บทความ
รู้จัก “กุหลาบไฟ” ดอกไม้งามแห่งบิทคับ กับความสามารถที่พร้อมเบ่งบานให้ทุกคนได้รู้จักในเดือน Pride Month 🏳️🌈
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในสังคมโลกในปัจจุบันเต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ความหลากหลายทางสีผิว และหนึ่งในความหลากหลายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยในเดือนแห่งความภาคภูมิใจนี้ นั่นก็คือ “ความหลากหลายทางเพศ” ที่ตอนนี้หลายที่ และหลายประเทศต่างก็ได้เปิดกว้างมากขึ้นแล้วในเรื่องความเท่าเทียม และที่บิทคับเองก็เช่นกัน
ที่บิทคับขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนความเท่าเทียมและความงดงามในความสามารถ แม้นี่จะเป็นเพียงส่วนหนึ่งแต่เราเชื่อว่าทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้จะหลงใหล และตกหลุมรักกับกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า ‘กุหลาบไฟ’ วันนี้สมาชิกทั้ง 8 คนจะพาไปสำรวจทุกแง่มุมของดอกไม้งามแห่งบิทคับ เขาเหล่านี้มาพร้อมความสามารถที่มาเสริมเติมให้โดดเด่นในเส้นทางของตัวเอง เต็มเปี่ยมไปด้วยความเข้มแข็งพร้อมเผชิญกับทุกความท้าทาย มากไปด้วยแพสชันที่พร้อมจะลุยไปกับบิทคับ
อยากรู้จักกันแล้วใช่ไหม? ‘กุหลาบไฟ’ พร้อมแล้ว มาติดตามกันได้เลย!
อยากรู้จักกันให้มากขึ้นต้องเริ่มจากแนะนำตัว
นับดาว: สวัสดีค่า นับดาวนะคะ ขวัญลดา สุทธิประภา ตอนนี้ทำตำแหน่ง Community & Campaign Growth Supervisor ที่ Bitkub ค่ะ
ดรีม: ดรีมค่ะ ตำแหน่ง Operation Supervisor, Bitkub Online Co., Ltd.
เอ็มเอ็ม: ชื่อ เอ็มเอ็ม ตำแหน่ง Senior Reconciliation Associate ทีม Accounting
กอล์ฟ: ชื่อ ประวีร์ ศรีพรสวรรค์ (กอล์ฟ) ตำแหน่ง Senior Graphic Designer, Bitkub Blockchain Technology Co., Ltd.
มะปราง: มะปราง พุทธชาด นะคะ Ops Knowledge Management Supervisor (Trainer) ค่ะ
ฟอร์ด: ฟอร์ด จากทีม Procurement ค่ะ
ซัมเมอร์: สวัสดีค่ะ! ซัมเมอร์นะคะ ตำแหน่ง Customer Support Supervisor ค่ะ
ฝ้าย: ฝ้าย Community Builder จาก Bitkub Blockchain ค่ะ
กุหลาบไฟนี้มีที่มา
ทุกคน: กลุ่มเรามาจากการแข่งขันกระชับมิตร “ BITKUB HODL DAY ” ในบริษัท ซึ่งเป็นนัดอุ่นเครื่องที่เป็นการแข่งขันเกมออนไลน์ค่ะ จึงได้มีการรวมกลุ่มกันเพื่อร่วมกิจกรรมและได้ตั้งชื่อทีมว่า “กุหลาบไฟ” ซึ่งเป็นคำที่กำลังเป็นคำที่ฮอตฮิตติดกระเเสในตอนนั้น หลังจากนั้นเราก็รวมตัวกันทำกิจกรรมต่างๆ และก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
จุดเริ่มต้นของทุกคนที่บิทคับ
ฝ้าย: เพื่อน ๆ ในกุหลาบไฟสนิทกันมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาลัยแล้วค่ะ แล้วทุก ๆ ครั้งที่เราได้เจอกัน เราจะแชร์ทั้งเรื่องชีวิตประจำวัน และเรื่องงานด้วยกันตลอด และเพื่อนก็แชร์ว่าที่บิทคับสวัสดิการดี สังคมดี ลองมาสมัครดูไหม ? ฝ้ายคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดี ก็เลยลองสมัครเข้ามา เพราะคิดว่าที่บิทคับเปิดโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมกันมาก ๆ ไม่ว่าคุณจะจบจากที่ไหน ที่นี่พร้อมเปิดรับทุกคนถ้าทุกคนมีความสามารถ บวกกับบิทคับมีคนเก่ง ๆ เยอะมาก ฝ้ายเลยอยากมาพัฒนาตัวเองและเรียนรู้ประสบการณ์จากพี่ ๆ ทุกคนในบิทคับค่ะ
