บทความ

ราคา Bitcoin ขึ้นลงจากอะไร?

image

ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการเหรียญคริปโตหรือไม่ก็ตาม คุณก็น่าจะเคยเห็นข่าวเกี่ยวกับราคา Bitcoin ที่ผันผวนขึ้นลงแรงผ่านตามาบ้าง แล้วสงสัยไหมว่าการที่ราคา Bitcoin หรือเหรียญดิจิทัลอื่นๆผันผวนมันมีปัจจัยมาจากอะไร หรืออะไรที่ทำให้ราคาเกิดความเปลี่ยนแปลง ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาศึกษากันว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลกระทบต่อราคา

ทำความเข้าใจกับพื้นฐานของ Bitcoin

Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ขึ้นตรงกับบุคคลหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง เนื่องจากเทคโนโลยีบล็อกเชน ดังนั้นราคา Bitcoin จึงแตกต่างกับราคาหุ้น เพราะไม่มีเรื่องของผลประกอบการหรือพื้นหลังของบริษัทเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ปัจจัยที่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบกับราคาได้มากที่สุดคือเรื่องของอุปสงค์-อุปทาน และข่าวเกี่ยวกับการเปิดรับ Bitcoin เป็นวงกว้าง (Mass Adoption) โดยสามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้

1.อุปสงค์ อุปทาน

เรื่องของอุปสงค์และอุปทานเรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานของทุกๆสินทรัพย์เลยก็ว่าได้ สาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin แค่ 1 เหรียญพุ่งสูงถึงระดับหลายแสนบาทเป็นเพราะว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญหรือก็คือมีอุปทานจำกัด ขณะที่ความต้องการ Bitcoin กลับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆหรือก็คืออุปสงค์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนั่นเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin เพิ่มสูงขึ้น

image

กราฟจาก Bitcoin.com ด้านบนนี้ แสดงให้เห็นถึงปริมาณอุปสงค์ของ Bitcoin ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี ขณะที่ปริมาณอุปทานจะลดลงเรื่อย ๆเนื่องจากภาวะ Halving โดยเฉพาะในปี 2028 ที่ปริมาณอุปสงค์ของ Bitcoin จะสูงกว่าอุปทาน

2. กฏหมายควบคุม

แต่ละประเทศทั่วโลกต่างมีมุมมองและมาตรการควบคุมการใช้หรือซื้อขาย Bitcoin ที่แตกต่างกันออกไป บางประเทศก็เปิดกว้าง บางประเทศพยายามปิดกั้น ซึ่งจุดนี้ก็อาจกระทบปริมาณอุปสงค์ใน BItcoin หรือกระทบจำนวนผู้ใช้โดยรวมนั่นเอง ยิ่งเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเท่าใดผลกระทบก็จะยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น แต่ผลกระทบดังกล่าวก็เป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง หากประเทศเปิดกว้างและมีมาตรการกำกับดูแลที่ดี ก็อาจหนุนให้มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น ในทางกลับกันหากประเทศออกกฏหมายควบคุมที่เข้มงวด ก็อาจทำให้จำนวนผู้ใช้ลดน้อยลงได้เช่นกัน

image

รูปด้านบนบ่งชี้สถานะการใช้กฏหมายเกี่ยวกับเหรียญดิจิทัลในแต่ละประเทศทั่วโลก อัตเดตเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2020 กล่าวโดยสรุปได้ว่าประเทศที่เป็นสีเขียวมีการเปิดกว้างต่อเหรียญดิจิทัล ถัดมาคือสีเหลืองที่ค่อนข้างเป็นกลาง สีแดงคือประเทศที่กีดกันการใช้เหรียญดิจิทัลโดยสิ้นเชิง ส่วนสีเทาคือยังไม่มีข้อมูล จะเห็นได้ว่าประเทศส่วนใหญ่เริ่มเปิดกว้างต่อเหรียญดิจิทัลกันแล้ว

3. การใช้งาน

ทั้ง Bitcoin และเหรียญดิจิทัลอื่น ๆ ต่างถูกสร้างขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น Ethereum ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นแพลตฟอร์มให้เหล่านักพัฒนาใช้สำหรับเขียนแอปพลิเคชั่น ขณะที่ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางสำหรับการใช้จ่ายแบบ Peer-2-Peer หรือการใช้จ่ายระหว่างบุคคลและบุคคลโดยไม่ผ่านตัวกลาง นั่นจึงสาเหตุที่ทำให้ Bitcoin ได้รับความนิยมเป็นวงกว้างและถูกยกย่องว่าเป็นสกุลเงินแห่งโลกอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

image

ตารางจาก Statista ด้านบนเป็นผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนที่คุ้นเคยกับการเหรียญดิจิทัลส่วนใหญ่มาจากประเทศใด

