ข่าวรายสัปดาห์ 15–21 มีนาคม: Bitcoin แตะ $86,000 หลัง Fed ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย | Stablecoin เติบโต 53% ในหนึ่งปี | รัฐนอร์ทแคโรไลนาและมินนิโซตาออกกฎหมายขยายการใช้งาน Bitcoin

🔔 ข่าวคริปโตประจำสัปดาห์ 15–21 มีนาคม 2568 มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายประการ โดย Bitcoin ได้ทำสถิติพุ่งทะลุ $86,000 หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ในขณะเดียวกัน Stablecoin แสดงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 53% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความต้องการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ รัฐนอร์ทแคโรไลนาและมินนิโซตาได้ออกกฎหมายใหม่เพื่อขยายการใช้งาน Bitcoin ในเชิงพาณิชย์และการลงทุน แสดงให้เห็นถึงการยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีที่เพิ่มขึ้นในระดับรัฐของสหรัฐอเมริกา

— — — — — — — — — —

ราคา Bitcoin แตะ $86,000 หลังจาก Fed ประกาศอัตราดอกเบี้ยคงที่ และอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงประมาณ 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ราคาของ Bitcoin ปรับขึ้น แม้จากตลาดมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) และการแถลงข่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์

โดยทั่วไป เทรดเดอร์จะติดตามการประชุม FOMC อย่างใกล้ชิด รวมถึงความเห็นของพาวเวลล์ เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกโดยตรงเกี่ยวกับมุมมองของเฟดต่อความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงแผนงานสำหรับนโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย

ในการแถลงข่าว พาวเวลล์ยืนยันว่าเฟดตั้งใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยอยู่ในช่วงเป้าหมายระหว่าง 4.25% ถึง 4.5% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่คงไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 แม้ว่าเฟดจะปรับลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและเน้นย้ำว่าการควบคุมเงินเฟ้อยังคงติดขัด แต่คำแถลงของเฟดส่วนใหญ่สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้เข้าร่วมตลาด

แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลและหุ้นต่างก็คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดนโยบายการคุมปริมาณเงิน (QT) และการประชุม FOMC ยืนยันว่าธนาคารกลางจะลด “เพดาลการถือครองพันธบัตรในงบดุลลงของกระทรวงการคลังจาก 25,000 ล้านดอลลาร์เป็น 5,000 ล้านดอลลาร์”

ที่มา : Cointelegraph

— — — — — — — — — —

Artemis และ Dune ออกรายงานระบุ จำนวนการใช้งาน Stablecoin เติบโต 53% ในหนึ่งปี แตะ 30 ล้านรายในเดือน ก.พ. 2025

รายงานร่วมระหว่าง Artemis และ Dune แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลแบบ On-chain แสดงให้เห็นว่ากระเป๋าเงิน Stablecoin ที่ใช้งานอยู่เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในหนึ่งปี

รายงานชื่อว่า “Artemis และ Dune” แสดงให้เห็นว่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่อยู่ที่ใช้งานอยู่เพิ่มขึ้นจาก 19.6 ล้านเป็น 30 ล้าน ซึ่งแสดงถึงการเพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบเป็นรายปี

แพลตฟอร์มวิเคราะห์กล่าวว่าการขยายตัวนี้ชี้ให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ที่กว้างขึ้น รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่าในปี 2024 Stablecoin ได้กลายมาเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและสกุลเงินดิจิทัล โดยกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญของการเงินดิจิทัล นอกเหนือจากการยอมรับในระดับสถาบันที่เพิ่มขึ้นแล้ว การใช้ Stablecoin ที่เพิ่มขึ้นในระบบชำระเงินและการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และการเข้าถึงที่กว้างขึ้นยังถูกอ้างถึงว่าเป็นสาเหตุบางประการที่กระตุ้นให้ที่อยู่ Stablecoin ที่ใช้งานอยู่เติบโตขึ้น

ที่มา : Cointelegraph

— — — — — — — — — —

รัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐมินนิโซตา ออกกฎหมายเพื่อขยายการใช้งาน Bitcoin ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

เมื่อไม่นานนี้ ทั้งรัฐนอร์ทแคโรไลนาและรัฐมินนิโซตาได้เสนอร่างกฎหมายที่มุ่งขยายการใช้ Bitcoin ท่ามกลางกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นในรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐฯ โดยในรัฐนอร์ทแคโรไลนา วุฒิสภาของรัฐได้ผ่านร่างกฎหมาย SB327 ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่อนุญาตให้รัฐมนตรีคลังของรัฐจัดสรรเงินสาธารณะสูงสุด 10% ให้กับ Bitcoin

ตามการอัปเดต ร่างกฎหมายได้ระบุถึงบทบัญญัติที่สำคัญสำหรับการจัดการกองทุนเหล่านี้ เช่น การจัดเก็บแบบ multi-signature cold storage สำหรับการดูแล และการตรวจสอบรายเดือนเพื่อพิสูจน์การสำรองเงิน เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและปลอดภัย นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังจำกัดการขาย Bitcoin ไว้เฉพาะในสถานการณ์ที่มี “วิกฤตทางการเงินร้ายแรง” โดยมีเงื่อนไขที่เข้มงวดสำหรับธุรกรรมดังกล่าว เพื่อปกป้องการลงทุนในขณะที่รับรองว่ารัฐจะไม่ชำระบัญชี Bitcoin ที่ถือครองก่อนกำหนด

ในขณะเดียวกัน ในรัฐมินนิโซตา วุฒิสมาชิกของรัฐ Jeremy Miller ได้เสนอร่างกฎหมาย Minnesota Bitcoin ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของเขาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งน่าสนใจมาก โดยในตอนแรก Miller แสดงความกังขาเกี่ยวกับศักยภาพของ Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้พูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและดำเนินการวิจัยเพิ่มเติม ตามคำแถลง

กฎหมายดังกล่าวยังให้ประชาชนในรัฐมินนิโซตาสามารถชำระภาษีและค่าธรรมเนียมของรัฐโดยใช้ Bitcoin ได้ โดยทำตามตัวอย่างที่รัฐอื่นๆ เช่น โคโลราโดและยูทาห์ได้กำหนดไว้ ซึ่งได้นำมาตรการที่คล้ายคลึงกันนี้มาใช้แล้ว นอกจากนี้ กำไรจาก Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของรัฐ จึงทำให้ประชาชนมีแรงจูงใจเพิ่มเติมในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้

ที่มา : Cryptopotato

— — — — — — — — — —

Farside Investors ระบุ Bitcoin ETF ฟื้นตัวท่ามกลางการพุ่งขึ้นของตลาด ด้วยกระแสเงินไหลเข้า 500 ล้านดอลลาร์

กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Spot Bitcoin ETF มีสร้างกระแสเงินไหลเข้าสุทธิมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามวันที่ผ่านมา โดยฟื้นตัวกลับมาจากที่ขาดทุนเล็กน้อยในสินทรัพย์ของกองทุนและเพิ่มขึ้นในสินทรัพย์เสี่ยงที่มากขึ้น

ตามข้อมูลจาก Farside Investors ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ของสหราชอาณาจักร ระบุว่า กองทุน ARK21Shares Bitcoin ETF (ARKB), กองทุน Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) และ iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock มีส่วนต่อการเพิ่มขึ้นเกือบทั้งหมดนี้ โดย ARKB มีรับเงินไหลเข้าสุทธิ 180 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามวัน ทั้งนี้ IBIT และ FETH สร้างกระแสเงินไหลเข้าสุทธิ 169.6 ล้านดอลลาร์และ 136.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามวันซื้อขายที่ผ่านมา

ที่มา : Decrypt

— — — — — — — — — —

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เตรียมให้ผู้ใช้ 100,000 รายเข้าถึง CBDC ในโครงการนำร่องนำการทำธุรกรรมในโลกแห่งความเป็นจริงเมษายนนี้

ธนาคารแห่งประเทศเกาหลี (BOK) กำลังเตรียมเปิดตัวโครงการนำร่องที่มีผู้เข้าร่วม 100,000 คนในช่วงต้นเดือนเมษายน เพื่อทดสอบสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ในการทำธุรกรรมในโลกแห่งความเป็นจริง

โครงการ Hangang เป็นโครงการริเริ่มระยะเวลา 3 เดือนจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน เกี่ยวข้องกับธนาคารในเกาหลีใต้ 7 แห่ง รวมถึง KB Kookmin, Shinhan, Hana, Woori, NH NongHyup, BN Busan Bank และธนาคารอุตสาหกรรมแห่งประเทศเกาหลี

ผู้เข้าร่วมจะแปลงเงินฝากจากบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมเป็นโทเคนเงินฝาก ซึ่งสามารถใช้ซื้อสินค้าประจำวันที่ร้านค้าที่เลือกผ่านแอปธนาคารที่ใช้การชำระเงินด้วยรหัส QR โทเคนที่ถือครองแต่ละรายการจะถูกจำกัดไว้ที่ 1 ล้านวอน (~$690) โดยมีมูลค่ารวม 5 ล้านวอนตลอดระยะเวลานำร่อง

ตามรายงานของ Korea Times ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 7-Eleven, Hanaro Mart, Kyobo Bookstore และ Ediya Coffee ควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Hyundai Home Shopping โครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อประเมินความสามารถในการดำเนินการของ CBDC ในการทำให้ระบบการชำระเงินและการชำระเงินในปัจจุบันง่ายขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้ด้วยการเปิดใช้การชำระเงินของผู้ค้าแบบเรียลไทม์

ขั้นตอนการทดสอบในโลกแห่งความเป็นจริงนี้สร้างขึ้นจากโครงการวิจัย CBDC ก่อนหน้านี้ของเกาหลีใต้ และถือเป็นก้าวสำคัญสู่การผนวกรวม CBDC เข้ากับกิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำวัน โครงการนำร่องนี้สอดคล้องกับความพยายามระดับโลกที่นำโดยสถาบันต่างๆ เช่น ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ซึ่งคาดการณ์ว่า CBDC จะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั้งในด้านการค้าปลีกและค้าส่งภายในปี 2030

ที่มา : CryptoSlate

— — — — — — — — — —

คำเตือน:

-คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

-สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

-ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต

— — — — — — — — — —

Weekly News (March 15–21, 2025): Bitcoin surges to $86K on Fed rate cut hints | Stablecoin users hit 30M, up 53% yearly | NC & MN propose pro-Bitcoin laws.

🔔 Weekly Crypto News: March 15–21, 2025: Several noteworthy developments have occurred in the crypto world this week. Bitcoin soared past $86,000 after the U.S. Federal Reserve (Fed) announced it would maintain current interest rates, bolstering investor confidence in the digital asset market. Meanwhile, Stablecoins demonstrated robust growth of 53% over the past year, reflecting the increasing demand for stable digital currencies. Additionally, North Carolina and Minnesota have introduced new legislation to expand Bitcoin’s use in commerce and investment, signaling rising acceptance of cryptocurrencies at the U.S. state level.

— — — — — — — — — —

Bitcoin Reaches $86,000 After Fed Announces Steady Interest Rates, Potential for Two Rate Cuts by Year-End

On March 19th, Bitcoin’s price surged despite market concerns surrounding the release of the Federal Open Market Committee’s (FOMC) meeting minutes and the press conference by Federal Reserve Chairman Jerome Powell.

Traders generally closely monitor FOMC meetings and Powell’s remarks for direct insights into the Fed’s perspective on the U.S. economic outlook, as well as their plans for monetary policy and interest rates.

During the press conference, Powell confirmed the Fed’s intention to maintain interest rates at their current level, within the target range of 4.25% to 4.5%, the same level held since December 2024. Although the Fed lowered its economic growth forecast and emphasized that controlling inflation remains challenging, the Fed’s statements largely aligned with market participants’ expectations.

However, cryptocurrency and stock investors alike anticipated that the Fed would scale back its quantitative tightening (QT) policy. The FOMC meeting confirmed that the central bank will reduce the “monthly redemption cap on Treasury securities from $25 billion to $5 billion.

Source: Cointelegraph

— — — — — — — — — —

Artemis and Dune Report: Stablecoin Usage Grows 53% in One Year, Reaching 30 Million Users in February 2025

A joint report from on-chain data analytics platforms Artemis and Dune reveals that active stablecoin wallets have increased by over 50% in one year.

