เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มีการใช้งานคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับคุณรายละเอียดเพิ่มเติม
ตลาดซื้อขาย
ชวนเพื่อน
รีวอร์ด
ข่าวสาร
ช่วยเหลือ
ดาวน์โหลดแอปฯ
เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงมักจะเป็น Bitcoin แต่แท้จริงแล้วมีอีกสกุลหนึ่งที่ได้รับความสนใจไม่น้อยในวงการคริปโทเคอร์เรนซี นั่นคือ Ethereum นั่นเอง
Ethereum คืออะไร?
Ethereum ก็คือแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่มี Blockchain เป็นเทคโนโลยีเบื้องหลัง และมีเหรียญ Ether (ETH) เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม
Ethereum ถูกสร้างขึ้นโดยนาย Vitalik Buterin ในเดือนกรกฎาคมปี 2015 จุดเด่นของ Ethereum ก็คือ สามารถประยุกต์ใช้ Smart Contact ในการทำธุรกรรมได้กว้างมาก โดย Smart Contract ก็คือชุดคำสั่งทางคอมพิวเตอร์ หรือ “โปรแกรม” ที่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองเมื่อครบเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้
การมาของ Ethereum เป็นการปลดล็อคขีดจำกัดของ Blockchain ให้สามารถทำธุรกรรมแบบกระจายศูนย์หรือไม่ผ่านตัวกลางในรูปแบบอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็น การกู้ยืม, การระดมทุน (ICO), ไปจนถึงการสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Application)
Ethereum ต่างกับ Bitcoin อย่างไร?
ถึงแม้ Ethereum และ Bitcoin จะถูกเรียกว่าสกุลเงินดิจิทัลทั้งคู่ แต่จุดประสงค์ที่สกุลเงินเหล่านี้เกิดขึ้นมานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
Bitcoin เกิดขึ้นมาเป็นตัวกลางสำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าบนโลกอินเทอร์เน็ต โดยใช้ Blockchain ในการบันทึกธุรกรรม ทำให้เครือข่าย Bitcoin มีความปลอดภัยและโปร่งใส ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล”
ในขณะที่ Ethereum เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มให้เหล่านักพัฒนาสามารถเข้ามาเขียน Application โดยมี Ether (ETH) เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมระหว่าง Application เหล่านี้
ความสำคัญของ Ethereum
Ethereum เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการเทคโนโลยีด้วย Decentralized Application (dApp) ซึ่งแตกต่างกับ Application ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, หรือ Line ที่เป็น Centralized Application
สิ่งที่ dApp นำมาคือเรื่องของความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ กล่าวคือ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบชุดคำสั่งที่อยู่บน dApp ได้ และหากผู้ใช้มีความเข้าใจในภาษาคอมพิวเตอร์ก็จะสามารถเข้าใจได้ว่า dApp นั้นแท้จริงแล้วมีกลไกการทำงานอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องของการเงินที่ต้องการความปลอดภัยและความโปร่งใสสูง ซึ่งการเงินแบบกระจายศูนย์จะถูกเรียกว่า Decentralized Finance (DeFi)
อีกปัจจัยหนึ่งคือ เนื่องจาก Blockchain คือเทคโนโลยีที่มีการกระจาย Node ประมวลผลออกไปทั้งเครือข่าย จึงไม่ต้องกังวลว่าผู้ให้บริการ Application นั้นๆจะประสบปัญหาต้องปิดตัวลง ทำให้ข้อมูลของผู้ใช้ที่อยู่บน Aplication นั้นๆสูญหายไป
นอกจากนี้ ยังมีคอนเซ็ปท์ของ DAO หรือ Decentralized Autonomous Organizations ซึ่งก็คือองค์กรแบบกระจายศูนย์ที่สามารถดำเนินกิจการและเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการซื้อ-ขาย การเจรจา การว่าจ้าง การตรวจสอบทรัพย์สิน ทั้งหมดนี้สามารถดำเนินการได้โดยอัตโนมัติ และลดความผิดพลาดที่มาจากมนุษย์ (Human Error) ลงไป เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับ dApp ขึ้นไปอีกขั้นนั่นเอง
มูลค่าของ Ethereum มาจากไหน?
