บทความ
เตรียมตัวก่อน Bitcoin Cash “Hard Fork”!
ถ้าติดตามข่าวสารเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีหรือบล็อกเชนในช่วงนี้ ก็น่าจะเห็นข่าวประมาณว่า “Bitcoin Cash กำลังจะ Hard Fork” ซึ่งเป็นประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงกันค่อนข้างมากในวงการคริปโตเคอร์เรนซี สำหรับบทความนี้เราจะมาดูกันว่า Hard Fork คืออะไร และผู้ถือ Bitcoin Cash ควรเตรียมตัวกันอย่างไร
Hard Fork คืออะไร?
ภาวะ Hard Fork ว่าง่ายๆ คือการที่เครือข่ายบล็อกเชนแยกตัวออกมาเป็นอีกเครือข่ายหนึ่ง โดยมีชุดคำสั่งพื้นฐานที่เหมือนกัน อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องของฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมเข้ามาภายหลัง ซึ่งกรณีนี้มักเกิดขึ้นเมื่อชุมชนภายในเครือข่ายบล็อกเชนหนึ่งมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่ายที่แตกต่างกันจนแบ่งแยกออกไปเป็น 2 ฝั่ง
กรณีตัวอย่างคือ Bitcoin Cash นี่แหละ โดยตัว Bitcoin Cash เป็นการ Fork ออกมาจาก Bitcoin อีกทีหนึ่ง โดยมีที่มาที่ไปคือ ฝั่งหนึ่งกังวลกับปัญหา Scalability ของ Bitcoin หรือความสามารถในรองรับจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างเครือข่ายที่มีการตอบสนองที่รวดเร็วให้ตอบรับกับการทำธุรกรรมทั่วโลก ด้วยการเพิ่มขนาดบล็อกจาก 1MB เป็น 8MB
นอกจาก Hard Fork แล้ว ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า Soft Fork จุดที่แตกต่างกันคือ Soft Fork เป็นการอัพเดทเครือข่ายโดยที่ยังสามารถใช้ระบบเดิมได้ ในขณะที่ Hard Fork จะเป็นการแยกเครือข่ายออกมาเหมือนกับที่ Bitcoin ถูก Hard Fork ออกมาเป็น Bitcoin Cash นั่นเอง
ทำไม Bitcoin Cash จะ “Hard Fork”?
สถานการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2020 หลังจาก Amaury Séchet, Chief Developer ของ Bitcoin Cash เสนอให้ใช้กฏ “Coinbase Rule” ที่ทุกๆการขุดจะต้องจ่ายเหรียญให้กับเหล่าผู้พัฒนา 8% เรียกได้ว่าเป็นการ “เก็บภาษี” นั่นเอง โดยอ้างว่าจะนำงบประมาณส่วนนี้ไปพัฒนาให้ Bitcoin Cash สามารถแข่งขันกับบล็อกเชนอันดับต้นๆอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum ได้
แนวคิดดังกล่าวทำให้ชุมชน Bitcoin Cash แตกแยกออกไปเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งก็คือฝั่ง Bitcoin Cash ABC ที่สนับสนุนแนวคิดของ Amaury Séchet และอีกฝั่งเรียกว่า Bitcoin Cash Node นำโดย Roger Ver (ผู้ก่อตั้ง Bitcoin.com) ที่ไม่สนับสนุนการเก็บภาษี เนื่องจากมองว่าขัดแย้งกับหลัก Decentralization ของบล็อกเชน และมองว่างบประมาณของนักพัฒนาควรมาจากความสมัครใจของเครือข่ายมากกว่า
สถานการณ์ล่าสุด
ข้อมูลจาก coin.dance ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2020 แสดงให้เห็นว่าเครือข่าย Bitcoin Cash ในช่วง 7 วันล่าสุดมี Nodes อยู่ 81.2% ที่สนับสนุนแนวคิดของฝั่ง Bitcoin Cash Node และมีเพียง 0.3% ที่สนับสนุนฝั่ง Bitcoin Cash ABC ขณะที่อีก 18.5% ยังไม่ตัดสินใจ (ภาพด้านซ้าย)