ฟอร์ด: ตอนนั้นฟอร์ดทำงานด้านการเงินค่ะ แต่เรารู้สึกอิ่มตัวกับงานที่ทำอยู่ เลยอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะสามารถมาพัฒนาตัวเองได้ ประจวบเหมาะกับที่พี่เอ็มเอ็มได้ชวนให้เข้ามาทำงานที่บิทคับ ฟอร์ดก็เลยค้นคว้าเกี่ยวกับธรุกิจ Fin-Tech และเกิดความสนใจ เลยตัดสินใจและตั้งใจมากๆ ที่จะสมัครเข้าไปทำงานที่บิทคับ จนได้มาเป็น Bitkubers ในวันนี้ค่ะ
มะปราง: มะปรางทำงานด้านการศึกษามาก่อน เป็นธุรกิจเพื่อสังคม (SOCIAL ENTERPRISE) ประสบปัญหาแล้วก็ออกมาเป็นฟรีแลนซ์ แต่ก็ยังอยากทำงานเพื่อสังคมเหมือนเดิม ก็เลยถูกเชื้อเชิญมาด้วยจุดยืนขององค์กรที่ว่าเราจะสร้างโอกาสและทำให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสนั้นอย่างเท่าเทียมผ่านการสร้างนวัตกรรมของเรา ทำให้เราเห็นภาพตัวเองได้ทำอะไรที่มีผลกระทบในเชิงบวกต่อสังคมมากขึ้น บวกกับเรามีพี่ที่ทำงานที่บิทคับมาก่อน ซึ่งก็ป้ายยาว่าที่นี่ให้คุณค่ากับการพัฒนาพนักงาน ให้โอกาสในการได้เป็นตัวของตัวเอง และมีสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่เอื้อให้เราทำงานได้เต็มศักยภาพ ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจเลยว่านี่คืองานในฝัน เพราะโอกาสที่จะได้ทำงานที่รักพร้อมกับได้รับการส่งเสริมอย่างดีจากองค์กรแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ เราก็เลยคว้าไว้ค่ะ
เอ็มเอ็ม: ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เอ็มเอ็มก็เป็นพนักงานออฟฟิศคนนึงที่ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เพียงแค่เรารู้สึกว่าบริษัทที่เราอยู่มาก่อนหน้านี้มันยังไม่ใช่ตัวเราสักเท่าไหร่ เราก็เลยตั้งเป้าหมายไว้ว่า ที่ทำงานที่ต่อไปเราอยากทำงานในบริษัท Startup เพราะน่าจะเหมาะกับตัวเรามากกว่า จนมาเจอบิทคับ ก็เลยเลือกที่จะลองส่งใบสมัครไป ทั้ง ๆ ที่ก็พูดตามตรงว่า ณ ตอนนั้น Blockchain และ Bitcoin คืออะไรเราแทบจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำ แต่เรามาเพราะสิ่งที่เรียกว่า ความอยากรู้ อยากเรียนรู้และอยากพัฒนาตนเอง จนสุดท้ายก็ได้รับโอกาสเข้ามาทำงานที่นี่
ดรีม: ตอนนั้นดรีมพึ่งเรียนจบใหม่ๆ และเป็นช่วงโควิดพอดี แต่โชคดีมากที่ตอนนั้นบิทคับกำลังเปิดรับคนอยู่พอดี ซึ่งบิทคับเองก็ถือเป็นบริษัทน่าสนใจมาก ดรีมได้รู้จักบิทคับจากการฟังบทสัมภาษณ์ของคุณท็อป ตอนนั้นชอบมากและตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องเข้ามาทำงานที่นี่ให้ได้ และก็ทำสำเร็จค่ะ ตอนนี้ดรีมก็ทำงานที่นี่มาครบ 2 ปีแล้วค่ะ