ภายในเครือข่าย Ethereum มีสกุลเงินที่เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมต่างๆบนเครือข่าย เรียกว่า Ether (ETH) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีปริมาณอุปทาน (Supply) ไม่จำกัด เดิมทีมูลค่าของ Ether มาจากปัจจัยดังต่อไปนี้
1.ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมผ่าน dApp (เรียกว่า Gas fee)
2.ใช้ค้ำประกันสำหรับการเขียน dApp
3.ใช้เป็นสื่อกลางสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าหรือโทเคน
4.ใช้ล็อก (Stake) เหรียญบนเครือข่ายเพื่อทำหน้าที่โหนดผู้ตรวจสอบ (Validator node)
จะเห็นได้ว่าหลักมูลค่าของ Ether จะเกิดขึ้นจากความต้องการใช้งาน dApp นี่เอง แต่ต่อมาเมื่อเครือข่าย Ethereum เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงมีปัจจัยอย่างการเก็งกำไรเข้ามาส่งผลกระทบต่อมูลค่าของ Ether ด้วยเช่นกัน
Ethereum 2.0
ความท้าทายที่ Ethereum กำลังเผชิญคือเรื่องของ Scalability หรือความสามารถในการรองรับจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากบนเครือข่ายนั่นเอง เนื่องจาก Ethereum ใช้ระบบ Proof-of-work มีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วและการใช้พลังงานที่สูงมาก ผู้พัฒนาจึงเกิดแนวคิดจะพัฒนาตัวเครือข่ายให้สามารถลบจุดอ่อนข้อนี้ไปให้ได้ จึงเกิดเป็น Ethereum 2.0
การมาของ Ethereum 2.0 จะเปลี่ยนระบบจาก Proof-of-work ไปเป็น Proof-of-Stake ทำให้ผู้ที่ต้องการยืนยันธุรกรรมบนเครือข่าย (Validator) ต้องทำการฝากเหรียญ Ether ขั้นต่ำ 32 เหรียญเข้าไปล็อคอยู่ในเครือข่าย เพื่อรับสิทธิ์เป็นผู้ยืนยันธุรกรรมและรับรางวัลจากการยืนยันธุรกรรม คล้ายกับการแข่งกันแก้สมการในระบบ Proof-of-work แต่กินพลังงานน้อยกว่าและเร็วกว่ามาก
ล่าสุด Ethereum ได้มีการเปลี่ยนไปใช้ระบบฉันมามติแบบ Proof-of-Stake โดยสมบูรณ์แล้วหลังจากการอัปเดต The Merge เมื่อประมาณเดือนกันยายน ปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการอัปเดตใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของ Ethereum เลยทีเดียว
สรุป
Ethereum นับได้ว่าเป็นอีกเครือข่ายที่น่าจับตาพอๆกับ Bitcoin แม้จะถูกเรียกว่าสกุลเงินดิจิทัลทั้งคู่ แต่ Ethereum เกิดขึ้นมาเพื่อให้เหล่านักพัฒนาสามารถเข้ามาสร้างสรรค์ Application ต่างๆที่ให้ทั้งความปลอดภัยและโปร่งใส เรียกว่า Decentralized Application (dApp) ต่างกับ Bitcoin ที่เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนบนโลกอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ
อ้างอิง: Ethereum, Cointelegraph, Investopedia
_________________________________________
ติดตามบทความที่น่าสนใจได้ที่นี่:
Blockchain คืออะไร เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกหรือเปล่า?
Smart Contract คืออะไร?
อยากเป็นนักพัฒนาบล็อกเชนต้องเรียนภาษาโปรแกรมต่อไปนี้
_________________________________________
คำเตือน:
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
_________________________________________
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021
อัปเดตเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2023
ที่มา:
Medium
Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen
Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen ผู้นำระบบนิเวศเกมที่ใหญ่ที่สุดบน Telegram เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Exchange ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำในไทย และบริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด ผู้ให้บริการ Bitkub Academy ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศความร่วมมือกับ Catizen ผู้สร้างระบบนิเวศเกมและความรู้ที่ใหญ่ที่สุดบนเครือข่าย TON และแอปพลิเคชั่น Telegram ความร่วมมือในครั้งนี้ มีจุดประสงค์ร่วมกันในการสร้างความรู้ในการลงทุนแก่ผู้ใช้งานและเกมเมอร์ในไทย โดยมุ่งให้ความตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของระบบนิเวศ Catizen ที่ประกอบไปด้วยผู้ใช้งานกว่า 55 ล้านคนทั่วโลก และระบบบล็อกเชน TON ที่มีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกอีกด้วย อีกทั้งยังมีความตั้งใจร่วมกันในการสร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในวงการเกมบนบล็อกเชน เพื่อสร้างมาตรฐานการลงทุนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นร่วมกัน นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของเราในการสนับสนุนระบบนิเวศของ TON และ Telegram ที่มอบทั้งความรู้ ความปลอดภัย และอิสระแก่ผู้ใช้งาน ซึ่ง Bitkub Academy จะร่วมมือกับ Catizen เพื่อพัฒนาให้เกิดความโปร่งใสในการเข้าถึงองค์ความรู้เหล่านี้เพิ่มมากยิ่งขึ้นให้กับคนไทย” นายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “Bitkub Exchange ในฐานะศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของไทย ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เรามุ่งพัฒนาระบบนิเวศบล็อกเชนในไทย โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การจับมือกับ Catizen จะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับทั้งความรู้ และมาตรฐานความปลอดภัยของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้เป็นสากลมากยิ่งขึ้น” Tim Wong, Chairman of Catizen Foundation, กล่าวเสริม “Catizen มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จับมือร่วมกับ Bitkub Exchange และ Bitkub Academy เพื่อร่วมแบ่งปันความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและการรักษาความปลอดภัยในไทย รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะสามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาในไทย พร้อมเสริมสร้างความเข้าใจในการดูแลรักษาสินทรัพย์ได้มากยิ่งขึ้นด้วย” คำเตือน: สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ — — — — — — — — — Bitkub Exchange and Bitkub Academy Announce Collaboration with Catizen, the Biggest Gaming Ecosystem on Telegram Bangkok, Thailand — 21 January, 2025 — Bitkub Online Co., Ltd., the operator of Bitkub Exchange, a leading digital asset exchange in Thailand, and Bitkub Labs Co., Ltd., the operator of Bitkub Academy, the leading hub for blockchain technology and digital assets education, today announced a collaboration with Catizen, the largest gaming and educational ecosystem on the TON blockchain and Telegram application. This partnership is aimed at creating essential knowledger for Thai investors and gamers to develop further awareness of the important roles the Catizen ecosystem’s 55 million global users and TON blockchain ecosystem 100 million global users play. In addition, this collaboration will be a vital step forwards in raising risk awareness for the gaming aspect of the blockchain space and collaboratively uplifting the safety standard behind investments. Mr. Sugrit Phutaviriya, Chief Executive Officer of Bitkub Labs Co., Ltd., stated, “This collaboration is an important display of our efforts in supporting the TON and Telegram ecosystems, which prioritize education, security, and freedom for their users. Bitkub Academy will partner with Catizen to develop transparent access to essential educational materials to further develop the Thai population.” Mr. Atthakrit Chimplapibul, Chief Executive Officer of Bitkub Online Co., Ltd., added, “Bitkub Exchange, as Thailand’s leading digital assets exchange platform, regulated by the Thai S.E.C., is ecstatic to work with Catizen in pushing forward the Thai and regional blockchain space. We believe strongly that this collaboration will be a crucial part in uplifting the quality of education and security standards of the Thai digital assets ecosystem,” Tim Wong, Chairman of Catizen Foundation, added “We are very excited to collaborate with Bitkub to drive the development of blockchain education and security in Thailand and the region. We believe that through our joint efforts, we can bring higher-quality educational content and stronger security measures to Thailand’s digital asset ecosystem, helping more users understand and master blockchain technology.” Disclaimer: Digital assets are risky. Please study and invest appropriately according to your risk tolerance. Bitkub Exchange และ Bitkub Academy ประกาศความร่วมมือกับ Catizen was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.
รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin แตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสม
รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin กลับมาแตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสมทะลุ $20 ล้านล้าน | มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงถึง 322% Bitkub Blog รวบรวมข่าวเด่นในวงการคริปโทเคอร์เรนซีและบล็อกเชนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาให้อ่านกันที่นี่แล้ว มีข่าวอะไรที่นักลงทุนไม่ควรพลาดบ้าง มาดูกันได้เลย! เนื้อหาต่อไปนี้เป็นการนำข่าวสารย้อนหลังตลอดช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศมาเรียบเรียงและสรุปให้เข้าใจง่าย ไม่ได้เป็นการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด — — — — — — — — — — Bitcoin กลับมาแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.9% Bitcoin พุ่งขึ้นจาก 96,000 ดอลลาร์เป็น 98,400 ดอลลาร์ หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเดือนธันวาคมและข้อมูล PPI ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.4% ต่อเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อประจำปีอยู่ที่ 2.9% สูงขึ้นเล็กน้อยจาก 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ โดยอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปีลดลงเหลือ 3.2% จาก 3.3% การตอบสนองของตลาดสะท้อนถึงการมองโลกในแง่ เนื่องจากข้อมูลบ่งชี้ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลง แม้ว่าดัชนี CPI ประจำปีที่เพิ่มขึ้น ที่อาจสร้างแรงกดดันด้านราคา ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin สะท้อนถึงความอ่อนไหวต่อตัวชี้วัดเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวชี้วัดที่มีอิทธิพลต่อนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งการประชุมนโยบายครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐน่าจะให้ทิศทางเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในอนาคตได้ ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสมทะลุ 20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ Circle ออกเผยแพร่รายงานว่า USD Coin (USDC) มีปริมาณธุรกรรมสะสมเกิน 20 