บทความ
มาทำความรู้จัก ADA (Cardano) ให้มากขึ้น
Cardano หรือเหรียญ ADA เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มี Roadmap การอัปเดตที่ชัดเจนและได้รับความชื่นชอบจากนักลงทุนทั่วโลก แล้วเหรียญ ADA คืออะไร มีจุดเด่นอะไร และทิศทางของการอัปเดตในอนาคตมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
— -
Cardano และ ADA คืออะไร?
Cardano คือบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake โดยมีเหรียญ ADA เป็นเหรียญหลักที่ใช้ในเครือข่าย ก่อตั้งขึ้นโดย Charles Hoskinson หนึ่งในอดีตผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่าย Ethereum ปัจจุบันเป็น CEO ของบริษัท Input Output Hong Kong (IOHK) ที่พัฒนา Cardano มาอย่างต่อเนื่อง
เหรียญ ADA มีที่มาจากชื่อ Ada Lovelace หญิงที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก โดยเหรียญ ADA มีหน้าที่ใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมเพื่อทำธุรกรรมหรือรัน Smart Contract บนเครือข่าย และยังสามารถนำไปวางค้ำประกัน (Stake) เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้เครือข่าย CArdano และรับรางวัลเป็นเหรียญ ADA ได้ด้วย
— -
จุดเด่นของ Cardano คืออะไร?
เนื่องจาก Cardano ใช้ระบบฉันทมติแบบ Proof-of-Stake นั่นจึงทำให้ Cardano เป็นอีกเครือข่ายที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถประหยัดพลังงานจากการขุดลงไปได้ถึง 99% เมื่อเทียบกับเครือข่ายแบบ Proof-of-Work อย่าง Bitcoin หรือ Dogecoin เป็นต้น
นอกจากนี้ Cardano ยังไม่เคยล่มเลยแม้แต่ครั้งเดียวนับตั้งแต่เริ่มทำงานมา (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กันยายน 2565) เนื่องจาก Cardano มีความกระจายอำนาจค่อนข้างสูง และให้ความสำคัญกับความเสถียร โดยทุกขั้นตอนของการพัฒนาจะมีการทำ Peer review ที่เป็นการให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยตรวจสอบ และให้ความเห็นเพื่อการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพที่สุด
— -
อนาคต Cardano (ADA) จะเป็นอย่างไร?
Cardano เป็นอีกเครือข่ายหนึ่งที่มีการวางแผนพัฒนาหรือโรดแมปไว้อย่างชัดเจน โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 ยุคดังนี้
1.Byron — การก่อตั้ง
เริ่มขึ้นในปี 2015 เป็นยุคแรกสุดของการก่อตั้ง Cardano โดยเป็นการวางรากฐานระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบฉันทมติแบบ Proof-of-Stake รวมถึงการกำหนดเป้าหมายของเครือข่ายที่จะมาแก้ปัญหาทั้ง 3 อย่างของบล็อกเชน นั่นคือการขยายขนาด (Scalability), การทำงานร่วมกัน (Interoperability), และการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) จากนั้นในปี 2017 เครือข่าย Cardano ในยุค Byron ก็เริ่มทำงาน โดยในยุคแรกสุดนี้ผู้ใช้ยังสามารถทำได้แค่เพียงการโอนเหรียญ ADA ให้กันเท่านั้น
2.Shelley — การกระจายอำนาจ
ในยุคของ Byron เครือข่าย Cardano ยังค่อนข้างมีความรวมอำนาจค่อนข้างสูง แต่ในยุคของ Shelley การพัฒนาจะมุ่งเน้นไปที่การกระจายอำนาจที่มากขึ้นผ่านการกระจายโหนด (Node) และสนับสนุนให้ชุมชนผู้ใช้ ADA เข้ามาช่วยรันเครือข่ายเพื่อความปลอดภัยและความโปร่งใสที่มากขึ้น
3.Goguen — เพิ่ม Smart Contract
เพิ่งอัปเดตไปในปี 2021 ที่ผ่านมานี้เอง กับยุค Goguen ที่เป็นยุคที่นักลงทุนจับตากันมากที่สุดยุคหนึ่งของ Cardano เพราะเป็นการอัปเดตที่ทำให้เครือข่ายรองรับ Smart Contract หรือสัญญาอัจฉริยะ ในที่สุด ทำให้เกิดการพัฒนา DApp (Decentralized Application) ต่าง ๆ ขึ้นบน Cardano ตามมามากมาย และยังเป็นการเพิ่มประโยชน์การใช้สอยเหรียญ ADA ให้มากขึ้นอีกด้วย
4.Basho — การขยายขนาด
หลังจากที่เพิ่ม Smart Contract เข้าไปในยุค Goguen แล้ว ผู้พัฒนาก็ได้คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ทำธุรกรรมและการใช้งานเครือข่าย Cardano จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคอขวดหรือความล่าช้าของธุรกรรม การอัปเดตที่กำลังเกิดขึ้นในของ Cardano ในยุค Basho จึงเป็นการมุ่งเน้นไปที่การขยายขนาด (Scalability) เพื่อทำให้มั่นใจว่าเครือข่ายสามารถรองรับจำนวนธุรกรรมที่ทวีคูณขึ้นได้อย่างมั่นคง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บล็อกเชนถูกใช้อย่างกว้างขวาง (Mass Adoption)