นับดาว: ย้อนกลับไปตอนสมัยปี 2019 บิทคับเป็นบริษัทที่น่าสนใจมากๆ และนับดาวเองก็เคยเห็นข่าวเรื่องบิตคอยน์และบล็อคเชนอยู่บ่อย ๆ จึงสนใจที่จะมาทำงานอยู่ในวงการนี้ รวมถึงภาพลักษณ์ของบิทคับเองดูเป็นบริษัทของคนรุ่นใหม่และค่อนข้างเปิดกว้าง จึงทำให้นับดาวอยากมาทำงานที่นี่มากๆ และได้ตัดสินใจสมัครเข้ามาค่ะ
มาจากทีมและตำแหน่งที่ต่างกัน สนิทกันได้ยังไง
ทุกคน: เอาจริงๆ เลยก็ เราทุกคนรู้จักกันผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทที่ทำให้เราได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนต่างทีมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรม “BITKUB HODL DAY” นอกจากนี้เรายังรู้จักกันผ่านโปรเจคต่าง ๆ อย่างเช่น โปรเจค Miss Universe Thailand 2021, Universe Is U “จักรวาลนี้คือเธอ”, NFT Airdrop และงาน Bitkub BitPride ที่ผ่านมา กลุ่มเราอยู่ต่างทีมกันด้วยหน้าที่ของงาน แต่เรามีเป้าหมายเดียวกันเพื่อขับเคลื่อนองค์กร ความต่อกันติดมันเลยง่ายมากเพราะทุกคนคือ Bitkubers และด้วยความที่เรารวมตัวกันเป็นแก๊งกุหลาบไฟด้วยแล้ว เวลามีอีเวนต์อะไรทีเราก็แห่ไปช่วยกัน และอีเวนต์ไหนเป็นเรื่องที่เราชอบ เราก็ยิ่งเอนจอยไปกับมัน ทีนี้พอชอบอะไรคล้ายๆ กัน เช่น นางงาม ชอบกินยำ ชอบร้องคาราโอเกะ ก็เลยเจอกันบ่อย คุยกันบ่อย แฮงค์เอากันบ่อยเลยทำให้กลุ่มเราสนิทกันเร็ว
ตั้งแต่ทำงานมามีเหตุการณ์หรืองานไหนที่ท้าทายหรือสนุกๆ และจำได้ไม่ลืมบ้าง
นับดาว: เป็นช่วง Bitkub ไฟไหม้เลยค่ะ
เอ็มเอ็ม: คืออย่างนี้ ช่วงที่ต้นปี 2021 เป็นอีกเหตุการณ์ที่หลาย ๆ คนจำไม่เคยลืม เราเรียกกันเองในหมู่เพื่อนๆ ว่าช่วง “บริษัทไฟไหม้” ฮ่าๆ คือช่วงนั้นเป็นช่วงที่ Bitkub Exchange ก็บูมมากๆ ซึ่งตอนนั้นทุกคนในบริษัทต่างทุ่มเทมากๆ และพาร์ทของเราจะเกี่ยวข้องกับข้อมูล Transaction ทั้งหมด ซึ่งช่วงนั้น Transaction เพิ่มจากปกติเป็นจำนวนมาก ทำให้ข้อมูลต่อวันเยอะมากๆ ตอนนั้นคือกลับบ้านดึกทุกวัน จนกลายเป็นประโยคที่พูดกันติดปากเล่นๆในทีม Accounting ว่า ถ้าใครมาทำงานในทีม Accounting แล้วยังไม่เคยอยู่ปิดไฟออฟฟิศ ถือว่ามาไม่ถึงทีม Accounting ฮ่าๆ เป็นอะไรที่เหนื่อยมาก ๆ แต่ก็สนุก พอมองย้อนกลับไป มันเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามากๆ ในฐานะคนทำงานคนนึง ได้ Up skill ตัวเองขึ้นไปอีกหนึ่งเลเวล ได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ เยอะมาก เราได้เห็นถึงน้ำใจของทุกๆ ทีมที่ช่วยเหลือกัน ที่พยายามตั้งใจทำงานของตนเองให้ออกมาดีที่สุด เพื่อให้บิทคับก้าวขึ้นไปในอีกหนึ่งสเต็ป
ซัมเมอร์: คงเป็นงานนฤมิตรไพร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา เป็นงาน Pride parade ครั้งแรกอย่างเป็นทางการของกรุงเทพมหานคร แม้ว่าจะเป็นงานที่กระทันหันมาก แต่ก็สนุกแถมได้ร่วมรณรงค์ให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมและประเทศของเราด้วยค่ะ
