Blog
รู้จักกับ LUNA เครือข่ายเพื่อ Stablecoin โดยเฉพาะ
(Scroll down for English)
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คริปโทเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชนยังไม่ถูกนำไปใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน นั่นคือมูลค่าที่ผันผวน เพราะสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum อาจมีมูลค่าลดลงหรือสูงขึ้นได้มากถึง 25% ภายในชั่วข้ามคืน
ซึ่ง LUNA หรือเครือข่าย Terra ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาด้านความผันผวนของมูลค่า และสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าคงที่อย่าง Stablecoin โดยเฉพาะ เพื่อผลักดันให้คริปโทเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก และกระตุ้นให้เกิดการนำไปใช้จ่ายจริง
หากคุณกำลังสงสัยว่า LUNA คืออะไร มีเทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจ ใครคือผู้สร้าง หรือต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LUNA และเครือข่าย Terra เรารวมมาอ่านกันได้ที่บทความนี้แล้ว
LUNA คืออะไร
LUNA คือหนึ่งในเหรียญหลักของเครือข่าย Terra ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่รองรับ Smart contract สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการสร้าง Stablecoin ประเภท Algorithmic Stablecoin เพื่อผลักดันการชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลในชีวิตจริง
Terra ใช้ระบบฉันทามติแบบ Proof-of-Stake ซึ่งผู้ถือเหรียญ LUNA สามารถล็อกเหรียญไว้ในเครือข่าย (Stake) เพื่อช่วยตรวจสอบธุรกรรมและรับผลตอบแทนเป็นเหรียญ LUNA รวมถึงสามารถมีส่วนร่วมกับการบริหารเครือข่าย (Governance)
ไม่ใช่แค่ Smart contract เท่านั้น แต่เครือข่าย Terra ยังรองรับสินทรัพย์ประเภท NFT (Non-Fungible Token), DeFi (Decentralized Finance), Web 3.0, รวมถึง Bridge ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่น ๆ อย่าง Ethereum, Solana, Polygon และด้วยระบบนิเวศที่มุ่งเน้นไปที่ Stablecoin ทำให้ปัจจุบัน เหรียญ LUNA หรือเครือข่าย Terra มีมูลค่ารวมติดอันดับ Top 10 สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงที่สุดในโลก
จุดเด่นของ Terra
นอกจาก LUNA ที่เป็นเหรียญหลักแล้ว เครือข่าย Terra ยังมี Stablecoin หลักของเครือข่ายคือ UST (Terra USD) ที่ใช้สำหรับการโอนมูลค่า การใช้จ่าย หรือใช้งานร่วมกับ DeFi
UST จัดอยู่ในประเภท Algorithmic Stablecoin ซึ่งแตกต่างกับ USDT หรือ USDC ที่อยู่บน Ethereum เนื่องจาก UST ไม่ได้ถูกหนุนด้วยเงินดอลลาร์ แต่ใช้ Smart contract คอยควบคุมอุปทานของเหรียญเพื่อทำให้มูลค่าของ UST มีมูลค่าใกล้เคียงกับดอลลาร์มากที่สุด
ในขณะที่ UST มีมูลค่าคงที่ แต่ LUNA จะมีมูลค่าผันผวนตามอุปสงค์-อุปทานของตลาด เนื่องจากทั้งคู่ต่างทำหน้าที่ถ่วงสมดุลให้กันและกัน อย่างแรกคือ การจะสร้าง (Mint) UST ขึ้นมาได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องทำลาย (Burn) เหรียญ LUNA และอย่างที่สองคือ การเทรดคู่เหรียญ LUNA/UST ยังมีส่วนช่วยทำให้มูลค่าของ UST ใกล้เคียงมูลค่า 1 ดอลลาร์มากที่สุด
ไม่ใช่เพียง UST ที่เป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าใกล้เคียงกับเงินดอลลาร์เท่านั้น แต่ Terra ยังมี Stablecoin ที่มีมูลค่าใกล้เคียงกับสกุลเงิน Fiat อื่น ๆ อีก เช่น Terra JPY, Terra CNY, Terra EUR, และ Terra GBP เป็นต้น
