บทความ
Passive Incomeในโลกของคริปโตเคอเรนซี่
passive income with cryptocurrency
ก่อนอื่นต้องไปดูกันก่อนว่า Passive income ที่เคยได้ยินมาน่ะ มันคืออะไรกันแน่?
หลักๆ แล้ว Passive income หมายถึง รายได้ที่เกิดจากงานอะไรก็ตามที่เราไม่จำเป็นต้อง “เอาเวลาไปแลกมา” ซึ่งแน่นอนก่อนที่จะมาเป็นรายได้ที่ไม่ต้องใช้เวลาในการทำงานมากนัก แต่ก่อนที่จะสร้างรายได้เป็นระบบแบบนี้ได้นั้นต้องผ่านการวางแผน-จัดทำระบบ และ/หรือ ลงทุนลงแรกรอบแรกๆ ไปเสียก่อน
ยกตัวอย่างเช่น รายได้จากคอนโดปล่อยเช่า, รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ , รายได้จากการขายคอร์สวีดีโอออนไลน์ เป็นต้น ซึ่งรายได้เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าหลังจากเราสร้างมันขึ้นมาแล้วเราจะไม่ต้องทำงานตลอดไป (แน่นอน อย่างปล่อยห้องให้เช่าก็ต้องมีการเช็คความสมบูรณ์ของห้องหลังจากผู้เช่าย้ายออก-คอยเปลี่ยนซ่อมของใช้ที่เสียในห้อง)
แต่มันหมายถึง “งานที่ใช้เวลาในการทำงานน้อยมาก แต่ยังคงได้รับรายได้สม่ำเสมอนั่นเอง” โดยมากแล้วคนที่จะสามารถสร้าง Passive income ได้นั้น “ต้องมีต้นทุนประมาณหนึ่ง”
ทีนี้เรามามองกันถึงโลกของ Cryptocurrency กันบ้าง สำหรับใครที่กำลังชั่งใจว่าควรลงทุนลงแรงไปกับขุมทรัพย์ออนไลน์นี้หรือไม่? เทรดไม่เป็นแต่อยากซื้อไว้สักหน่อยจะดีมั้ย? แค่ถือไว้จะสามารถสร้างกำไรได้เป็นชิ้นเป็นไหม? วันนี้เราจะมาแชร์ข้อมูลการสร้าง Passive income ที่น่าสนใจช่องทางต่างๆ ในโลกของสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้กันว่ามีอะไรบ้าง
อย่างที่เราทราบกันดี การขุดหรือการทำเหมืองในโลกของ Cryptocurrency นั้นเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนในการยืนยันธุรกรรมในยุคแรกเริ่มที่มีความสำคัญมาก (และระบบส่วนใหญ่ของคริปโตในปัจจุบันก็ยังคงใช้การยืนยันธุรกรรมแบบนี้) อย่างเหรียญเจ้าดังที่ผู้คนยอมรับและนิยมขุดทั่วโลกอย่าง BTC ก็มีรูปแบบการยืนยันธุรกรรมแบบ Proof of work หรือการขุดด้วยเครื่อง asic miner เช่นกัน
การ mining เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับเรื่องความปลอดภัยของระบบเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากต้นทุนกาขุดนั้นต้องมีการลงทุนในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย (กำลังขุด, สายไฟ, ค่าไฟ ฯลฯ) แถมราคาต้นทุนในการลงทุนกับอุปกรย์เหล่านี้ค่อนข้างสูง ยิ่งใครอยากได้ส่วนแบ่ง Block reward เยอะๆ ก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องขุดไปเพื่อให้สู้เจ้าอื่นได้หรือรวมกับ Mining pool ของคนอื่น
สิ่งนี้ส่งผลให้มี Node ในการตรวจสอบธุรกรรมของ BTC มีค่อนข้างเยอะแถมยังกระจายตัวไปอยู่ทั่วโลก ซึ่งหากจะว่ากันตามตรง BTC เป็นหนึ่งในเหรียญที่ผู้คนให้ชื่อว่า
“เป็นเหรียญที่มีความไร้ตัวกลางสูงที่สุดในตระกูลคริปโตแล้ว”