ดรีม: ถ้าเป็นอีเว้นท์ที่ทำร่วมกันและดูจะจริงจังมากๆ ก็ตอนแข่งเกมออนไลน์ในงาน BITKUB HODL DAY เลยค่ะ ตอนนั้นทีมเราถึงกับมีโปสเตอร์เพื่อโปรโมท และช่วงนั้นต้องซ้อมทีมด้วยกันเกือบทุกวันก่อนวันแข่งจริง ทำให้แก๊งเราสนิทกันมากขึ้น ถึงผลจะออกมาแพ้แต่รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่สนุกและคุ้มค่ามากค่ะ
กอล์ฟ: ที่ชอบที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องความจริงจังของพวกเราในการไปกินยำครับ โดยเราได้มีการจัดงานชื่อว่า “ศึกยำกระชับมิตร” ที่เป็นการนัดกินยำแถวห้วยขวางแบบมีการยิง Calendar และส่ง Invitation Card เพื่อคอนเฟิร์มนัดเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญมากๆ ของพวกเราเลยก็ว่าได้
มะปราง: สนุกทุกวัน ท้าทายทุกวัน เรียกได้ว่าทำงานทั้งปีมีอยู่ 365 เรื่อง เลยเอาจริง สุ่มมาเล่าสักเรื่องละกัน คือ ตอนเป็นพิธีกรงาน Town Hall ของบริษัท Bitkub Online Co., Ltd. ค่ะ มะปรางได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรค่ะ ซึ่งก็เกร็งมากๆ เพราะว่าเราจะต้องสัมภาษณ์พี่ๆ ระดับ Deputy CEO คือเราไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว และเวลาที่ต้องคุยกับผู้ใหญ่ก็จะทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าต้องใช้ภาษาระดับไหน จะรับส่งกันได้ไหม กังวลไปหมดค่ะ แต่พอถึงวันงานจริงๆ พี่ๆ ทุกคนเป็นกันเองมากๆ คอยชวนคุยถามชื่อและแชร์กันเรื่องความตื่นเต้นที่จะต้องขึ้นพูดไปด้วยกัน ไม่ใช่แบบที่เราจินตนาการไว้เลย มะปรางรู้สึกว่าเรามีทีมที่พร้อมเป็นทีมกับเราจริงๆ ไม่ต้องแยกระดับกันหรือเข้าถึงได้ยาก เราได้รับการให้เกียรติจากพี่ ๆ ในฐานะคนทำงานร่วมกัน มันเลยทำให้การพูดคุยวันนั้นมันลื่นไหลสุดๆ เป็นดีเทลที่ทำให้เราประทับใจและเชื่อว่าถ้าสิ่งมหัศจรรย์เล็กๆ มันเกิดขึ้นในใจเราได้ เมื่อคนเหล่านี้รวมกันเป็นองค์กร เราจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้นกับสังคมได้แน่นอน เรามั่นใจกับตัวเองและองค์กรมากขึ้นมากๆ จากเหตุการณ์วันนั้น
ฟอร์ด: งานที่ท้าทายก็คงจะเป็นตำแหน่งงานที่ทำอยู่ค่ะ ฟอร์ดมาจากงานทางด้านสายการเงิน ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานในด้านจัดซื้อมาก่อน ก็รู้สึกว่าเป็นงานที่ท้าทายดีค่ะ ต้องประสานงานกับทั้งภายในทีมและเวนเดอร์ อีกทั้งยังต้องบริหารเรื่อง Lead time ให้ดี Quality ต้องได้
ฝ้าย: อีเว้นต์ที่ประทับใจ คือ งานเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 1 ปี ของ Bitkub Chain ฝ้ายรู้สึกว่ามันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ ฝ้ายดูแลในส่วนของ Social Media รู้สึกเครียดไปเลยช่วงนึง เพราะกลัวว่าคอนเทนต์ที่โปรโมทงานนี้จะออกมาไม่ดี ซึ่งคอนเทนต์นี้จะลงในเพจ Bitkub Chain ที่มีคนติดตามเยอะมาก ต้องดูเรื่องคำที่สื่อสารออกไป ดูเรื่องภาพที่จะใช้ในการโปรโมท ฝ้ายพยายามทำและปรึกษาทุกคนในทีมเสมอ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุดค่ะ พอได้เวลาโปรโมทคอนเทนต์ออกไป มีคนแชร์และสนใจเยอะมาก ๆ วันนั้นฝ้ายรู้สึกดีใจและโล่งใจมากค่ะ คืออยากขอบคุณทุกคนในทีมมาก ๆ ที่ช่วยทำให้อีเว้นท์นี้ผ่านไปได้อย่างสวยงาม
