บทความ
Bitkub Intern’s Diary: บันทึกฝึกงาน Blockchain Engineer ที่ Bitkub!
หากพูดถึงตำแหน่ง Blockchain Engineer Intern แล้วนึกถึงอะไร?
สำหรับน้อง ๆ หลายคนที่กำลังหาที่ฝึกงานสายเทคฯ คงจะสะดุดกับคำว่า Blockchian Engineer กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย เนื่องจากตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่เพิ่งมีขึ้นมาไม่นานนัก นั่นจึงทำให้หลายคนสงสัยว่าการฝึกงานตำแหน่งนี้ต้องทำอะไรบ้าง และต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร แล้วจะตรงกับความต้องการของเราหรือไม่
วันนี้พี่ ๆ People Team จะพาไปรู้จักกับน้องณัฐชนน จันทรศัพท์ (บีม) และน้องเศรษฐาณัฐ กล้าดี (อิง) นักศึกษาฝึกงานตำแหน่ง Blockchain Engineer Intern จากบริษัท Bitkub Blockchain Technology Co., Ltd. ที่จะมาเล่าประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งน้องใหม่ไฟแรงแห่งสายเทคฯ อย่าง “Blockchain Engineer” ที่บิทคับกัน มาดูกันว่าน้อง ๆ มีวิธีการเตรียมตัวหาความรู้อย่างไรในสายงานที่ถือว่าใหม่มาก ๆ ในวงการเทคฯ และการทำงานในตำแหน่งนี้แตกต่างจากการเรียนในห้องเรียนมากน้อยแค่ไหน อย่าช้า ไปติดตามกันได้เลย!
แนะนำตัวกันก่อนเลย ชื่ออะไร ตอนนี้เรียนอยู่ที่ไหน คณะอะไร?
บีม: สวัสดีครับชื่อ บีม ครับ เรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ครับ
อิง: สวัสดีครับ ชื่อนาย เศรษฐาณัฐ กล้าดี ชื่อเล่นชื่อ อิง เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาซอฟต์แวร์และความรู้
ทำไมถึงเลือกมาฝึกงาน Blockchain Engineer Team ที่ Bitkub อยากรู้ว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้สมัครเข้ามาที่นี่และตำแหน่งนี้?
อิง: เริ่มแรกคือผมสนใจอยากเป็น Full stack อยู่แล้วครับ ประกอบกับว่าหันมาสนใจเทคโนโลยี Blockchain พอดี ก็เลยเริ่มอยาก dev ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain มากขึ้น เลยเริ่มมาดูว่าสายงานไหนที่ได้ทำงานเกี่ยวกับบล็อกเชนบ้าง ก็เลยมาจบที่ Blockchain Engineer ครับ
ส่วนทำไมถึงต้องเป็นที่ Bitkub เดิมทีผมชอบแนวทางทำงานของพี่ท๊อปอยู่แล้วครับ เพราะจากที่ดูสัมภาษณ์ในยูทูปของพี่เค้าทำให้ผมรู้สึกชื่นชอบทัศนคติและวิสัยทัศน์ของพี่ท๊อปที่มีต่อพนักงาน เลยเลือกที่นี่เป็นเป้าหมายแรกในการฝึกงานเลยครับ
บีม: เรารู้สึกว่า Blockchain มันน่าสนใจมาก แต่คนยังไม่ค่อยพูดถึงกันมากนัก การไปศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองทั้งในอินเทอร์เน็ตและการถามจากผู้รู้อาจทำได้ยากกว่าสายงานอื่น ๆ เพราะมันยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ การที่เราต้องลองไปทำงานกับทีมหรือบริษัทที่ทำเกี่ยวกับด้านนี้โดยตรงเลย บีมเลยตัดสินใจเข้ามาทำงานตำแหน่งนี้กับบิทคับครับ
เตรียมตัวอย่างไรก่อนมาฝึกงาน?
