บทความ

Bitcoin Future และ Bitcoin ETF

Bitcoin Future & Bitcoin ETF market

image

การลงทุน หรือทำกำไรจากตลาดหุ้นเป็นการลงทุนที่คุ้นชินกับคนไทยอยู่แล้ว แต่การลงทุนบนคริปโตเคอเรนซี่นั้น ค่อนข้างจะมีความแตกต่างจากการเล่นหุ้นปกติอยู่บ้าง ซึ่งวันนี้เราจะมาเสนอสิ่งที่มีความคล้ายคลึงกันของสองตลาดนี้ นั่นก็คึอ Bitcoin Future และ Bitcoin ETF ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
และควรใช้วิธีนี้ในการลงทุนบนตลาดคริปโตหรือไม่?

เรามาดูกันก่อนว่า Bitcoin Future คืออะไร

Bitcoin Future คือ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคา Bitcoin ในตลาดโลก สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยวางหลักประกันที่ 60% ของการทำสัญญาก็จะทำการซื้อขายได้

อธิบายให้เห็นภาพคือ การเทรดปกตินั้นคือการใช้เงินจำนวนหนึ่ง ซื้อบิทคอยน์จำนวนหนึ่ง(เช่น ใช้เงิน 300,000 เพื่อซื้อ 1 บิทคอยน์) แต่การทำ Future contract หรือการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะทำสัญญาขอซื้อ 1 บิทคอยน์ในราคา 300,000 ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

สมมุติว่า 3 เดือนถัดมา ราคา 1 บิทคอยน์ขึ้นไปถึง 350,000 ผู้ที่ทำสัญญาก็ยังซื้อ 1 บิทคอยน์ในราคาที่กำหนดไว้ตามสัญญาซื้อขายอยู่ดี หมายความว่าผู้ทำสัญญาได้ซื้อบิทคอยน์ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาด ณ ช่วงเวลานั้น (ราคาปัจจุบัน 350,000 — ราคาตามสัญญา 300,000 = กำไร 50,000) กลับกันถ้าราคาสามเดือนข้างหน้าต่ำว่าราคาตามสัญญา ผู้ทำสัญญาถือว่าขาดทุน เพราะต้องซื้อ 1 บิทคอยน์ในราคาที่สูงกว่าราคาในตลาดนั่นเอง

แล้ว Bitcoin ETF หล่ะคืออะไร?

Bitcoin ETF คือกองทุน ETF ที่อ้างอิงราคาของ Bitcoin ในตลาด สามารถซื้อขายได้ในตลาดที่ถูกควบคุมอย่างถูกกฏหมาย ซึ่งวิธีที่ Bitcoin ETF ใช้คือ
เมื่อมีคำสั่งซื้อมา ผู้ที่ขาย Bitcoin ETF จะไปซื้อ Bitcoin จริงๆจากในตลาดคริปโตอีกรอบนึง ซึ่งถ้าเป็นตลาดที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างถูกกฏหมาย จะมีความยุ่งยากต่างๆที่จำเป็นต้องทำก่อนจะซื้อ Bitcoin ETF ได้ เช่น สมัครเว็บ, ใช้ Wallet ในเว็บ เป็นต้น

ด้วยความที่หลายๆตลาดคริปโตในตลาด ยังไม่ได้รับการควบคุมอย่างถูกกฏหมาย แต่มีคนจำนวนมากเข้าไปลงทุน หากเว็บเทรดนั้นถูกแฮ็คหรือหายไป ก็ทำให้เงินที่ลงทุนมาเสียหายได้ ซึ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่จำนวนมากด้วย

แต่ถ้าลงทุนกับ Bitcoin ETF ก็จะสามารถมั่นใจในความปลอดภัยของสินทรัพย์ได้ เพราะปกติ ETF เป็นหนึ่งเครื่องมือของสถาบันการเงินใหญ่ๆ ทำให้มีการรับรองความปลอดภัย ว่าจะไม่เกิดปัญหาดังข้างต้นที่กล่าว ซึ่ง Bitcoin ETF ทำให้กลุ่มคนหลายๆกลุ่มที่ไม่กล้าเข้ามาลงทุน ได้มีโอกาสเข้ามาลงทุนได้

รวมทั้งการที่สถาบันต่าง ๆ เปิดขาย Bitcoin ETF จะทำให้นักลงทุนรายย่อยทั่วไปสามารถเข้ามาลงทุนใน Bitcoin ได้ ซึ่งแต่เดิมพวกเขาไม่มีความรู้เชิงเทคนิคด้านคริปโตทำให้ไม่กล้าเข้ามาลงทุนก่อนหน้านี้
หรือเจ้าใหญ่ ๆ เช่น Hedge Fund ต่าง ๆ ที่จะลงทุนผ่านตลาดที่ได้รับการควบคุมอย่างถูกกฎหมายเท่านั้น พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ผ่านบัญชีนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วไปได้เลย ซึ่งเว็บเทรดปกติ อาจจะมีออเดอร์ไม่เพียงพอ แต่ ETF นั้น จะมีสภาพคล่องกว่าปกติ เมื่อมีสภาพคล่อง นักลงทุนก็อยากจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น รวมทั้งราคาอาจจะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