เคยเจอความยากจากการที่เราเป็น LGBTQIA+ บ้างไหมในการทำงาน
ฟอร์ด: ฟอร์ดเป็น LGBTQIA+ ที่พูด “ ค่ะ ” มาโดยตลอด และจะมีบุคลิกที่ค่อนข้างเป็นผู้หญิง ถึงสังขารจะไม่ให้ก็ตาม ส่วนนี้เลยทำให้ฟอร์ดพลาดในการสมัครงานในหลายๆที่ค่ะ แต่สำหรับ Bitkub แล้ว ที่นี่เป็นที่ที่ให้โอกาส และมีความเท่าเทียมจริงๆค่ะ
ฝ้าย: ทุกคนน่าจะเคยเจอคำถามว่า มีแฟนไหม? ถ้ามีแฟนเป็นเพศอะไร? ในการเข้ามาทำงานใหม่ ๆ ตลอด หลาย ๆ ครั้งที่ฝ้ายเจอคำถามนี้ ฝ้ายตอบว่าเคยมีแฟนทั้งทอมและผู้ชาย พอทุกคนได้ฟังคำตอบนั้นก็จะรู้สึกว่า ทำไมเราถึงไม่เลือกคบแต่กับผู้ชาย คบทอมด้วย ? พ่อแม่ไม่เสียใจหรอ จะมีลูกหลานสืบสกุลไหม จะมีคำถามจะเข้ามาตลอด และมีการแซวตลอด จนฝ้ายไม่อยากจะโต้ตอบด้วย เพราะรู้สึกว่าถึงโต้ตอบไป อธิบายไปคนเหล่านั้นก็ไม่เปลี่ยนความคิดที่ว่า ผู้หญิงต้องคบแต่กับผู้ชาย จนพอมาทำงานที่บิทคับ ฝ้ายเจอคำถามนี้เหมือนกัน แต่รีแอคที่ฝ้ายได้เจอมันกลับไม่ใช่แบบเดิมที่เคยเจอ ทุกคนดูเป็นปกติมาก มันทำให้ฝ้ายแฮปปี้กับการที่จะทำงานที่นี่ เพราะทุกคนไม่ได้มาแบ่งแยกเพศ และไม่ได้เกี่ยงว่าคุณจะเป็นเพศอะไร
มะปราง: สำหรับมะปรางเอง ความกดดันอาจจะไม่เท่าเพื่อนๆ ที่เค้าเจอ แต่เราจะเจอตลอดว่า คนคาดหวังให้เราสนุก ให้เราตลก กลุ่มนี้ LGBTQIA+ เยอะ ต้องทำการแสดงนะ ต้องเป็นจุดสนใจ ซึ่งมันกดดันเราตรงที่วันไหนที่เราเหนื่อย เราอยากพัก เราไม่จอย เราจะดูไม่ปกติทันที เราจะถูกมองด้วยสายตาผิดหวัง ทั้งๆ ที่ความเหนื่อยหรือการนั่งเฉยๆ ในปาร์ตี้เป็นเรื่องปกติ ทุกคนทำได้ เราชอบปาร์ตี้ของบิทคับเพราะเราไม่เหนื่อย ฮ่าๆๆ คือไม่ว่าใครก็ถือไมค์ได้ มีไมค์คาราโอเกะอันเดียวเราก็วนกัน ไม่ว่าใครก็เป็นคนเอนเตอร์เทนได้ ทุกคนที่พร้อมสนุก สามารถแบ่งปันความสนุกนั้นกับเพื่อนๆ ใครที่เหนื่อยกับการงานในวันนั้น ก็ไปนั่งรับพลังจากเพื่อนคนอื่นได้ ปาร์ตี้บิทคับเลยเป็นสนามพลังให้กับเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นบรรยากาศปาร์ตี้ที่อยากไปเพราะมันเปิดรับทุกคนจริงๆ
ดรีม: ส่วนตัวถ้าเป็นการทำงานยังไม่เคยเจอเลยค่ะ เพราะทำงานที่นี่เป็นที่แรก และที่บิทคับเป็นบริษัทที่เสรีมากค่ะ ไม่ว่าจะเพศไหนเราสามารถแสดงศักยภาพในการทำงานหรือออกความคิดเห็นต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียมเลยค่ะ
ถ้าเคยเจอ ตอนนั้นผ่านช่วงเวลาที่ยากมาได้ยังไง
เอ็มเอ็ม: ขอแชร์ในภาพรวมในการใช้ชีวิตแล้วกันนะ เราอาจจะไปเปลี่ยนความคิดของทุกคนไม่ได้ แต่ตัวเราสามารถเลือกที่จะให้ค่ากับสิ่งๆ นั้นได้ อะไรที่ทำให้เราไม่สบายใจ อะไรที่ทำให้เราทุกข์ ปล่อยวางมันไว้ เลือกเสพเฉพาะสิ่งที่ทำให้เราสบายใจ คนทุกคนเท่าเทียมกัน คุณค่าของตัวคุณเองไม่ได้อยู่ที่ใคร มันอยู่ที่คุณว่าให้ค่ากับสิ่ง ๆ นั้นมากเพียงใด ตราบใดที่คุณรู้จักตนเอง รู้ว่าเรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร เมื่อนั้นจะไม่มีคำใดที่มาด้อยค่าตัวคุณเองได้
ฝ้าย: ฝ้ายจะคิดว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นลม ที่พัดมาแล้วก็ผ่านไป จะไม่เก็บมาคิดใส่ใจค่ะ บางครั้งก็จะดูซีรี่ส์หรือว่าไปเที่ยวกับเพื่อน เพื่อไม่ให้ตัวเราคิดถึงเรื่องนั้น ซึ่งฝ้ายมองว่ามันช่วยได้เยอะมาก ๆ
ซัมเมอร์: คนทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยล้วนมีอุปสรรคและช่วงเวลาที่ยากด้วยกันทั้งนั้นค่ะ อาจจะต่างเรื่องราว ต่างรูปแบบกันไป สิ่งที่อยากจะบอกกับทุกคนถ้ามีโอกาสคือ ความสุขไม่ยั่งยืนฉันใด ความทุกข์ก็ไม่ได้ยั่งยืนฉันนั้นค่ะ เวลาที่เราเจอกับอุปสรรคหรือความผิดหวังใดๆ หายใจลึกๆแล้วค่อยก้าวข้ามผ่านมันไป เรียนรู้จากความผิดหวัง หากำลังใจจากคนรอบตัว เราก็จะก้าวต่อไปข้างหน้า และเติบโตได้อย่างงดงามค่ะ
ฟอร์ด: จากการที่ฟอร์ดพลาดโอกาสในการทำงานหลายๆ ที่ เพียงเพราะการที่เราเป็นตัวของตัวเอง ฟอร์ดมองว่าเมื่อโอกาสมันยังมาไม่ถึง เราเองก็ต้องผลักดันตัวเองและพยายามให้มากขึ้น ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองนั้น ถ้ามันทำแล้วดีขึ้น ฟอร์ดมองว่าก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายนะคะ แต่ถ้ามันทำแล้วเราอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง สุดท้ายผลเสียมันก็ตกมาที่เราอยู่ดี ฟอร์ดเลยเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเองค่ะ
กอล์ฟ: การเลือกที่จะวางตัวให้ดีเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เพียงแค่เรื่องเพศเท่านั้นแต่มันรวมถึงเรื่องความเหมาะสมและกาลเทศะด้วย การวางตัวที่ดีก็จะนำพามาซึ่งความสบายใจของทั้งตัวเราและคนรอบข้าง
มะปราง: มะปรางตั้งใจว่าในแต่ละวันต้องมีกิจกรรม Self Care ให้ตัวเอง 1 กิจกรรม เช่น กินอาหารตามใจ มาร์กหน้า อาบน้ำนานๆ ทำเล็บ เปิดแอร์เย็นๆ นอน เพื่อให้เรารู้สึกว่าเรายังได้รับความใส่ใจจากใครสักคนบนโลกอยู่ คนที่ใส่ใจว่าเรารู้สึกยังไง คนที่ไม่คาดหวังว่าเราจะเป็นอะไร อย่างน้อยก็คือตัวเรานี่แหละที่แคร์ความรู้สึกและความต้องการของเราเอง
บิทคับสนับสนุน LGBTQIA+
มะปราง: สำหรับมะปราง เราก็ไม่คิดนะว่าวันนึงจะได้อยู่หน้ากล้องบ้าง เป็นพิธีกรในงานใหญ่ๆ บ้าง เพราะส่วนใหญ่เค้าก็จะเลือกคนที่เป็นหน้าเป็นตาให้องค์กรได้ แต่เราได้รับโอกาสนั้นจากองค์กรเสมอ มะปรางชอบทุกครั้งเวลาที่เราได้รับโอกาส มันทำให้มะปรางรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากขึ้นได้ และก็รู้สึกได้ว่าองค์กรก็ภูมิใจที่มีเรา ภูมิใจที่จะให้เราได้อยู่ข้างหน้าบ้างได้เฉิดฉาย องค์กรรักในการเติบโตของเรา ใส่ปุ๋ยพัฒนาศักยภาพให้เราเสมอ รดน้ำกำลังใจทุกวัน ให้ความเป็นเราที่เราก็โคตรชอบในตัวเอง มันได้เบ่งบานที่สุด
