสิทธิ์การมอบของรางวัลให้ผู้ร่วมกิจกรรม ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้- ผู้ที่กรอกแบบฟอร์มเข้าร่วมกิจกรรมถูกต้องและครบถ้วน บริษัทขอสงวนสิทธิ์ลูกค้าที่กรอกชื่อไม่ตรงตามบัญชี Facebook จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมกิจกรรมทุกประการ- ผู้ที่ตอบคำถามผ่านรายการ Learn and Earn LIVE ถูกต้องและรวดเร็วที่สุด- ผู้ที่มีบัญชี Bitkub Exchange และผ่านการยืนยันตัวตนลำดับที่ 1 ขึ้นไป ณ วันที่เข้าร่วมกิจกรรม 7.วิธีการกรอกชื่อ Facebook ลงในแบบฟอร์ม(1) กรอกชื่อ Facebook ตรงตามที่แสดงอยู่บนหน้าเพจหรือโปร์ไฟล์(2) ต้องระบุเว้นวรรค สัญลักษณ์ เครื่องหมาย ตรงตามบัญชี Facebook ทุกประการ หากมีการเว้นวรรคหรือกรอกชื่อไม่ตรงตามบัญชี Facebook ระบบจะไม่สามารถดึงข้อมูลได้ เช่น ชื่อ Facebook ของท่านคือ Bitkub Exchange ต้องระบุว่า “Bitkub Exchange” (มีเว้นวรรค)(3) หากชื่อบัญชี Facebook มีอักขระ หรือสัญลักษณ์พิเศษ โปรดกรอกตามประเภทแป้นพิมพ์ ตามจริงที่แสดงบนบัญชี Facebook เช่น ชื่อบัญชี Facebook ของท่านคือ Kitty’ Nina โปรดตรวจสอบเครื่องหมาย ‘ บนชื่อของท่านว่าใช้แป้นพิมพ์ในหมวดภาษาเดียวกัน หากชื่อบน Facebook ของท่านใช้เครื่องหมาย ‘ โดยใช้แป้นพิมพ์หมวดภาษาอังกฤษ ให้ใช้เครื่องหมายจากประเภทแป้นพิมพ์เดียวกัน หากท่านกรอกเข้ามาโดยพิมพ์สัญลักษณ์ ’ เป็นภาษาไทย ระบบจะถือว่าไม่ตรงกัน 8.ทางบริษัทฯ จะพิจารณายึดข้อมูลจากลำดับเวลาของการตอบคำถามถูกต้องและรวดเร็วที่สุด จำนวน 200 ท่านแรก 9.ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องศึกษา ทำความเข้าใจ และผ่านการอบรมความรู้ เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีเบื้องต้นจากลิงก์ที่แนบไว้ในแบบฟอร์ม 10.บริษัทขอสงวนสิทธิ์การลงทะเบียน 1 อีเมล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange ต่อ 1 บัญชี Facebook เท่านั้น 11.ขอสงวนสิทธิ์การรับของรางวัล 1 รางวัล ต่อ 1 บัญชี Bitkub Exchange เท่านั้น 12.ทางบริษัทฯ จะทำการโอนเหรียญ และส่งอีเมลยืนยันสิทธิ์ให้กับผู้ที่ได้รับรางวัล ที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขของกิจกรรม ภายใน 60 วันทำการ หลังสิ้นสุดระยะเวลากิจกรรม 13.ทางบริษัทฯ จะดําเนินการลบข้อมูลของลูกค้าที่กรอกแบบฟอร์ม ภายใน 120 วัน หลังจากจบระยะเวลากิจกรรม 14.ของรางวัลไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือเปลี่ยนเป็นของรางวัลชนิดอื่นได้ และไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้ผู้อื่นได้ 15.ผู้ร่วมกิจกรรมไม่มีสิทธิ์เรียกร้องค่าตอบแทน ค่าเสียหายของสินค้า หรือของรางวัล หากชำรุดเมื่อได้รับของรางวัลไปแล้ว หรือเกิดความเสียหาย หรือสูญหายระหว่างขนส่ง หรือสิ่งใด ๆ ไม่ว่าทางแพ่ง หรือทางอาญา 16.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขกิจกรรม โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ 17.ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันบิทคับได้ที่นี่ https://onelink.bitkub.com/aHvr/gtbl7nio *สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ Learn and Earn LIVE เรียนและตอบคำถาม รับเหรียญ CARVมูลค่า 300 บาท was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

10 ม.ค. 68