ยิ่งถ้าหากผู้ตรวจสอบธุรกรรมมีจำนวนมากและกระจายตัวไปมากเท่าไหร่ นั่นหมายถึงความปลอดภัยของระบบที่สูงมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย แถมถ้าเซ็ตระบบอะไรดีอยู่แล้วแต่แรก ที่เหลือก็แค่ต้องมาคอยเช็คความเสถียรของการขุดบ้าง และแน่นอน! การลงทุนแบบนี้ ต้องมีการลงทุนตัวเครื่อง — บำรุงดูแลรักษา — การเซ็ต algorithm ให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งต้นทุนค่อนข้างสูงพอดู แต่หากแลกกับค่าตอบแทนเป็นเหรียญที่ได้จากการขุดที่สูงลิ่วการลงทุนแบบนี้ก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว (ต้องคอยเช็คราคาเหรียญด้วยนะถ้าช่วงไหนราคาเหรียญตกมากๆ ไม่คุ้มค่าไฟก็ต้องพิจารณาดีๆ ว่าจะลุยต่อหรือถอดปลั๊กก่อน)
หากท่านสนใจเป็นส่วนหนึ่งของแรงงาน PoW และไม่รู้จะเริ่มจากเหรียญไหนดี สามารถเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดของเหรียญต่างๆ ที่มีการยืนยันธุรกรรมแบบ PoW ได้ที่ https://cryptoslate.com/cryptos/proof-of-work/
Staking คืออะไร
Staking คือ รูปแบบการตรวจสอบธุรกรรมรูปแบบหนึ่งในโลกของ Cryptocurrency เรียกง่ายๆ ว่าคือ “วิธีการตรวจสอบธุรกรรมโดยการวางเงินค้ำประกัน”
วิธีการคือ ขั้นแรกท่านต้องมีเหรียญหรือโทเค็นที่มีรูปแบบการตรวจสอบธุรกรรมแบบ Proof of Stake (หรือ Hybrid PoW & PoS ก็ได้) โดยการนำเหรียญของตัวเองไปต่อยอดโดยการทำ PoS นั้นสามารถเลือกทำได้หลายวิธีการ อาทิ เลือกฝากเหรียญใน Wallet หรือ Exchange ที่รองรับการ Stake, เข้าร่วม Pool ที่ทำ node , การสร้าง Node ด้วยเหรียญของตัวเอง
วิธีนี้สายขุดเองก็เริ่มให้ความสนใจวิธีการขุดแบบ Staking มากขึ้น ด้วยความที่ไม่ต้องลงทุนจำนวนมหาศาลไปกับทรัพยากรเครื่องการขุด แต่สามารถใช้วิธีการซื้อเหรียญตามจำนวนมา Stake ไว้ วิธีนี้มองว่าหากวันหนึ่งเลิกขุดไป ก็ยังสามารถเอาเหรียญหรือทรัพยากรส่วนนี้ไปขายในตลาดได้ โดยที่ราคาอาจไม่เสื่อมหรือตกลงฮวบเหมือนเครื่องขุดแบบ Rig นั่นเอง
(สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำกำไรจากการ Staking ได้ที่ https://medium.com/bitkub/staking-and-cryptocurrency-c762ff8daf5d)
นอกจากนี้ใครที่เป็นสาย HODL หรือสายถือไว้เฉยๆ นอกจากการถือเหรียญที่ดูมีอนาคตสดใสและดูอัตราการเติบโตค่อนข้างดีเพื่อเพิ่มมูลค่าพอร์ตในระยะยาวแล้ว นอกจากนี้ยังมีเหรียญที่เพียงแค่ถือไว้ใน Wallet หรือ Exchange ที่กำหนดไว้ครบเงื่อนไขก็จะได้ค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยเป็นผลตัวแทน เช่น
Gas จาก Neo , Kucoin Shared (เหรียญประจำเว็บเทรด Kucoin) เป็นต้น
นอกจากนี้ท่านผู้อ่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญประจำกระดานเทรดต่างๆ ได้ที่ https://cryptoslate.com/cryptos/exchange
ในโลกของ Cryptocurrency เองก็มีการปล่อยกู้เช่นเดียวกัน โดยรายใหญ่ที่เพิ่งมีการประกาศให้บริการด้านนี้ล่าสุดคือกระดานเทรดของต่างประเทศนั่นเอง
ตัวอย่างอัตราค่าตอบแทนและยอดที่เปิดให้ฝากรายวันนั้นถือว่าน่าสนใจเลยทีเดีย แถมขั้นตอนในการสร้างรายได้จากการนำเหรียญไปฝากเข้าโครงการก็ค่อนข้างง่ายดาย
เพียงแค่นักลงทุนต้องตรวจเช็คว่ามีเหรียญอะไรบ้างที่เปิดให้ฝากเข้าได้ ณ ขนาดนั้น พร้อมเรทอัตราดอกเบี้ยที่จะได้