ปัจจุบัน Cardano ได้เข้าสู่ยุค Basho โดยการอัปเดตใหญ่ที่เรียกว่า Vasil Hard Fork ที่เกิดขึ้นไปเมื่อเดือนกันยายน 2022 เป็นการอัปเดตที่เพิ่มความสามารถในการรองรับจำนวนธุรกรรมที่สูงขึ้น รวมถึงการอัปเดตใหญ่สำหรับภาษา Plutus ที่เป็นภาษาโปรแกรมสำหรับการเขียน Smart Contract บน Cardano ให้มีฟังก์ชันมากขึ้นอีกด้วย
5.Voltaire — การบริหาร
ยุคสุดท้ายของ Cardano เป็นยุคที่ผู้พัฒนาเชื่อว่าเครือข่ายและชุมชนจะสามารถยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว โดยจะมีการเพิ่มฟังก์ชันอย่างการ Stake และการโหวตเพื่อให้ชุมชนช่วยกันกำหนดทิศทางการพัฒนาต่อไป ทำให้ Cardano ไม่อยู่ภายใต้การบริหารของ IOHK อีกต่อไป กลายเป็นเครือข่ายที่มีความกระจายอำนาจอย่างแท้จริงในที่สุด
— -
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออนาคตของเหรียญ ADA มีอะไรบ้าง?
เราสามารถแบ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของราคา ADA ออกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้
-ปริมาณการใช้งานเครือข่าย
เนื่องจากการใช้งานเครือข่าย Cardano ไม่ว่าจะเป็นการโอนเหรียญ การใช้หรือสร้าง Dapp ตลอดการใช้ NFT ล้วนต้องใช้เหรียญ ADA เป็นค่าธรรมเนียมทั้งนั้น ดังนั้น ยิ่งเครือข่ายมีปริมาณการใช้งานมากเท่าไหร่ ก็เป็นสัญญาณสะท้อนว่าเครือข่าย Cardano ได้รับความนิยมมากขึ้นเท่านั้น จึงอาจมีส่วนช่วยให้มูลค่าของ ADA ปรับสูงขึ้นได้ ในทางกลับกัน หากปริมาณการใช้เครือข่ายน้อยลง ก็อาจส่งผลลบต่อราคา ADA
-โปรเจกต์ที่ถูกพัฒนาบน Cardano
ตั้งแต่การอัปเดต Alonzo Hard Fork ในยุค Goguen ทำให้ Cardano สามารถรองรับ Smart Contract ได้ในที่สุด นับตั้งแต่นั้นการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือโปรเจกต์บน Cardano ก็เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด มีโปรเจกต์นับพันที่กำลังถูกพัฒนาขึ้น และมีกว่า 90 โปรเจกต์ที่เปิดตัวแล้ว เช่น
1.Sundaeswap (SUNDAE) — เป็น Decentralized Exchange
2.Meld (MELD) — เป็นแพลตฟอร์มกู้ยืมแบบกระจายอำนาจ
3.Drunken Dragon Games (FT) — เกม NFT
การพัฒนาโปรเจกต์เหล่านี้นี่เองที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการใช้งานเครือข่าย Cardano ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด หากมีโปรเจกต์ที่น่าสนใจหรือประสบความสำเร็จเกิดขึ้นบน Cardano ก็จะเป็นผลบวกต่อมูลค่า
-สภาวะเศรษฐกิจ
อีกปัจจัยสำคัญต้องพูดถึงคือภาวะเศรษฐกิจ เพราะจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความต้องการลงทุนของนักลงทุนโดยตรง หากเศรษฐกิจซบเซาดั่งในปัจจุบัน ก็อาจส่งผลกระทบทั้งในด้านราคาและการพัฒนาโปรเจกต์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้กระทบแค่ราคาเหรียญ ADA เพียงอย่างเดียว แต่กระทบทั้งวงการคริปโทเคอร์เรนซีที่ถือว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง
— -
สรุป
หลังจากนี้การพัฒนาเหรียญ ADA หรือ Cardano จะเริ่มเข้าสู่ยุค Basho ที่เน้นไปที่การขยายขนาดเพื่อรองรับจำนวนธุรกรรมที่ถูกคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ดังนั้น ปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาสำหรับการลงทุนใน ADA ที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ ปริมาณการใช้งานเครือข่ายว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร โปรเจกต์ต่าง ๆ ที่กำลังถูกพัฒนาขึ้นบน Cardano จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน และสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
===================
ติดตามบทความ ข่าวสาร และความรู้ที่น่าสนใจเรื่อง บิตคอยน์ (Bitcoin), Cryptocurrecy และความรู้อีกมากมายในวงการคริปโต ได้ที่ Bitkub Blog
คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
**** ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใด ๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื้อหาข้างต้นเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาโดยใช้ข้อมูลในอดีตและเครื่องมือวิเคราะห์ อาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
===================
Let’s get to know ADA (Cardano) more
Cardano, or the ADA coin, is another coin with a clear roadmap for updates and has gained popularity among investors worldwide. So, what is the ADA coin? What are its standout features and the directions for future updates? Let’s get to know it more in this article!