บีม: ก่อนมาฝึกงานด้าน Blockchain เราควรทำการบ้านเกี่ยวกับบล็อกเชนเทคโนโลยีมาในระดับหนึ่งก่อน เช่น ต้องเข้าใจคอนเซ็ปต์ของ Blockchain ก่อนว่า คืออะไร, ทำงานอย่างไร และสร้างมาเพื่ออะไร รวมถึงอาจลองทำโปรเจกต์เล็ก ๆ เพื่อเอาไว้ใส่ในเรซูเม่ของเรา โดยโปรเจกต์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องอลังการมาก แต่งานที่เราทำออกมาจะช่วยบอกผู้สัมภาษณ์ได้ว่า เราเข้าใจคอนเซ็ปต์ของมันมากน้อยแค่ไหน แต่ที่สำคัญเลยคือเราต้องทำโปรเจกต์เหล่านั้นด้วยตัวเอง เพราะไม่มีใครเข้าใจงานของเราได้ดีเท่ากับตัวเราเอง
อิง: ก่อนอื่นเลยต้องเข้าไปดูว่าตำแหน่งที่เราอยากฝึกต้องทำอะไรมาบ้าง ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่ตัวเองต้องการทำเพื่อให้สามารถสื่อสารกับพี่ ๆ ตอนสัมภาษณ์ได้อย่างชัดเจน ว่าอยากทำงานประมาณไหน ส่วนทริคในการทำ Portfolio คือเราอาจจะใส่รูปน้อย ๆ แต่เน้นจัดข้อมูลให้ออกมาอ่านง่าย ทำให้ Portfolio ของเราดูน่าหยิบไปอ่านมากยิ่งขึ้นครับ
Blockchain Engineer คืออะไร?
อิง: สำหรับผม ผมคิดว่า Blockchain Engineer คือวิศวะที่สามารถเข้าใจการทำงานของแต่ละเชน รวมถึงต้องเข้าใจความแตกต่างของเชนนั้น ๆ และสามารถเขียน Contract ออกมาได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เลือกใช้ Method หรือออกแบบ Structure ได้อย่างมีประสิทธิภาพให้คุ้มค่ากับค่า Gas fee* ที่ต้องใช้ในการ Deploy แต่ละ Contract
บีม: Blockchain Engineer คือคนที่สร้างระบบ/แอปพลิเคชั่น/โปรแกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain ครับ ถ้าพูดถึง Blockchain Engineer หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็น Developer ที่เขียน Smart Contract แต่ความเป็นจริงแล้ว เราไม่ได้เขียน Smart Contract เพียงอย่างเดียว พวกระบบต่าง ๆ ที่ทำงานควบคู่ไปกับ Blockchain หรือระบบที่เชื่อมต่อซอฟท์แวร์ของธุรกิจนั้น ๆ เข้ากับ Blockchain ก็เป็นงานที่ Blockchain Engineer รับผิดชอบเช่นกัน
หมายเหตุ:
* Gas fee คือ ค่าธรรมเนียม (Treansaction fee) ที่เราต้องจ่ายให้บล็อกเชนเพื่อบันทึกข้อมูล หรือ Deploy contract ไปบน Blockchain นั่นเอง
อยากให้เล่าภาพร่วมการทำงานภายในทีมคร่าว ๆ หน่อย ว่าทำงานกันอย่างไรบ้างและน้อง ๆ ได้ช่วยซัพพอร์ตทีมในส่วนไหนบ้าง?