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 และเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน 2024 USDC มีปริมาณธุรกรรมรายเดือนที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ รายงานเน้นย้ำถึงบทบาทของ USDC ในฐานะตัวแทนเงินดิจิทัลของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อยู่ในบล็อกเชนต่างๆ นอกจากนี้ การหมุนเวียนของ USDC ยังเติบโตขึ้น 78% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยรายงานยังสนับสนุนข้อได้เปรียบของ stablecoin เมื่อเทียบกับเงิน fiat เช่น ประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความเร็วในการทำธุรกรรมที่แทบจะทันที และการเข้าถึงทั่วโลก ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงถึง 322% ในไตรมาส 4 ปี 2024 ได้แรงสนับสนุนจากเครือข่าย Solana มูลค่าตลาดของ AI Agents พุ่งสูงขึ้น 322% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 โดยเพิ่มขึ้นจาก 4,800 ล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคมเป็น 15,500 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม โดยเมื่อวันที่ 14 มกราคม CoinGecko ได้เผยแพร่ “Annual Crypto Industry Report” เปิดเผยว่า AI Agents ได้รับความนิยมในหลังจากมีการเปิดตัวโปรเจ็กต์ Goatseus Maximus (GOAT) เมื่อเดือนตุลาคม 2024 AI Agents เป็นโปรแกรมแบบอัตโนมัติที่ใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ในการดำเนินงาน มักจะอยู่ในระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) หรือเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศบล็อกเชน ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — ตลาดอนุพันธ์ใน Bitcoin ส่งสัญญาณความผันผวนเพิ่มขึ้นก่อนทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง 20 มกราคม ตลาดอนุพันธ์ของ Bitcoin ส่งสัญญาณผันผวนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเตรียมตัวสำหรับการเข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 ในวันที่ 20 มกราคม 2025 กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่ดำรงตำแหน่งไม่ติดต่อกัน ต่อจาก Grover Cleveland ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สองในปี 1893 ที่มีความแตกต่างจากทรัมป์ เพราะ Cleveland คัดค้านการใช้ภาษีศุลกากรสูง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าผู้ซื้อขายจะระมัดระวังมากขึ้น ข้อมูลจากตลาดซื้อขายอนุพันธ์ Derive.xyz แสดงให้เห็นสัญญาณของการคาดการณ์แนวโน้มขาลงในระยะกลาง โดยการซื้อ Bitcoin แบบ Options เพิ่มขึ้นจนคิดเป็น 40% ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบน Derive.xyz เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา “ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 20% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และบ่งชี้ว่าผู้ซื้อขายกำลังป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงด้านลบขณะที่เรากำลังเข้าใกล้พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์” Sean Dawson หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Derive.xyz กล่าวกับ The Block ที่มา : The Block — — — — — — — — — — สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เตือนภัยคุกคามการแฮ็กสกุลเงินดิจิทัลจากเกาหลีเหนือมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ออกคำเตือนร่วมกันเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากแฮ็กเกอร์สกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) โดยมีกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่ม Lazarus ที่มีชื่อเสียงด้านลบเป็นผู้ต้องสงสัยหลักในคดีการโจรกรรมทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดบางคดีบนโลก Web3 รวมถึงการแฮ็กเครือข่าย Ronin มูลค่า 600 ล้านดอลลาร์และการแฮ็กการแลกเปลี่ยน WazirX มูลค่า 230 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อ “ความสมบูรณ์และเสถียรภาพของระบบการเงินระหว่างประเทศ” ตามประกาศร่วมที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 มกราคม แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่าเกาหลีเหนือมีเป้าหมายที่จะระดมทุนสำหรับโครงการขีปนาวุธพิสัยไกลผ่านการขโมยสกุลเงินดิจิทัล “รัฐบาลทั้งสามและอุตสาหกรรมเอกชน มุ่งมั่นร่วมกันป้องกันการโจรกรรมจากเกาหลีเหนือ และมีความพยายามที่จะกู้คืนเงินที่ถูกขโมยไป มีเป้าหมายเพื่อปฏิเสธรายได้ที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือจากโครงการสร้างอาวุธทำลายล้างสูงและขีปนาวุธพิสัยไกล” ที่มา : Cointelegraph — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — Weekly Wrap-Up: Bitcoin Hits $100K on Inflation News | USDC Transactions Top $20 Trillion | AI Agents Market Explodes 322% on Solana Stay ahead in the world of cryptocurrency and blockchain with Bitkub Blog! We’ve rounded up the hottest news from the past week, all in one place. Wondering what investors need to know right now? Let’s dive in! This curated summary brings you the top stories from global sources, broken down into bite-sized insights for easy understanding. (P.S. Remember, this is for your knowledge only — it’s not investment advice!) — — — — — — — — — — Bitcoin Surges to $100,000 on Positive US Inflation Data Bitcoin surged from $96,000 to $98,400 following the release of December’s Consumer Price Index (CPI) and Producer Price