อีกกรณีหนึ่งที่ทำให้ Bitcoin เริ่มเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นมาจากวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจถดถอยลงอย่างมาก ธนาคารกลางหลายๆประเทศจึงออกมาช่วยเหลือเศรษฐกิจในประเทศด้วยการพิมพ์เงินออกมาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหรือทำ QE (Quantitative Easing) กันมากขึ้น ผลที่ตามมาจากการทำ QE คือภาวะเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นตามมา ผู้คนจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจกับสินทรัพย์ที่มีอุปทานจำกัดอย่าง Bitcoin มากขึ้น

4. ข่าวสาร

การรายงานข่าวไม่ว่าจะในรูปแบบใด ย่อมมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดและอาจกระทบปริมาณอุปสงค์ในสินทรัพย์ได้ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นรายงานข่าวว่ารัฐบาลประเทศหนึ่งเปิดรับ Bitcoin ในการทำธุรกรรมอย่างเป็นทางการก็อาจสนับสนุนให้ตลาดมีความเชื่อมั่นต่อ Bitcoin มากขึ้นและดึงดูดให้มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นตามมา ราคา Bitcoin ก็อาจเพิ่มสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากมีข่าวในเชิงเสียหายก็อาจทำลายความเชื่อมั่นลงไป และทำให้ราคาตกลงไปนั่นเอง

หนึ่งในข่าวที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในทางอ้อมก็ได้กล่าวเอาไ้ว้แล้ว คือการที่ธนาคารกลางประกาศพิมพ์เงินเพิ่ม ทำให้คนกลัวภาวะเงินเฟ้อ และหันไปหา Bitcoin กันมากขึ้น เป็นต้น

สรุป

มูลค่าของ Bitcoin ขึ้นอยู่กับปริมาณอุปสงค์และอุปทานในตลาดเหมือนกับสินทรัพย์ทั่วๆไป แต่เนื่องจาก Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวกลางและไม่สามารถถูกควบคุมได้ ดังนั้นราคา Bitcoin จึงไม่มีปัจจัยอย่างเรื่องของผลประกอบการของบริษัทเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนกับหุ้นหรือพันธบัตร สำหรับข่าวหรือปัจจัยที่น่าจะมีผลกระทบต่อราคา Bitcoin มากที่สุด คือเรื่องของการเปิดรับ Bitcoin เป็นวงกว้าง (Mass Adoption) อย่างเช่น บริษัทยักษ์ใหญ่เปิดรับ Bitcoin สำหรับการชำระสินค้า หรือรัฐบาลประกาศให้ซื้อขายเหรียญดิจิทัลได้อย่างถูกกฏหมาย เป็นต้น

หากคุณสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin หรือเหรียญดิจิทัลตัวอื่นๆ รวมถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน ทาง Bitkub Academy ก็มีคอร์สเรียนดีๆจัดให้คุณโดยเฉพาะ สามารถติดตามได้ทาง Facebook Bitkub Academy: @BitkubAcademy

อ้างอิง: Investopedia, The European Business Review, Business Insider

_________________________________________

บทความ Bitkub Blog ที่คุณอาจสนใจ

Bitcoin เป็นตัวอย่างของเงินที่ดี เพราะ 5 คุณสมบัติต่อไปนี้
Bitcoin Dominance คืออะไร? รู้จักตัวชี้วัดความเป็นใหญ่ของ BTC
‘Bitcoin เล่นยังไง’ คู่มือนักเทรดมือใหม่ เข้าใจพื้นฐาน เพื่อต่อยอดสู่อนาคต
DeFi คืออะไร และมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง? _________________________________________

มาเรียนรู้เรื่อง บิตคอยน์ (Bitcoin) และ Cryptocurrency ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจโลกของคริปโทฯ ได้ดีขึ้น ที่ Bitkub Blog

หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่

*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต”

ผู้เขียน: Waranyu Suknantee | 28 มิ.ย. 66 | อ่าน: 34,196
บทความล่าสุด