บีม: เริ่มจากบรรยากาศในทีมก่อนละกันครับ พี่ ๆ ทุกคนดูแลเราดีมาก ๆ ด้วยความทื่เราเป็นน้อง Intern เราจะมีสิทธิพิเศษที่จะถามคำถามที่เราสงสัยได้ทุกอย่าง และพี่ ๆ ทุกคนก็พร้อมให้คำตอบที่ดีที่สุดกับเราเสมอครับ รวมถึงถ้าเราอยากรู้อะไรเพิ่มเติม พี่ ๆ เขาก็จะมาสอนให้แบบตัวต่อตัว ส่วนงานที่พี่ ๆ มอบหมายให้ทำก็เรียกได้ว่าหลากหลายมาก ๆ มีทั้งได้ไปช่วยงานพี่ ๆ ในบางโปรเจกต์ รวมถึงจะมีโปรเจกต์ที่ให้เหล่า Intern ทั้งหลายในทีมช่วยกันทำและรับผิดชอบงานนั้นเลยก็มีครับ ทำให้เราได้เห็น Cycle ของการทำงานตั้งแต่ยังเป็นคอนเซ็ปต์จนงานเสร็จออกมาเป็นชิ้นเป็นอันเลย
อิง: หากพูดถึงการทำงานภายในทีม ส่วนใหญ่ก็จะทำกันเป็นโปรเจกต์ไปครับ ในหนึ่งโปรเจกต์ก็จะแบ่งงานกันทำเป็นส่วน ๆ ถ้าส่วนไหนเสร็จเร็วก็จะมาช่วยเพื่อน ๆ หรือพี่ ๆ ในส่วนที่ยังไม่เสร็จครับ ถ้าเป็นโปรเจกต์ที่ตอนนี้ผมกำลังทำอยู่ ผมได้มีโอกาสช่วยซัพพอร์ตทีมในส่วนของการทำ Frontend ของโปรเจกต์ ก็ค่อนข้างท้าทายมาก ๆ เลยครับ
อยากให้ช่วยแชร์ประสบการณ์การฝึกงานที่หน่อย ว่ามีความท้าทายอย่างไรบ้าง
อิง: ความท้าทายอย่างนึงสำหรับผมเลยก็คือ การทำงานให้ออกมาอยู่ในรูปแบบ Format ที่ทางทีมกำหนดไว้ ซึ่งปกติเวลาเราทำงานตัวเองก็จะวางโครงสร้างตามใจตัวเองซะเป็นส่วนใหญ่ แต่พอเมื่อได้มีโอกาสมาทำงานกับทีมก็ต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อให้แนวทางในการทำงานมีทิศทางไปในทางเดียวกันครับ
บีม: ด้วยความที่เราไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน ทำให้เราต้องปรับตัวค่อนข้างมาก ได้ทำในสิ่งใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยทำมาก่อน งานส่วนมากที่ทำก็เป็นงานที่เราไม่ค่อยมีโอกาสเจอในมหาวิทยาลัย มันกระตุ้นให้เราต้องคอยศึกษาข้อมูลใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา และพี่ ๆ ในทีมก็มอบหมายโปรเจกต์ให้น้อง ๆ Intern เข้ามาลงมือทำงานกันเองจริง ๆ ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเรามีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่แค่มาช่วยงานอย่างเดียว พี่ ๆ ในทีมมักจะเปิดโอกาสให้เราได้แชร์มุมมองของเรา ว่าเรามีปัญหาหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการทำงานอย่างไรเสมอ เช่น เวลามีปัญหาเกิดขึ้น ถ้าเป็นเรา เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หรือบางทีเวลาเราทำงานขึ้นมาชิ้นหนึ่ง งานนั้นมันดีได้กว่านี้อีกไหม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันช่วยให้เราพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ
ตั้งแต่มาทำงานที่ Bitkub เราเห็นภาพของ Blockchain Technology กว้างขึ้นไหม ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