จากนั้นนำเหรียญชนิดนั้นๆ ที่ได้เก็บไว้ใน Wallet account ของต่างประ ฝากเข้าในระบบโดยการกด subscribe
รอรับผลตอบแทน
เพียงเท่านี้การปล่อยให้กู้ยืมเงินบนตปท. ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น วิธีนี้เหมาะกับการสร้างกำไรสำหรับสาย HODL หรือแม้แต่คนที่ติดอยู่บนยอดดอยและไม่อยากโดดก็สามารถนำเหรียญไปฝากเอาดอกเบี้ยแทนที่จะ cut loss แล้วโดดหนี ได้เช่นกัน
*** ปัจจุบันในประเทศไทยระบบ Crypto Lending นั้นยังไม่ได้รับการรับรองว่าถูกกฏหมายหรือสามารถทำได้แต่อย่างใด
** การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้ง่ายๆ จากค่าแนะนำได้ในระยะยาว เพียงลงทุนลงแรงในช่วงแรกๆ เล็กน้อยเท่านั้น รูปแบบคล้ายๆ กับเวลาเราสมัครสมาชิกและซื้อสินค้าทางร้านค้าออนไลน์แห่งหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วร้านค้าออนไลน์เหล่านี้มักจะมีรหัส Affiliate มาให้
โดยหากผู้ใช้ได้ทำการรีวิวหรือส่งลิงก์นั้นให้กับผู้ใช้ใหม่ให้มากดซื้อสินค้าจากทางลิงก์ของตนเอง หรือสมัครสมาชิกเว็บไซต์ต่อจากลิงก์แนะนำของตน ผู้ใช้ก็จะได้คะแนนสะสมหรือเงินค่าแนะนำบางส่วนหลังจากที่สมาชิกใหม่ได้สมัครสมาชิกและเริ่มต้นซื้อสินค้าแล้วนั่นเอง
ในโลกของ Cryptocurrency เองก็มีระบบแบบนี้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นทางกระดานเทรด ทำการสมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนสำเร็จอย่างน้อยขั้นตอนที่ 1” จะสามารถนำลิ้งแนะนำของตนเองไปเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจมาสมัครสมาชิกกับทางกระดานเทรดจากลิงก์แนะนำของตนได้
โดยเจ้าของลิ้ง
ซึ่งการได้รับค่าธรรมเนียมตรงส่วนนี้ทางผู้ที่มาสมัครต่อจะไม่ได้เสียค่าธรรมเนียมมากขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการหักค่าแนะนำจากส่วนของ “ค่าธรรมเนียมในการเทรด” ที่ทางเว็บไซต์ได้ทำการเก็บอยู่แล้วเป็นปกตินั่นเอง สมัครสมาชิกได้ที่ bitkub.com
หากเป็นมุมมองการทำธุรกรรมของโลกโดยทั่วไป การสร้างรายได้จากการแชร์ทรัพยากรต่างๆ นั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ เช่น ร้านให้เช่าชุด รถ ที่ดินทำกินต่างๆ รวมไปถึงอาคารบ้านช่อง ฯลฯ แต่ในโลกของ Cryptocurrency นั้นหลายๆ ท่านอาจเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าจะให้เช่าอะไรได้ด้วยเหรอ? ซึ่งแน่นอนว่าได้อยู่แล้ว
โดยหลักๆ สิ่งที่มีการปล่อยให้เช่าในโลกของคริปโตนั้นจะเป็น “การให้เช่ากำลังขุด” หรือพวก Cloud mining ต่างๆ ซึ่งตัวอย่างการให้เช่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่ชัดเจนมากและเราๆ ท่านๆ หากศึกษาข้อมูลในวงการนี้มาสักพักต้องเคยคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้าง ซึ่งบริษัทหรือแหล่งทรัพยากรที่มีการปล่อยให้เช่ากำลังขุดเจ้าดังๆ นั้นได้แก่ Bitmain,Nicehash, Genesis, CloudyMining เป็นต้น
