บทความ

Metaverse คืออะไร? มีเทคโนโลยีอะไรที่ต้องรู้จัก?

What is Metaverse? and Technologies behind it?

image

ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า Metaverse กันอยู่แล้ว แล้วสงสัยกันหรือไม่ว่า Metaverse คืออะไร มีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องบ้าง ดังนั้นเราจะมาหาคำตอบกันด้วยกันในบทความนี้!

Metaverse คืออะไร?

แต่เดิม การสื่อสารกับครอบครัวที่อยู่ห่างไกลเราสามารถทำได้ผ่านตัวหนังสือ รูปภาพ หรือวีดีโอเท่านั้น เราไม่สามารถแสดงอารมณ์หรือภาษากายได้อย่างเต็มที่เหมือนการอยู่ด้วยกัน แต่ Metaverse จะเข้ามายกระดับการสื่อสารกับผู้คนที่อยู่ห่างไกลขึ้ ทำให้เหมือนกับว่าเราได้เข้าไปอยู่ในสถานที่จริง ๆ ร่วมกับคนอื่นไม่ว่าตัวจะอยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม

image

Metaverse ตามวิสัยทัศน์ของ Meta (เดิม Facebook) คือโลกดิจิทัลที่ผู้ใช้สามารถสื่อสาร ทำกิจกรรม หรือทำงานร่วมกับผู้ใช้คนอื่นได้อย่างเหนือชั้นกว่าโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน โดยจะนำเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual reality (VR) เข้ามายกระดับการรับชมและมีส่วนร่วมกับโลกดิจิทัล

นอกจากนี้ Metaverse จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชน คริปโทเคอร์เรนซี และ NFT (Non-fungible token) เข้ามาใช้เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการผ่าน Metaverse ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องผ่านตัวกลาง

ด้วยแนวคิดดังกล่าว โลกของ Metaverse จะเกิดสื่อและคอนเทนต์รูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา เหล่าศิลปินสามารถสร้างผลงานรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านเทคโนโลยี AR หรือ VR ไม่ว่าจะเป็นผลงานศิลปะแบบ 3 มิติ เครื่องแต่งกายสำหรับอวตารของผู้ใช้บน Metaverse เป็นต้น หรือจะขายผลงานโดยใช้เทคโนโลยี Cryptocurrency และ NFT ก็ได้เช่นกัน

หาก Metaverse ประสบความสำเร็จก็จะทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 3D Artist, Content Creator, Developer และอีกมากมายที่จะเข้ามาช่วยสร้างโลกของ Metaverse ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

เทคโนโลยี Augmented Reality และ Virtual reality

image

เทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างนี้ เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นสำหรับ Metaverse โดยอย่างแรกคือ Augmented Reality (AR) ซึ่งเป็นการเสริมโลกแห่งความจริงด้วยสื่อดิจิทัล ยกตัวอย่าง คุณกำลังอยู่ในห้องประชุมที่โล่ง ๆ ไม่มีใครอยู่เลย แต่เมื่อคุณสวมแว่นตา AR คุณสามารถมองเห็นคนอื่นอยู่ในที่ประชุมได้ด้วย ซึ่งพวกเขาเป็นภาพโฮโลแกรมที่ฉายผ่านแว่นตา AR แต่ตัวจริงอาจออนไลน์มาจากที่อื่น คุณจึงสามารถสื่อสารพร้อม ๆ กับเห็นสีหน้าท่าทางของพวกเขาไปด้วยราวกับว่าอยู่ด้วยกันในห้องประชุมจริง

ส่วนเทคโนโลยี Virtual reality (VR) คือการที่ผู้ใช้เข้าไปอยู่ในโลกดิจิทัล เห็นทุกอย่างเป็นดิจิทัล และปกปิดการรับรู้จากโลกแห่งความจริงเกือบทั้งหมด แตกต่างกับ AR ที่เป็นการเสริมสิ่งที่มีอยู่ในโลกจริงด้วยสื่อดิจิทัลอีกขั้น

ปัจจุบัน เราสามารถพบเห็นเทคโนโลยี AR และ VR อยู่ในสื่อบันเทิงอย่างวีดีโอเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ในอนาคตเราสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กับการทำงาน หรือสื่อบันเทิงรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการชมการแข่งขันฟุตบอลด้วย VR ทำให้เหมือนกับว่าเราเข้าไปเกาะขอบสนามด้วยจริง ๆ แม้ตัวจะอยู่บ้านก็ตาม ซึ่งจะทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ที่เกี่ยวกับการสร้างสื่อบันเทิงบนเทคโนโลยี AR และ VR โดยเฉพาะขึ้นมาอีกมากมาย

ระบบเศรษฐกิจของ Metaverse

image

เทคโนโลยี VR และ AR ที่กล่าวมาข้างต้นเปรียบเสมือนกับเบื้องหน้าของ Metaverse ที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของ Metaverse ก็คือระบบเศรษฐกิจที่มีอีกหลายเทคโนโลยีคอยสนับสนุนอยู่ ได้แก่ คริปโทเคอร์เรนซี บล็อกเชน และ NFT

ตามวิสัยทัศน์ของ Meta คริปโทเคอร์เรนซี และบล็อกเชน จะทำให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ต่าง ๆ ทั้งแบบกายภาพและแบบดิจิทัลได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง ทำให้การซื้อขายแลกเปลี่ยนเกิดได้แบบไร้พรมแดนและโปร่งใส ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่สุดของคริปโทเคอร์เรนซีกับบล็อกเชน

นอกจากคริปโทเคอร์เรนซีแล้ว NFT ก็สามารถใช้เพื่อแทนสินทรัพย์ที่มีลักษณะเฉพาะ เช่นผลงานศิลปะ ดนตรี ที่ดิน รวมถึงเครื่องแต่งกายแบบพิเศษ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถซื้อขายสิทธิ์ความเป็นเจ้าของกันได้อย่างอิสระในโลกของ Metaverse อีกเช่นกัน

การใช้เทคโนโลยีทั้ง 3 อย่างนี้ร่วมกัน จะทำให้เหล่า Content Creator สามารถสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นบน Metaverse เพื่อขายให้กับผู้ที่สนใจได้อย่างสะดวกรวดเร็ว จึงสามารถสร้างรายได้และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ Metaverse ได้นั่นเอง

สรุป

Metaverse คือแนวคิดในการยกระดับการสื่อสารกับผู้คนผ่านสื่อโซเชียล จากเดิมที่ทำได้แค่ผ่านตัวอักษร รูปภาพ และวิดีโอ แต่ Metaverse จะทำให้ราวกับว่าผู้ใช้ได้เข้าไปอยู่ในสถานที่เดียวกับผู้คนจริง ๆ แม้ตัวจะห่างกันแค่ไหนก็ตาม โดยใช้เทคโนโลยี VR และ AR

ขณะที่ระบบเศรษฐกิจเบื้องหลังของ Metaverse ก็จะมีเทคโนโลยี Cryptocurrency, Blockchain และ NFT ทำงานอยู่เบื้องหลัง ทำให้เหล่า Content Creator สามารถสร้างสรรค์ผลงานและวางขายบน Metaverse สร้างรายได้และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงสนับสนุนให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้นบน Metaverse นั่นเอง

อ้างอิง Meta’s Connect 2021 Investopedia, Reuters, Bloomberg Wealth

เปิดบัญชีและเริ่มลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีกับ Bitkub Exchange เลย: https://www.bitkub.com/signup

*การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน*

ผู้เขียน: Waranyu Suknantee | 30 เม.ย. 65 | อ่าน: 10568
บทความล่าสุด