Index (PPI) data. The CPI report indicated a 0.4% monthly increase, in line with forecasts. The annual inflation rate stands at 2.9%, a slight uptick from November’s 2.7%, also meeting expectations. Core inflation, excluding food and energy, rose by 0.2% month-on-month, matching predictions, but the annual core inflation rate dipped to 3.2% from 3.3%. The market’s response reflects optimism as the data suggests a downward trend in inflation, despite the rise in the annual CPI, which could exert price pressure. Bitcoin’s price movement underscores its sensitivity to macroeconomic indicators, particularly those influencing the Federal Reserve’s policies. The upcoming Federal Reserve policy meeting is expected to provide further direction, especially regarding interest rate adjustments that could impact the future economy. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — USDC Surpasses $20 Trillion in All-time Transaction Volume Circle has released a report stating that USD Coin (USDC) has surpassed $20 trillion in cumulative transaction volume in 2024. In November 2024 alone, USDC recorded a monthly transaction volume of $1 trillion. The report emphasizes USDC’s role as a digital representation of the US dollar across various blockchains. Additionally, USDC’s circulation has grown by 78% year-over-year. The report further supports the advantages of stablecoins compared to fiat currency, such as cost efficiency, near-instant transaction speeds, and global accessibility. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — AI Agents Market Cap Soars 322% in Q4 2024, Fueled by Solana Network The market capitalization of AI Agents surged by 322% in the fourth quarter of 2024, increasing from $4.8 billion in October to $15.5 billion in December. According to CoinGecko’s “Annual Crypto Industry Report” released on January 14th, AI Agents gained significant traction following the Goatseus Maximus (GOAT) project launch in October 2024. AI Agents are autonomous programs that leverage artificial intelligence to execute tasks, often within decentralized finance (DeFi) or as integral components of blockchain ecosystems. Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Bitcoin Derivatives Market Signals Rising Volatility Ahead of Trump’s January 20 Inauguration The Bitcoin derivatives market is showing signs of volatility due to rising expectations as President Donald Trump prepares for his second term inauguration on January 20, 2025, becoming the second U.S. president in history to serve non-consecutive terms, following Grover Cleveland, who served his second term in 1893 and opposed high tariffs, unlike Trump. In light of these developments, traders seem to be more cautious. Data from the derivatives trading platform Derive.xyz indicates signs of a bearish trend prediction in the medium term, with Bitcoin options purchases rising to account for 40% of futures contracts on Derive.xyz, marking a significant increase over the past week. “This is a sharp rise from 20% last week, indicating that traders are hedging against potential downside risks as we approach Trump’s inauguration,” said Sean Dawson, Head of Research at Derive.xyz, in an interview with The Block. Source: The Block — — — — — — — — — — US, Japan, and South Korea Warn of Rising North Korean Crypto Hacking Threat The United States, Japan, and South Korea have issued a joint warning about the growing threat of cryptocurrency hackers linked to the Democratic People’s Republic of Korea (DPRK). Groups like the infamous Lazarus Group are prime suspects in some of the biggest cyber heists in the Web3 world, including the $600 million Ronin Network hack and the $230 million WazirX exchange hack. North Korean hackers now pose a significant threat to the “integrity and stability of the international financial system,” according to the joint advisory published on January 14th. The statement claims that North Korea aims to fund its long-range missile programs through cryptocurrency theft. “The three governments, along with private industry, are committed to disrupting North Korean theft and attempted laundering of stolen funds, with the goal of denying North Korea illicit revenue for its weapons of mass destruction and ballistic missile programs.” Source: Cointelegraph — — — — — — — — — — Disclaimer: -Cryptocurrency is highly risky; investors may lose all investment money. -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. รวมข่าวรายสัปดาห์ : Bitcoin แตะระดับ $100,000 ตอบรับข้อมูลเงินเฟ้อ 2.9% | USDC มีปริมาณธุรกรรมสะสม was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.
บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2.0
บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ เข้าร่วมโครงการ Easy E-Receipt 2.0