หรือแม้แต่โปรเจค Cryptocurrency ที่มีแนวคิดหลักในการพัฒนาวงการ AI ของโลก ที่มักติดกับปัญหา “ต้นทุน” ในการฝึกปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้งานได้จริง โดยโปรเจคได้มีวัตถุประสงค์หลักที่จะพัฒนาวงการอุตสาหกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ โดยตัวโปรเจคเองจะมีการขายเครื่องขุดหรือเครื่องประมวลผล ที่ทางผู้ใช้สามารถนำกำลังขุดของเครื่องนี้ไปเป็นทรัพยากรประมวลผลให้กับโปรเจคพัฒนา AI ต่างๆ ได้ โดยคนที่แชร์กำลังขุดจะได้รับค่าตอบแทนกลับมาเป็น Token DBC อีกด้วย
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://dbc.team/
เนื่องด้วยตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้นยังถือว่าเป็นตลาดการลงทุนที่ค่อนข้างใหม่มาก แถมเมื่อเปรียบเทียบอัตราส่วนค่าตอบแทนในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเทียบกับการลงทุนอื่นๆ แล้ว ตลาดสกุลเงินดิจิทัลนั้นถือว่าให้ผลตอบแทนและกำไรในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูงอย่างยิ่ง (และแน่นอน ความเสี่ยงเองก็มากเช่นกัน)
สิ่งนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้คนหน้าใหม่ต่างให้ความสนใจโอกาสในการลงทุนแห่งทศวรรษนี้ และพยายามก้าวเข้ามาในตลาด แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโปรเจค Scam หรือธุรกิจเครือข่ายหลอกลวงจำนวนมากต่างก็อาศัยโอกาศนี้ตีเนียนเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในตลาดเช่นกัน ดังนั้นการที่มีภูมิคุ้มกันหรือมีความรู้ความเข้าใจก่อนเริ่มลงทุนในโปรเจคสักตัวล้วนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการนี้มาสักพักใหญ่และมีความรู้ความเข้าใจ รวมไปถึงประสบการณ์ในการลงทุนในระดับหนึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง ทุกวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้ที่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญใน Cryptocurrency จริงๆ นั้นมีน้อยมาก ดังนั้นการจัดคอร์สให้ความรู้หรือการทำสื่อการสอนที่เน้นให้ความเข้าใจหน้าใหม่ในวงการถือเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย
ปัจจุบันมีเว็บไซต์สื่อการสอนออนไลน์มากมายที่คุณสามารถนำคลิปวีดีโอหรือสื่อการสอนของคุณไปวางขายได้ (ถ้าหากผ่านการตรวจสอบจากทางเว็บแล้ว) การสร้างคอนเท้นเหล่านี้ครั้งแรกต้องใช้ทั้งต้นทุนในการทำข้อมูล จัดทำเนื้อหาและเวลามหาศาล แต่หากสามารถวางขายได้นั่นก็หมายถึงรายได้ที่จะเข้ากระเป๋าคุณอีกในระยะยาวโดยที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรต่อ
ตัวอย่างคอร์สออนไลน์เกี่ยวกับ Cryptocurrency โดยคุณท็อป จิรายุส CEO กลุ่ม Bitkub.com https://www.skilllane.com/courses/future-money-banking
นอกจากนี้หากท่านใดกำลังมองหาสกุลเงินดิจิทัลเหรียญแรกมาไว้ในครอบครอง ท่านสามารถเริ่มต้นทดลองเทรดได้ที่กระดานเทรด Bitkub.com ของเรา ซึ่งกระดานเทรดของเรานั้นได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง พร้อมทีมงาน support มืออาชีพที่พร้อมให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมงครับ