บทความ
มารู้จัก APY vs APR การคิดผลตอบแทนในโลกคริปโทฯ
ก่อนที่นักลงทุนจะพิจารณาเลือกคริปโทฯหรือ DeFi เพื่อการลงทุน นอกจากการดูกราฟคริปโตแล้ว การคำนวณหาผลตอบแทนเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรเรียนรู้เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าเราจะได้รับผลตอบแทนเท่าไหร่ การลงทุนโดยทั่วไปจะแสดงออกมาในรูปแบบของ APY (Annual Percentage Yield) และ APR (Annual Percentage Rate) ที่เป็นการคำนวณเปอร์เซ็นต์คร่าว ๆ ว่าจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่เมื่อฝากเงินเข้ามาครบ 1 ปี โดยวิธีนี้เหมาะกับผู้ที่สนใจการลงทุนระยะยาวที่ต้องมีการลงทุนเป็นงวด ๆ ต่อเนื่องกัน บทความนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับ APY และ APR รวมถึงความแตกต่างของการคำนวณทั้งสองแบบนี้
APY vs APR คืออะไร?
APY (Annual Percentage Yield) หมายถึง อัตราผลตอบแทนต่อปี คือการวัดดอกเบี้ยที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินในระยะเวลาหนึ่งปี โดยคำนึงถึงผลกระทบของดอกเบี้ยทบต้น หมายความว่าดอกเบี้ยที่ได้รับในงวดหนึ่งสามารถรับดอกเบี้ยในงวดอนาคตได้เอง ซึ่งนำไปสู่การเติบโตแบบทวีคูณในยอดคงเหลือ APY มักถูกใช้เพื่ออธิบายอัตราดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์ หนังสือรับรองเงินฝาก (Certificate of Depositing) และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ ที่จ่ายดอกเบี้ยโดยสูตรการคำนวน APY มีดังนี้
APY = (1 + r/n)^n — 1
ซึ่ง r คืออัตราดอกเบี้ยเป็นงวด (เช่น อัตราดอกเบี้ยรายเดือน หากคำนวณ APY เป็นรายเดือน)
n คือจำนวนครั้งที่ดอกเบี้ยทบต้นต่อปี ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบัญชีออมทรัพย์ที่มีอัตราดอกเบี้ยเป็นงวด 1% และดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือน APY จะเป็น:
APY = (1 + 0.01/12)¹² — 1
APY = 1.01¹² — 1
APY = 1.1268–1
APY = 0.1268 = 12.68%
APR (Annual Percentage Rate) หมายถึง อัตราร้อยละต่อปี คือการวัดดอกเบี้ยที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินในระยะเวลาหนึ่งปีแบบไม่เอาดอกทบต้น ไม่มีการนำมาลงทุนซ้ำ คำนวณโดยการคูณอัตราดอกเบี้ยเป็นงวดด้วยจำนวนงวดต่อปี ตัวอย่างเช่น หากบัตรเครดิตมีอัตราดอกเบี้ยเป็นงวดที่ 1% และดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือน APR จะเท่ากับ 12% โดยทั่วไปจะใช้ APR เพื่ออธิบายอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ บัตรเครดิต และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ที่คิดดอกเบี้ย โดยสูตรการคำนวน APR มีดังนี้
APR = r x n
ซึ่ง r คืออัตราดอกเบี้ยประจำงวด และ n คือจำนวนงวดต่อปี ตัวอย่างเช่น หากคุณมีบัตรเครดิตที่มีอัตราดอกเบี้ยเป็นงวด 1% และดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือน APR จะเป็น
APR = 1% x 12 = 12%
APY และ APR ต่างกันอย่างไร?
APY (อัตราผลตอบแทนต่อปี) และ APR (อัตราร้อยละต่อปี) ใช้เพื่ออธิบายดอกเบี้ยที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินในหนึ่งปีเช่นเดียวกัน แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่าง APY และ APR คือ
-ดอกเบี้ยทบต้น
APY คำนึงถึงผลกระทบของดอกเบี้ยทบต้น ในขณะที่ APR ไม่คำนึงถึงเลย ดอกเบี้ยทบต้นคือดอกเบี้ยที่ได้รับ ไม่เพียงแต่จากเงินต้นเริ่มต้นของเงินกู้หรือเงินฝากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงดอกเบี้ยสะสมของงวดก่อนหน้าด้วย ซึ่งหมายความว่าดอกเบี้ยที่ได้รับในงวดหนึ่งสามารถได้รับดอกเบี้ยในงวดต่อ ๆ ไปได้ นำไปสู่การเติบโตแบบทวีคูณในยอดคงเหลือ
-ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
ส่วนใหญ่ APR จะดึงดูดผู้ที่สนใจกู้ และ APY จะดึงดูดคนที่สนใจจะลงทุนสืบเนื่องมาจากความแตกต่างของ APY และ APR จะอยู่ที่การคำนวณโดยนำผลตอบแทนที่จะได้รับภายในช่วงหนึ่งปีเข้ามาทบกับเงินต้นไปเรื่อย ๆ โดยขณะที่ APR คำนวณโดยใช้แค่เงินต้น จึงทำให้ APY มีตัวเลขที่สูงกว่า APR
APY และ APR กับการลงทุนคริปโทฯ
เป็นที่น่าสังเกตว่า APY และ APR มักจะใช้เพื่ออธิบายผลตอบแทนของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ค่อนข้างคงที่ เช่น บัญชีเงินฝากออมทรัพย์และเงินกู้ยืม โดยที่ยอดเงินต้นและอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ แต่ก็เป็นไปได้ที่จะใช้ APY เพื่ออธิบายผลตอบแทนจากการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล เพราะมีการรวมดอกเบี้ยทบต้นด้วย APY จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการเอามาคำนวณ
ในการคำนวณ APY สำหรับการ Stake เหรียญ ETH ก่อนอื่นคุณจะต้องทราบข้อมูลต่อไปนี้
-ยอดเงินเริ่มต้นของ Ethereum ของคุณ
-รางวัลการเดิมพัน (Stake) ที่คุณได้รับตลอดทั้งปี
-ความถี่ในการจ่ายรางวัลการเดิมพัน เช่นแบบรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน) จำนวนครั้งต่อปีที่มีการทบเงินรางวัลการเดิมพัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณมี 1 ETH ที่คุณ Stake เป็นเวลาหนึ่งปี และคุณได้รับรางวัลรวม 6% จากการ Stake ตลอดทั้งปี ด้วยข้อมูลนี้คุณสามารถใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณ APY ได้โดยแทนค่าลงไปในสมการ
APY = (1 + 0.06/12)¹² — 1
APY = 1.005¹² — 1
APY = 1.0617–1
APY = 0.0617 = 6.17%
ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น และผลตอบแทนจริงจากการ Stake เหรียญ ETH อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงจำนวน ETH ที่ Stake ไว้ ระยะเวลาของการเดิมพัน และประสิทธิภาพโดยรวมของเครือข่าย Ethereum และสิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีความผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูงหรือไม่ อย่าลืมว่ามูลค่าของการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลสามารถผันผวนได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเวลาผ่านไป และไม่มีการรับประกันผลตอบแทนที่เป็นบวก เช่นเดียวกับการลงทุนอื่น ๆ จึงต้องพิจารณาความเสี่ยงอย่างรอบคอบและหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ
ปัจจุบันเริ่มมีแพลตฟอร์มที่ให้บริการทางเงินในรูปแบบ DeFi ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนนำเอา APY และ APR ไปปรับใช้ ทำให้นักลงทุนเห็นว่าพวกเขาจะได้รับดอกเบี้ยเท่าใด ช่วยในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น แต่ต้องระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้ให้บริการที่ใช้เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนสูงในการชักชวนให้ลงทุน อีกทั้งในช่วงสภาวะตลาดหมี ก็ไม่ควรพิจารณาแค่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่ควรศึกษาข้อมูลด้านอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย ทั้งความน่าเชื่อถือของ DeFi เอง และโอกาสเติบโตของการบริการรูปแบบนี้ในอนาคตด้วย
อ้างอิง: Bitkub Blog, Bankrate, thewannabeinvestor, Blockdit
____________________________________
คำเตือน:
-คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง คุณอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได
-สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
-ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
-ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใด ๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เนื้อหาข้างต้นเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มของราคาโดยใช้ข้อมูลในอดีตและเครื่องมือวิเคราะห์ อาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
____________________________________
ติดตามบทความ ข่าวสาร และความรู้ที่น่าสนใจเรื่อง บิตคอยน์ (Bitcoin), Cryptocurrency และความรู้อีกมากมายในวงการคริปโตได้ที่ Bitkub Blog
บทความน่าสนใจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
-หุ้น vs. คริปโต แตกต่างกันอย่างไร?
-ผลตอบแทนและความเสี่ยงของคริปโตเคอเรนซี
-ผลตอบแทนและความเสี่ยงของ DeFi
ที่มา:
Medium