บีม: การเรียนในห้องเรียนหรือการไปเรียนรู้เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการลงคอร์สเรียนต่าง ๆ หรือการหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เราจะได้แค่ความรู้เชิงเทคนิคเกี่ยวกับ Blockchain เท่านั้น แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราควรจะเรียนรู้คือ Use Cases ของมัน หากเรารู้แค่ว่า Blockchain คืออะไร ทำงานอย่างไร แต่ไม่รู้ว่าเราสามารถเอา Blockchain ไปทำอะไรได้บ้าง ความรู้ที่เรามีก็ไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งการได้ฝึกงานกับบริษัทที่ทำเกี่ยวกับ Blockchain โดยตรงช่วยทำให้เราเข้าใจภาพรวมของเทคโนโลยีนี้มากยิ่งขึ้น ได้เห็น Use Cases ทางธุรกิจของมันจริง ๆ ได้เห็นว่าอะไรคือจุดเด่นและจุดด้อยของมัน ได้เห็นขั้นตอนและกระบวนการการทำโปรเจกต์ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน ซึ่งแตกต่างจากการทำ Workshop ในห้องเรียนอย่างสิ้นเชิงเลยครับ
อิง: ต้องบอกว่าการที่มาฝึกงานจริง ๆ ทำให้เราเห็นว่า Blockchain มีข้อกำจัดอะไรบ้าง เพราะเมื่อเรารู้ถึงจุดเด่นและจุดด้อยของมันแล้ว เวลานำมาใช้ในโปรเจกต์จริง ๆ ทำให้เราสามารถประมวลผลและนำเอา Blockchain มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ เพราะก่อนหน้าที่จะเข้ามาฝึกงาน เราจะเรียนมาแต่ประโยชน์ของ Blockchain แต่ไม่เคยนึกถึงข้อจำกัดของมันเลย
สุดท้ายนี้อยากบอกอะไรกับ Bitkub และพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในทีมบ้างมั้ย
อิง: อยากขอบคุณที่ให้โอกาสมาฝึกงานที่นี่ครับ จะพยายามเต็มความสามารถให้เกิดประโยชน์กับทีมและองค์กรให้ได้มากที่สุดครับ
บีม: อยากจะขอบคุณ พี่ ๆในทีมทุกคนที่คอยสอนสิ่งต่าง ๆ รวมถึงประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เราคิดว่าไม่น่าจะหาได้จากการเรียนในมหาวิทยาลัยแน่นอน และสุดท้ายก็ขอบคุณ Bitkub ที่ให้โอกาสมาฝึกงานที่นี่ครับ
เป็นอย่างไรกันบ้าง ได้รู้จักกับน้องบีมและน้องอิง ในตำแหน่ง “Blockchain Engineer Intern” กันไปแล้ว ต้องบอกเลยว่าถึงตำแหน่งนี้จะใหม่มาก ๆ แต่การเตรียมตัวเข้ามาฝึกงานกับบิทคับก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงแค่น้อง ๆ มีความสนใจในบล็อกเชนเทคโนโลยีจริง ๆ ขยันเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดเวลา ก็สามารถเข้ามาร่วมงานกับเราได้แล้ว พี่ ๆ ที่นี่พร้อมจะถ่ายทอดประสบการณ์ในสายงานให้กับน้อง ๆ อย่างเป็นกันเองไม่มีกั๊ก
นอกจากนี้ การฝึกงานที่นี่เราเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้ลงมือทำโปรเจกต์ร่วมกับทีมกันแบบจริง ๆ เราอยากให้ที่นี่เป็นเหมือน Sandbox ของน้อง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในสายงานที่น้อง ๆ สนใจและเพื่อให้น้อง ๆ สามารถนำความรู้เหล่านั้นไปต่อยอดกับอาชีพที่ตัวเองสนใจในอนาคตได้จริง
หากน้อง ๆ คนไหนสนใจเข้ามาฝึกงานกับเรา สามารถสมัครเข้ามาได้เลยที่ https://bit.ly/3wAiRqH หรือหากน้อง ๆ คนไหนอยากรู้ว่าการทำงานที่บิทคับเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าไปกดไลค์ Facebook: Bitkub Careers หรือกดติดตาม Instagram: LifeAtBitkub ไว้ได้เลย! แล้วน้อง ๆ จะไม่ลังเลเลยที่จะสมัครเข้ามาร่วมงานกับเรา แล้วสมัครกันเข้ามาเยอะ ๆ นะ พี่รออยู่ 💚
ที่มา:
Medium