ข้อควรระวังของ Bitcoin Future หรือ Bitcoin ETF

เราคงไม่สามารถให้ตอบชัดเจนได้ว่าคุณควรเลือกอะไร แต่อย่างน้อยเราจะอธิบายปัจจัยใหญ่ๆ ที่ควรคำนึงถึงก่อนจะลงทุนลงไป ทั้ง Bitcoin Future และ Bitcoin ETF

การเทรด futures นั้นสามารถใช้ leverage ได้(High risk high return) เช่น CME นั้นให้เรามีเงินจาก Margin(ส่วนต่าง) 35% ของที่จะเทรด หมายความว่าเราสามารถเทรด 5 BTC ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ $100,000 โดยมีเงินโชว์ในบัญชีเพียงแค่ $35,000 ได้ ซึ่งควรระวังมากๆในการใช้วิธีนี้ทำกำไร

Bitcoin futures จะเทียบกับสกุลเงิน USD ซึ่งเงินจากสถาบันการเงินใหญ่ๆหรือกองทุนต่างๆที่ควรจะไหลเข้ามาดันราคาบิทคอยน์ จะไปลงที่ Bitcoin futures แทน ซึ่งความจริงไม่มีการซื้อบิทคอยน์ในตลาดแม้แต่เหรียญเดียว เพราะมันเป็นสัญญาซื้อขายที่ทำผ่านกระดาษเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้สามารถทำร้ายตลาดคริปโตจากการที่ไม่เข้ามาซื้อเหรียญจริงๆ แต่เก็งกำไรกันผ่านสัญญาซื้อขายได้ และการที่สัญญาซื้อขายนั้นไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหรียญคริปโตจริงๆ ทำให้ Supply ไม่จำกัด ราคาของ Bitcoin Future อาจจะต่ำกว่าราคาจริงๆของ Bitcoin ก็ได้(แต่ก็ยังทำกำไรได้) และนั่นอาจจะทำให้ตลาดคริปโตจะมีผลกระทบไปทางด้านลบ และในทางจิตวิทยานั้น สามารถมีผลกับการตัดสินใจของนักลงทุนได้

ส่วน Bitcoin ETF นั้น มีนักลงทุนบางคนเชื่อว่า commodity market รวมถึงอีทีเอฟที่ใช้ commodity นั้นมีการจัดการอย่างหนักอยู่แล้ว เช่นการนำ ETF ไปที่ cryptocurrency สามารถนำการจัดการอย่างหนักไปยังเครือข่าย Bitcoin หรือ การแนะนำ ETF ของ BTC อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างมากเนื่องจากมีเข้ามาในตลาดจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

และความจริงนั้น สภาพคล่องอาจกลายเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่กับ Bitcoin ETFs หากผู้จัดการกองทุนหรือผู้ดูแลตัดสินใจที่จะ buy short ซึ่งความเสี่ยงหลักๆ จะอยู่ที่ผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ในระบบหรือการที่ผู้ถือเหรียญคริปโต ไม่จำเป็นมีความรู้มากพอในการลงทุน มันอาจจะทำความเสียหายให้กับการก้าวหน้าของอุตสาหกรรมคริปโตในบางสถานการณ์ และยังมีอีกหลายปัจจัยที่จำเป็นต้องคำนึงถึงก่อนลงทุน

ฉะนั้นหากต้องการลงทุน โปรดศึกษาและหาข้อมูล คอยติดตามข่าวสารต่างๆ จนมั่นใจว่าจะสามารถเข้าใจ หลีกเลี่ยง และแก้ไขสถานการณ์ที่อาจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในตลาดต่างๆ ของอุตสาหกรรมตริปโตเคอเรนซี่ รวมไปถึงสำหรับประเทศไทยในปัจจุบันนั้นยังไม่มีข้อกฏหมายหรือใบอนุญาตสำหรับการเทรด Future หรือ ETF

สำหรับท่านที่อยากเริ่มต้นเทรดในปัจจุบันยังมีเพียงกระดานเทรดที่เปิดให้เทรดแบบ Spot เท่านั้น ซึ่งก็หากท่านอยากมีเหรียญดิจิทัลสกุลแรกไว้ในครอบครองท่านสามารถเข้ามาเยี่ยมชมที่กระดานเทรดของเรา www.bitkub.com เพื่อเริ่มต้นเรียนรู้และเทรดเหรียญต่างๆ ได้ ทางเราเป็นกระดานเทรดอันดับ 1 ในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง พร้อมทีม Support ที่คอยบริการและให้คำแนะนำท่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขอให้ท่านโชคดีในโลกของคริปโตเคอเรนซี่ครับ

image

ที่มา:

Medium

ผู้เขียน: Minyarinn Chaotrakul | 12 ธ.ค. 64 | อ่าน: 19,683
บทความล่าสุด