เอ็มเอ็ม: ที่บิทคับ เรามองคนที่ความสามารถ ไม่จะว่าสังคมภายนอกจะให้คำจำกัดความคุณว่าอย่างไร แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีความสามารถ ถ้าคุณเป็นคนที่มีดี มีความสามารถ คุณมีที่ยืนแน่นอนในบิทคับ เราพร้อมซัพพอร์ตทุกๆ คน
ฟอร์ด, ดรีม และกอล์ฟ: หนึ่งสวัสดิการที่ทำให้เราภูมิใจกับการทำงานที่นี่มาก นั่นคือวันลาสำหรับ LGBTQIA+ ที่สามารถลาไปทำศัลยกรรมแปลงเพศค่ะ นับว่าบริษัทใส่ใจกับพนักงานทุกเพศอย่างแท้จริงค่ะ ถามว่าการแปลงเพศมันสำคัญยังไง ต้องบอกว่ามันเพื่อสุขอนามัย และสุขลักษณะที่ถูกต้องของพวกเค้าค่ะ ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกในสิ่งที่ตัวเองอยากเป็นค่ะ ที่บิทคับค่อนข้างจะเปิดกว้างในเรื่องของความหลากหลาย และให้อิสระพนักงานได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ อยากให้มีสวัสดิการดีๆ แบบนี้มาอีกเรื่อยๆ
ฝ้าย: บิทคับเป็นบริษัทที่ให้คุณค่าคนทุกคนเท่ากันหมด ฝ้ายรู้สึกชอบตรงนี้มากค่ะ ไม่มีการแบ่งแยกเพศในการทำงานหรือการเลื่อนตำแหน่งเลย อีกอย่างที่ชอบคือไม่จำกัดการแต่งตัว ทุกคนสามารถแต่งได้ในแบบที่คุณเป็น แล้วก็มีกิจกรรมซัพพอร์ต LGBTQ+ เยอะมาก เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้รู้จักกันมกขึ้น และได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา
ถ้าอยากร่วมงานกับบิทคับเหมือนกุหลาบไฟ ต้องเตรียมตัวยังไง
ทุกคน: สำหรับทุกคนที่สนใจอยากจะมาเป็น Bitkubers แค่ทุกคนเป็น Best Vesion ของตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง ภูมิใจในสิ่งที่เป็นเราและมั่นใจว่าสิ่งนั้นจะทำให้ทีมคุณไปสู่เป้าหมายได้ บิทคับพร้อมเปิดรับ และทุกศักยภาพของคุณจะถูกทำให้เติบโต คุณจะได้ใช้ทุกศักยภาพกับงานที่ทำแน่นอน สำหรับคนที่สนใจอยากจะมาเป็น Bitkubers ลองเข้ามาดูตำแหน่งงานได้ที่ Facebook: Bitkub Careers เลย
สุดท้ายเพราะชื่อกลุ่มเป็นกุหลาบไฟ ถ้าต้องเปรียบตัวเองเป็นดอกไม้สักชนิดจะเปรียบตัวเองเหมือนกับดอกไม้อะไรที่เบ่งบานอยู่ในบิทคับ
ดรีม: ดรีมขอเป็นดอก Lavender แล้วกันค่ะ ดอกนี้สื่อถึงความรุ่งโรจน์ที่มาพร้อมกับความสำเร็จและการบรรลุผล
ฟอร์ด: ดอกทานตะวันค่ะ ฟอร์ดอยากเป็นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึก อบอุ่น เป็น Comfort Zone ของทุกๆ คนค่ะ
มะปราง: เป็นดอกพุทธชาดเลยค่ะ ดอกไม้ที่เป็นชื่อของตัวเองเลย อยู่ที่นี่เราไม่ต้องเป็นคนอื่น เราเป็นเรา และเราคือส่วนหนึ่งขององค์กรเสมอ
ฝ้าย: ฝ้ายมองว่าตัวเองเหมือนดอกกุหลาบสีขาวค่ะ เพราะมันสื่อถึงความจริงใจ ความบริสุทธิ์ และการไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ที่บิทคับเปรียบเหมือนปุ๋ยและน้ำที่คอยรดให้ดอกกุหลาบสีขาวโตขึ้นเรื่อย ๆ มีกลีบออกมาตลอด ซึ่งกลีบนั้นเปรียบเหมือนความสามารถหรือทักษะที่ได้มาจากการทำงานที่บิทคับค่ะ สักวันนึงเราจะเป็นดอกกุหลาบสีขาวที่มีกลีบดอกแบบสวยงามและสมบูรณ์ แต่การที่จะมีกลีบที่ดี เราก็ต้องมีปุ๋ยและน้ำที่ดีเหมือนกันเพื่อเลี้ยงดอกกุหลาบสีขาวให้โตขึ้นมาอย่างดี ซึ่งนั่นก็คือ บิทคับนั่นเอง