Cardano is a Proof-of-Stake blockchain with the ADA coin as its primary currency in the network. It was founded by Charles Hoskinson, one of the co-founders of the Ethereum network, who is now the CEO of Input Output Hong Kong (IOHK), the company that develops Cardano.
ADA coin is named after Ada Lovelace, who is recognized as the world’s first computer programmer. The ADA coin is used to pay fees for transactions or to run smart contracts on the network, and can also be staked to help secure the Cardano network and earn ADA rewards.”
1.Byron — Establishment
Cardano was founded in 2015 as the first era of the establishment of various system foundations, whether it be the Proof-of-Stake consensus system or the network’s goal of solving three problems of the blockchain: scalability, interoperability, and sustainability. In 2017, the Cardano network in the Byron era began to operate, and during this early period, users could only transfer ADA coins to each other.
2.Shelley — Decentralized
In the Byron era, the Cardano network still had relatively centralized authority, but in the Shelley era, the development will focus on increasing decentralization through the distribution of nodes and supporting the ADA user community to run the network for increased security and transparency.
3.Goguen — Adding Smart Contract
Just recently updated in 2021, the Goguen era is one of the most highly anticipated eras of Cardano, as it is an update that allows the network to support smart contracts. This has led to the development of various decentralized applications (DApps) on Cardano and has also increased the utility of using ADA coins.
4.Basho — Enlargement
After the addition of smart contracts in the Goguen era, developers have predicted that the number of transactions and network usage on Cardano will increase significantly in order to avoid bottlenecks or slow transaction processing. The updates currently happening in Cardano’s Basho era are focused on scalability to ensure that the network can support the increasing number of transactions with confidence, which is another important factor in the mass adoption of the blockchain.
Currently, Cardano has entered the Basho era with a major update called the Vasil Hard Fork that occurred in September 2022. This update adds more advanced features to the blockchain, such as the ability to freeze or unfreeze assets and the creation of smart contracts in multiple languages. It is also expected to improve the network’s overall performance and scalability.
5.Voltaire — Management
The final era of Cardano is the era where developers believe that the network and community will be able to stand on their own, with the addition of functions such as staking and voting to allow the community to help determine the direction of future development. This will make Cardano no longer under the management of IOHK, but rather a truly decentralized network.
What factors affect the Future of the ADA Coin?
We can classify the factors that affect ADA price movements as follows:
- Network traffic or network usage volume.
Because the use of the Cardano network, whether it be transferring coins, using or creating DApps, or using NFTs, always requires the use of ADA coins as fees, the more the network is used, the more popular it becomes, which may lead to an increase in the value of ADA. On the other hand, if the amount of network usage decreases, it may have a negative impact on the price of ADA.
- Project developed on Cardano
Since the Alonzo Hard Fork update in the Goguen era, Cardano has finally been able to support Smart Contracts. Since then, the development of apps or projects on Cardano has increased dramatically, with over 90 projects already launched, such as:
1.Sundaeswap (SUNDAE) — A Decentralized exchange
2.Meld (MELD) — A Decentralized lending platform
3.Drunken Dragon Games (FT) — An NFT game
The development of these projects will drive the increased usage of the Cardano network. If interesting or successful projects are launched on Cardano, it will have a positive impact on the value of Cardano.
- Economic conditions
Another important factor to consider is the economic situation because it will have an impact on investor confidence and investment demand. If the economy is in a downturn, as it is currently, it can have an impact on both the price and development of various projects, which will not only affect the price of ADA coins but also the entire cryptocurrency market, which is considered a risky asset.
Summary
After this, the development of the ADA coin or Cardano will enter the Basho phase, which focuses on expanding the network to accommodate a higher expected volume of transactions. Therefore, key factors to consider when investing in ADA with high potential include the trend of network usage, the success of various projects being developed on Cardano, and overall economic conditions.
— — — — — -
- Read more articles, news, and interesting knowledge about the crypto industry on the Bitkub Blog
Disclaimers:
- Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
- Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
- Returns/Past Performance does not guarantee future returns/performance.