บทความ

รู้จักกับ NEAR Protocol เหรียญที่กระแสตอบรับดีจนตลาดล่ม!

image

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ CoinList ที่เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการซื้อขายหมุนเวียนในแต่ละวันมากกว่า 800 ล้านดอลลาร์ ได้ประกาศเพิ่มเหรียญ NEAR Protocol ลงไปในกระดานซื้อขาย แต่ด้วยกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้เว็บ CoinList ถึงกับล่มไปขณะหนึ่งหลังเปิดซื้อขายเหรียญได้ไม่นาน ก่อนที่จะออกมาประกาศเลื่อนการเปิดตัวเหรียญ NEAR Protocol ออกไปถึง 24 ชั่วโมง

image

NEAR Protocol คืออะไร?

NEAR Protocol หรืออีกชื่อหนึ่งคือ NEAR Platform เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบ Proof-of-stake ที่ถูกออกแบบขึ้นมาให้เป็นมิตรกับเหล่าโปรมแกรมเมอร์ เพื่อที่เหล่าโปรแกรมเมอร์จะสามารถใช้มันเขียนแอพพลิเคชั่นแบบกระจายอำนาจ (Decentralized Application หรือ dApps)

โดยตัว NEAR Platform เปรียบเสมือนกับ cloud ที่เหล่าโปรแกรมเมอร์สามารถใช้เป็นฐานสำหรับการเขียนแอพพลิเคชั่น dApps ขึ้นมา เพียงแต่ cloud ตัวนี้จะไม่มีตัวกลางเป็นองค์กรใดองค์กรหนึ่งเปิดเซิฟเวอร์ขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลังเพียงผู้เดียว ในทางกลับกันผู้ที่คอยสนับสนุน NEAR Platform คือผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลกที่รับหน้าที่เป็น Validator Node สำหรับเครือข่ายนี้นั่นเอง

ความสำคัญของ NEAR Protocol

ในมุมมองของเหล่าโปรแกรมเมอร์ การมีแพลตฟอร์มสำหรับเขียนโปรแกรมที่เป็น Decentralized หรือแพลตฟอร์มไม่มีตัวกลาง จะสามารถป้องกันโอกาสที่โปรแกรมที่อุตสาห์เขียนขึ้นมาอย่างยากลำบากจะถูกปิดตัวลงโดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม แถมการใช้แพลตฟอร์มแบบ Decentralized ยังช่วยให้พวกเขาสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆเช่น การชำระเงิน หรือ Cryptography ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ในมุมมองของผู้ใช้งานทั่วไป การใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีตัวกลาง หรือ dApps ซึ่งเป็น Open-source หมายความว่า หากผู้ใช้เข้าใจภาษาโปรแกรมก็จะสามารถเข้าใจได้ว่าแอพพลิเคชั่นนั้นๆจะทำงานอย่างไร และเนื่องจากข้อมูลบน Blockchain ไม่สามารถถูกแก้ไขได้ ทำให้สามารถสืบย้อนกลับไปถึงผู้พัฒนาโปรแกรมได้ จึงมั่นใจได้ว่าการใช้ dApps จะไม่ถูกผู้พัฒนาโกงหรือหลอกเอาข้อมูลของเราไปใช้ในทางที่ผิด

NEAR Protocol จะมาโค่น Ethereum?

Ethereum เป็นเครือข่าย Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก ณ ปัจจุบัน เป็นรองก็แค่ Bitcoin โดยเครือข่าย Ethereum โดดเด่นด้วยความเป็น Open-source และเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเขียน dApps ซึ่งก็มื dApps ที่เกิดขึ้นจาก Ethereum หลายตัวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Gods Unchained, Augur, หรือ Decentraland เป็นต้น

Ethereum จะว่าไปก็เหมือนกับ NEAR Protocol แต่จุดอ่อนสำคัญที่สุดของ Ethereum คือเรื่องของ Scalability หรือความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกรรมที่มากขึ้น ว่าง่ายๆก็คือเรื่องของความเร็วในการตรวจสอบธุรกรรมนั่นเอง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า Ethereum ใช้ระบบที่เรียก Proof-of-work เหมือนกับ Bitcoin ซึ่งเป็นระบบที่กินพลังงานอย่างมหาศาลแต่ไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร จุดนี้เองที่ NEAR Protocol หรือบรรดาเครือข่าย Blockchain รุ่นใหม่ๆจะเข้ามาท้าทายด้วยระบบ Proof-of-stake แต่ที่กล่าวมานี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า Ethereum จะจบลงแค่นี้ เพราะว่า Ethereum ก็มีไม้เด็ดที่เรียกว่า Ethereum 2.0 ที่จะเปลี่ยนมาใช้ Proof-of-stake เช่นกัน

โดยสรุปแล้ว NEAR Protocol ก็คือเครือข่าย Blockchain รุ่นใหม่ที่ใช้ระบบ Proof-of-stake ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเขียนแอพพลิเคชั่นที่ไม่มีตัวกลาง หรือ dApps และสามารถเปิดตัวไปได้อย่างงดงามในตลาดต่างประเทศ จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่น่าจดจำสำหรับวงการ Blockchain

มาร่วมกันเป็น “แนวหน้า” สำหรับโลกยุคใหม่ที่เราจะก้าวเข้าไปด้วยกันกับ Bitkub สามารถติดตาม Bitkub ได้ที่ Facebook: @bitkubofficial

อ้างอิง

https://docs.near.org/

https://cointelegraph.com/news/near-token-sale-postponed-after-coinlist-is-overwhelmed-by-demand

https://www.crunchbase.com/organization/near-0565

https://near.org/blog/the-beginners-guide-to-the-near-blockchain/

https://decrypt.co/27605/next-generation-ethereum-killer-near-raises-21-6-million

ผู้เขียน: Waranyu Suknantee | 15 ธ.ค. 64 | อ่าน: 7549
บทความล่าสุด