กอล์ฟ: ดอกกล้วยไม้ครับ เพราะคิดมาเสมอว่าหากเราอยู่ถูกที่ ที่ให้ Value กับความสามารถ และความเป็นตัวตนของเรา เราจะสามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพครับ
ซัมเมอร์: สำหรับส่วนตัวซัมเมอร์เองคงเปรียบตัวเองเป็น ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน ค่ะ ตามความหมายของดอกไม้ คือ ความรักที่ไม่สามารถเป็นไปได้ เนื่องจากกุหลาบสีน้ำเงิน เป็นดอกไม้ที่เกิดตามธรรมชาติ หายากและเแปลกแยกจากดอกกุหลาบสีอื่นๆ เป็นดอกไม้ที่คนอื่นตัดสินว่าความหมายเชิงนัยไม่ดี แปลกแยก ไปจากดอกกุหลายสีอื่นๆ แต่สำหรับตัวซัมคิดว่า เมื่อเราเบ่งบานออกมาบนโลกใบนี้แล้ว ชีวิตล้วนสวยงาม และเราไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตัดสินคุณค่าในตัวของเราค่ะ จงเป็นดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่งดงามและภูมิใจค่ะ
เอ็มเอ็ม: ดอกทานตะวัน (อันนี้ชอบส่วนตัวอยู่แล้ว) นอกจากรูปลักษณ์ที่สูงตระหง่านและสวยงามแล้ว เราจะรู้ว่าดอกทานตะวันเมื่อบานจะหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์เสมอ ก็เหมือนกับตัวเราที่พยายามมองหาโอกาส มองหาที่เรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ๆ ถ้าเปรียบกับดอกไม้ช่วงที่เบ่งบานและสวยงามที่สุดในชีวิตคือ ช่วงที่เราได้มีโอกาส ไม่ว่าโอกาสนั้นจะมาจากการขวนขวายสร้างขึ้นมาเอง หรือจากการที่คนอื่นหยิบยื่นให้ จงคว้าไว้เถอะ และลงมือทำมันให้สุดความสามารถและดีที่สุด ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นจะเป็นกำไรที่มีคุณค่าในชีวิตคุณ
เป็นอย่างไรกันบ้าง ได้รู้จักกับแก๊ง “กุหลาบไฟ” ดอกไม้งามแห่งบิทคับกันแล้ว เรียกได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นตัวแทนแห่งความหลากหลายของบิทคับเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีคาเรกเตอร์ที่ชัดเจนแล้ว ทุกคนยังมาจากต่างทีมกันอีกด้วย มากไปกว่านั้นทุกคนพร้อมที่จะซัพพอร์ตซึ่งกันและกันเสมอ เพราะทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นก็คือการเป็น Bitkubers! ที่ Bitkub พร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยและร่วมสนับสนุนความหลากหลาย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความเท่าเทียมและมีโอกาสที่จะขับเคลื่อนบริษัทฯ ด้วยกันทั้งนั้น หากคุณเองก็อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ไปด้วยกันกับเรา อย่าปล่อยให้โอกาสของคุณหลุดมือ สามารถเข้าไปดูตำแหน่งว่างได้ที่ https://careers.bitkub.com หรือติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ Facebook: Bitkub Careers และ Instagram: LifeAtBitkub แล้วมาเป็น Bitkubers เหมือน ‘กุหลาบไฟ’ กันนะ! 💚