The report, titled “The State of Stablecoins 2025: Supply, Adoption & Market Trends,” shows that from February 2024 to February 2025, active addresses rose from 19.6 million to 30 million, representing a 53% year-over-year increase.

The analytics platforms state that this expansion signifies wider user participation. The report further notes that in 2024, stablecoins emerged as a bridge between traditional finance and cryptocurrencies, becoming a crucial component of digital finance. In addition to increased institutional adoption, the rising use of stablecoins in payment systems and decentralized finance (DeFi), and wider accessibility, are cited as some of the reasons driving the growth in active stablecoin addresses.

Source: Cointelegraph

— — — — — — — — — —

North Carolina and Minnesota Introduce Legislation to Expand Bitcoin Usage

Recently, both North Carolina and Minnesota have proposed bills aimed at expanding the use of Bitcoin amidst its rising popularity in U.S. states. In North Carolina, the state senate has passed bill SB327, which is legislation that allows the state treasurer to allocate up to 10% of public funds to Bitcoin.

According to updates, the bill outlines key provisions for managing these funds, such as multi-signature cold storage for custody and monthly audits to prove reserves, ensuring transparency and security. Additionally, the bill restricts Bitcoin sales to situations of “severe financial crisis,” with stringent conditions for such transactions, to safeguard investments while ensuring the state does not liquidate its Bitcoin holdings prematurely.

Meanwhile, in Minnesota, State Senator Jeremy Miller has proposed the Minnesota Bitcoin bill, notably reflecting a change in his stance on cryptocurrency. Initially, Miller expressed skepticism about the potential of Bitcoin and other cryptocurrencies, a view that shifted after discussions with stakeholders and further research, according to statements.

The legislation also allows Minnesota residents to pay state taxes and fees using Bitcoin, following the example set by other states such as Colorado and Utah, which have implemented similar measures. Furthermore, profits from Bitcoin and other cryptocurrencies would be exempt from state income tax, providing additional incentives for residents to adopt digital assets.

Source: Cryptopotato

— — — — — — — — — —

Farside Investors Reports Bitcoin ETFs Rebound Amid Market Surge, with $500 Million Inflows

Spot Bitcoin Exchange-Traded Funds (ETFs) have generated net inflows of over $500 million in the past three days, recovering from slight losses in fund assets and an increase in riskier assets.

According to data from U.K.-based asset manager Farside Investors, the ARK 21Shares Bitcoin ETF (ARKB), Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC), and BlackRock’s iShares Bitcoin Trust (IBIT) accounted for nearly all of this increase. ARKB saw net inflows of $180 million over the three days. Meanwhile, IBIT and FBTC generated net inflows of $169.6 million and $136.5 million, respectively, over the past three trading days.

Source: Decrypt

— — — — — — — — — —

South Korea’s Central Bank to Give 100,000 Users Access to CBDC in Real-World Transaction Pilot This April

The Bank of Korea (BOK) is preparing to launch a pilot program with 100,000 participants in early April to test its central bank digital currency (CBDC) in real-world transactions.

The Hangang project, a three-month initiative running until the end of June, involves seven South Korean banks, including KB Kookmin, Shinhan, Hana, Woori, NH NongHyup, BN Busan Bank, and the Industrial Bank of Korea.

Participants will convert deposits from traditional bank accounts into deposit tokens, which can be used to purchase everyday goods at select stores via bank apps using QR code payments. Individual token holdings are capped at 1 million won (~$690), with a total limit of 5 million won throughout the pilot period.

According to the Korea Times, participating retailers include 7-Eleven, Hanaro Mart, Kyobo Bookstore, and Ediya Coffee, alongside online platforms like Hyundai Home Shopping. The project aims to assess the CBDC’s ability to streamline existing payment and settlement systems, potentially reducing transaction fees by enabling real-time merchant payments.

This real-world testing phase builds upon South Korea’s previous CBDC research projects and marks a significant step towards integrating CBDCs into daily economic activities. The pilot aligns with global efforts led by institutions like the Bank for International Settlements (BIS), which anticipates widespread adoption of CBDCs in both retail and wholesale applications by 2030.

Source: CryptoSlate

— — — — — — — — — —

Disclaimer:

-Cryptocurrency is highly risky; investors may lose all investment money.

-Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to own risk profile.

-Past Returns does not guarantee future returns/performance.