ส่วนจำนวนบล็อกใหม่ที่เกิดขึ้นจากนักขุดของเครือข่ายก็จะเห็นได้ว่าจำนวนบล็อกใหม่ที่เกิดขึ้นจากฝั่งที่สนับสนุน Bitcoin Cash Node มีเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม สวนทางกับฝั่ง Bitcoin Cash ABC ที่มีจำนวนลดน้อยอย่างมาก (ภาพด้านขวา)
จากข้อมูลดังกล่าวจึงสามารถสรุปได้ว่า เครือข่าย Bitcoin Cash ให้การสนับสนุนฝั่ง Bitcoin Cash Node กันอย่างล้นหลาม จึงมีความเป็นไปได้ที่การ Hard Fork ครั้งนี้ อาจจะมีส่วนน้อยที่ให้การสนับสนุนบล็อกเชน Bitcoin Cash ABC
มุมมองนักวิเคราะห์และ Exchange อื่นๆ
ในบรรดา Exchange ต่างประเทศ บางรายได้ออกมาประกาศแล้วว่าจะให้การสนับสนุนเหรียญใหม่ที่จะเกิดขึ้นจากการ Hard Fork ครั้งนี้ ซึ่งได้แก่ Kraken, Huobi Global และ OKEx โดยมีข้อแม้ว่ากำลังขุดของเครือข่ายที่เกิดขึ้นใหม่ต้องมีอย่างน้อย 10% ของกำลังขุดในเครือข่ายเดิม พร้อมตั้งชื่ออย่างไม่เป็นทางการให้กับเหรียญใหม่ที่อาจเกิดขึ้นว่า Bitcoin Cash ABC หรือ BCHA
อย่างไรก็ตาม Exchange บางรายก็เลือกที่จะระงับการฝากและซื้อขายเหรียญ Bitcoin Cash ชั่วคราว เพื่อจับตาดูท่าทีของการ Hard Fork ครั้งนี้ก่อน ซึ่งได้แก่ Binance, FTX, Poloniex, BitMEX, Bitfinex, และ Coinbase เป็นต้น
สำหรับมุมมองของนักวิเคราะห์ ทาง FXStreet กล่าวว่า เมื่อดูจากประวัติศาสตร์ การ Hard Fork ของ Bitcoin Cash ออกมาเป็น Bitcoin SV เมื่อปี 2018 จะเห็นได้ว่าเป็นผลกระทบในเชิงลบต่อมูลค่าเหรียญอย่างชัดเจน ซึ่ง ณ ตอนนั้น มูลค่า Bitcoin Cash จากที่ระดับ $600 ได้ปรับร่วงลงมาที่ระดับ $74 หลังเกิด Hard Fork แม้มูลค่าจะฟื้นกลับขึ้นมาได้ประมาณ 50% หลังจากนั้นก็ตาม
สรุป
การ Hard Fork ของ Bitcoin Cash จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2020 โดยมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งภายในเครือข่ายเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนา จึงเกิดแนวคิดที่จะแยกตัวออกมาเป็นอีกเครือข่าย อย่างไรก็ตาม เครือข่ายใหม่ที่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า Bitcoin Cash ABC หรือ BCHA ดูเหมือนจะมีเสียงสนับสนุนที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ จึงอาจทำให้ BCHA ไม่ได้รับการยอมรับจากเหล่า Exchange ซึ่งจุดนี้เรายังต้องจับตากันต่อไป
สำหรับ Bitkub เราจะทำการระงับการฝากและซื้อขายเหรียญ Bitcoin Cash หรือ BCH เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2020 จนกว่าจะมีประกาศต่อไป
อ้างอิง: Cryptonews, Cointelegraph, Decrypt, Coin.dance, FXStreet
อ่านต่อ:
https://decrypt.co/47667/bitcoin-cash-hard-fork-what-you-need-to-know
https://cointelegraph.com/news/fork-in-the-node-bitcoin-cash-node-on-track-to-oust-bitcoin-abc
ที่มา:
Medium