การทำงานของ Terra
เครือข่าย Terra มีกลไกในการรักษามูลค่าของ Stablecoin ที่อยู่บนเครือข่าย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง LUNA และ Stablecoin โดยจะยกตัวอย่างการทำงานร่วมกันระหว่าง LUNA และ UST ดังนี้
ในกรณีที่มีความต้องการ UST สูง ส่งผลให้มูลค่าสูงขึ้นมาที่ 1.002 ดอลลาร์ ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนั้น เครือข่าย Terra จะอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถแลก (Swap) เหรียญ LUNA มูลค่า 1 ดอลลาร์กับ UST 1 เหรียญผ่านกระเป๋า Terra Station ซึ่งกระบวนการแลกเปลี่ยนนี้จะทำให้ LUNA มูลค่า 1 ดอลลาร์ที่ใช้แลกถูกทำลาย ในขณะที่ UST ถูกสร้างเพิ่มมาอีก 1 เหรียญ ทำให้อุปทานของ UST เพิ่มสูงขึ้น และเนื่องจาก UST กำลังมีมูลค่าที่ 1.002 ดอลลาร์ ผู้ใช้ก็สามารถทำกำไรไปได้ 0.002 ดอลลาร์
ในทางตรงกันข้าม กรณีที่มีความต้องการ UST ต่ำ และมูลค่าตกลงมาที่ 0.998 ดอลลาร์ ผู้ใช้สามารถซื้อ UST ได้ที่ราคา 0.998 ดอลลาร์ และใช้ฟังก์ชันของกระเป๋า Terra Station เพื่อแลก 1 UST กับ LUNA มูลค่า 1 ดอลลาร์ กระบวนนี้จะทำให้ UST 1 เหรียญถูกทำลาย และสร้างเหรียญ LUNA มูลค่า 1 ดอลลาร์ขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้ทำกำไรไปได้ 0.002 ดอลลาร์
กระบวนที่ยกตัวอย่างมานี้จะเกิดขึ้นแทบตลอดเวลาบนเครือข่าย Terra ทำให้ Stablecoin บนเครือข่ายมีมูลค่าใกล้กับสกุลเงิน Fiat ที่ผูกมูลค่าด้วยมากที่สุด
ผู้สร้าง Terra
เครือข่าย Terra มีผู้สร้างคือ Terraform Labs ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2018 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ มีผู้ก่อตั้งคือ Daniel Shin (ซ้าย) กับ Do Kwon (ขวา)
Daniel Shin เคยเป็นผู้ก่อตั้งของ Ticket Monster หรือ TMON หนึ่งในแพลตฟอร์มด้านการจำหน่ายตั๋วออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 และยังเคยก่อตั้ง Fast Track Asia สตาร์ทอัพด้านที่ปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการ
ขณะที่ Do Kwon ดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Terraform Labs จบการศึกษาในสาขา Computer Science จากมหาวิทยาลัย Stanfordเคยร่วมงานกับ Microsoft และ Apple ในฐานะ Software Engineer นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ก่อตั้งและเคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Anyfi บริษัทที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนเกาหลีใต้
การกระจายเหรียญ LUNA
แม้เหรียญ LUNA ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีอุปทานจำกัดในเชิงเทคนิคก็ตาม แต่เครือข่ายก็ได้กำหนดเพดานอุปทานของเหรียญไว้ที่ 1 พันล้านเหรียญ หาก LUNA ถูกสร้างออกมามากเกินจำนวนดังกล่าว เหรียญ LUNA จะถูกทำลาย (Burn) ตามกลไกรักษามูลค่าของ Stablecoin จนกว่าอุปทานจะกลับมาสู่ภาวะสมดุล
อ้างอิง Terra, Coinmarketcap, Coindesk, Messari
เปิดบัญชีและเริ่มลงทุน LUNA กับ Bitkub Exchange: https://www.bitkub.com/signup
*การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน*
==========
Get to Know LUNA, a Network Dedicated to Stablecoins
One of the main reasons why cryptocurrencies and blockchain technologies have not been put into practice in everyday life is because of the volatile value. Cryptocurrencies like Bitcoin or Ethereum can fall in value or rise more than 25% overnight.
LUNA, or Terra network, was created to address the issue of value volatility. Especially to support stablecoins, a digital currency with stable-value, to drive cryptocurrencies, and blockchain technology to be accepted by the masses and stimulate actual spending.
If you are wondering what LUNA is, what technology is interesting? Who is the creator? if you want to learn more about LUNA and the Terra network, we’ve included the information within this article.
What is LUNA?
LUNA is one of the main currencies of the Terra network, a blockchain network that supports smart contracts. It was created to support the creation of Algorithmic Stablecoin to drive real-life cryptocurrency payments.
Terra uses Proof-of-Stake consensus algorithm. LUNA holders can lock their coins in the network (Stake) to help verify transactions and receive LUNA as rewards, as well as being able to participate in the governance of the network.
Not only smart contracts, but the Terra network also supports NFT (Non-Fungible Token), DeFi (Decentralized Finance), Web 3.0, and bridges that connect to other networks like Ethereum, Solana, Polygon. Due to its stablecoins-focused ecosystem, LUNA, or Terra Network, currently ranks among the top 10 cryptocurrencies with the highest total market capitalization in the world.
Outstanding points of Terra
In addition to LUNA as the main currency, the Terra network also has the network’s main stablecoin, UST (Terra USD), that is used for value transfers, spending, or integration with DeFi.
UST is classified as an Algorithmic Stablecoin, unlike USDT or USDC that is based on Ethereum, because UST is not backed by the dollar, but uses smart contracts to control the supply of the token to balance the value of UST closest to the dollar.
While UST has a stable value, LUNA fluctuates depending on market demand-supply. Both of them work together and balance each other. Firstly, in order to create (Mint) UST, the user needs to burn LUNA. Another one is trading the LUNA/UST pair which also helped bring the value of UST as close as possible to 1 dollar.
Not only is UST, Terra also has stablecoins that have value close to other fiat currencies such as Terra JPY, Terra CNY, Terra EUR, and Terra GBP.
How Terra works
The Terra network provides a mechanism for preserving the value of the stablecoins on the network. This is a collaboration between LUNA and Stablecoin. Here are some examples of collaboration between LUNA and UST:
In the event of high UST demand, resulting in a higher value of $1.002, this should not be the case. The Terra Network allows users to swap $1 LUNA for $1 UST through the Terra Station wallet. This exchange process would burn 1 dollar of LUNA, to create 1 UST, increasing the supply of the UST. As the UST was valued at $1.002, the user was able to make a profit of $0.002.
On the contrary, with low UST demand and drop in value to $0.998, users can purchase UST for $0.998 and use the Terra Station’s function to exchange 1 UST for 1 dollar of LUNA. This will burn 1 UST and create a 1 dollar LUNA, making the user gain $0.002 as a profit.
This exemplified process takes place on the Terra network almost all time, giving the stablecoin on the network the closest value to the fiat currency.
Who created Terra?
The Terra network, created by Terraform Labs, was founded in 2018 with headquarters in Seoul, South Korea. Its founders are Daniel Shin (left) and Do Kwon (right).
Daniel Shin was the founder of Ticket Monster, or TMON, one of the largest online ticketing platforms in South Korea since 2010. He also founded Fast Track Asia, a consulting startup for entrepreneurs.
Do Kwon is the CEO of Terraform Labs and the founder, he was the CEO of Anyfi, a company built to address the Internet’s problem for South Koreans. He graduated in Computer Science from Stanford University. Then, worked with Microsoft and Apple as a Software Engineer.
LUNA Tokenomic
Although the LUNA was created without limited supply in technical terms, the network has set a soft cap for supply at 1 billion LUNA. If LUNA is created more than the amount, it will be burned by the stablecoin’s value stabilization mechanism until the supply returns to equilibrium.
References: Terra, Coinmarketcap, Coindesk, Messari
Trade LUNA with Bitkub Exchange. Register now: https://www.bitkub.com/signup
Source:
Medium