Blog
อนาคตเหรียญ Ripple (XRP) จะเป็นอย่างไร?
ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเข้าสู่ขาลงตั้งแต่ปลายปี 2021 เป็นต้นมา อนาคตเหรียญ Ripple (XRP) เองก็ยังคงไม่ชัดเจนว่าจะออกมาในทิศทางไหน จนทำให้นักลงทุนหลายคนที่ทุ่มเงินไปกับ Ripple ยังคงเอามือก่ายหน้าผาก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนหน้าใหม่หรือรุ่นเก๋า เราก็อยากให้คุณได้ลองทำความเข้าใจกับเหรียญนี้ดูว่าจริง ๆ แล้วยังเป็นเหรียญที่น่าลงทุนอยู่ไหม ควรไปต่อหรือว่าพอแค่นี้
ความเป็นมาของ Ripple
Ripple ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Chris Larsen และ Jed McCaleb ในนามบริษัท OpenCoin ก่อนที่ต่อมาในปี 2013 จะเปลี่ยนชื่อเป็น Ripple Labs Inc. ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการสร้างโปรโตคอลแบบกระจายศูนย์สำหรับโอนและชำระเงินออนไลน์ระหว่างประเทศ ยกระดับมาตรฐานธุรกรรมการเงินแบบเดิม ๆ ของโลกที่ช้า ค่าธรรมเนียมสูง และเต็มไปด้วยขั้นตอนยุ่งยาก ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หัวใจสำคัญของ Ripple คือการใช้เครือข่ายชำระและโอนเงินที่พัฒนาขึ้นมาเอง ชื่อว่า RippleNet ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว สามารถยืนยันธุรกรรมระหว่างประเทศได้เสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาที แทนที่จะเป็น 3–5 วันอย่างที่แล้วมา ซึ่งถือว่าเป็น Pain point สำคัญของการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมต่ำ ลดการใช้เอกสารยืนยันและขั้นตอนในการดำเนินงานที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่ยังคงมีความปลอดภัยและทำงานได้เสถียร โดย Ripple ใช้เหรียญคริปโทฯ ของตัวเองที่มีชื่อว่า XRP ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการชำระค่าธรรมเนียมและแปลงสกุลเงินบนแพลตฟอร์ม RippleNet
ความแตกต่างระหว่าง Ripple กับ Bitcoin ก็คือ Ripple ไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีการชำระเงินให้คนหันมาใช้คริปโทฯ แทนเงินสด และลดบทบาทของสถาบันการเงินเหมือนที่ Satoshi Nakamoto ผู้ให้กำเนิด Bitcoin ตั้งเป้าไว้ แต่ Ripple ต้องการเป็นตัวกลางในการชำระเงินที่ดีกว่าเดิม และรองรับทุกสกุลเงินบนโลกโดยร่วมมือกับสถาบันการเงินนั่นเอง
เท่านั้นยังไม่พอ Ripple ยังเพิ่มฟังก์ชันสำหรับ e-commerce เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่ม SMEs อีกด้วย เรียกได้ว่า Ripple นั้นต้องการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสถาบันทางการเงินและสร้างโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในเชิงพาณิชย์
จึงไม่แปลกเลยที่ธุรกิจของ Ripple เติบโตอย่างก้าวกระโดดไปพร้อมๆ กับความนิยมของคริปโทเคอร์เรนซีที่โด่งดังไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา Ripple เริ่มมีลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงินจากหลายประเทศทั่วโลกใช้บริการและมีพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Bank of America, Santander, ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารกรุงศรี ไปจนถึงแพลตฟอร์มชำระเงินอย่าง Azimo, Novatti, SBI Remit เป็นต้น โดยในตอนนี้ Ripple มีตลาดใหญ่ที่สุดอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำไมราคา Ripple จึงผันผวนหนัก
ฟังก์ชันที่กล้ายกระดับมาตรฐานการชำระเงินของโลกนั้นเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้อนาคตเหรียญ Ripple นั้นสดใสมาก ๆ และหลังจากที่เปิดตัวมานานหลายปีจนได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินชั้นนำ ราคาของ XRP ที่เป็นเหรียญคริปโทฯ สำหรับใช้งานในแพลตฟอร์มนี้ก็พุ่งทะยานอย่างน่าทึ่งเมื่อตอนต้นปี 2018 โดยทำ All-Time High ได้สูงลิ่วถึง 3.84 ดอลลาร์สหรัฐ ทว่า หลังจากที่ราคา XRP พุ่งขึ้นไปสูงมากก็ไม่สามารถยืนระยะได้นานนักและลดลงมาต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ภายในไม่กี่เดือนด้วยสถานการณ์ตลาดคริปโทฯ ที่เป็นขาลง
หลังจากนั้นในเดือนธันวาคมปี 2020 กลต. ของสหรัฐฯ ก็ยื่นฟ้อง Ripple ด้วยการกล่าวหาว่า XRP เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้ผ่านการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง นำไปสู่การต่อสู้ในชั้นศาลอันดุเดือดและยืดเยื้อ ทำให้ตั้งแต่นั้นมาราคาของ XRP มีความผันผวนอย่างรุนแรงท่ามกลางอิทธิพลของตลาดคริปโทฯ โดยรวมที่เป็นขาขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ส่งผลให้ราคา XRP ดีดขึ้นไปเกือบ 2 ดอลลาร์ ก่อนจะกลับตัวเป็นขาลงอีกครั้งและเหลือไม่ถึง 1 ดอลลาร์ ตั้งแต่ต้นปี 2022 จนถึงปัจจุบัน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อเหรียญ Ripple มีอะไรบ้าง
มาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อราคาของ Ripple และคุณควรจับตามองอย่างระมัดระวัง เพื่อหาแนวทางการลงทุนได้อย่างเหมาะสม
ปัจจัยภายใน
คดีฟ้องร้อง แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่ออนาคตเหรียญ Ripple ที่เทรดเดอร์ต่างเฝ้าดูอยู่ในตอนนี้ก็คือคดีที่โดน กลต. สหรัฐฯ ฟ้องร้อง นั่นเอง โดยจากความเคลื่อนไหวของรูปคดีที่ผ่านมา มีผู้เชี่ยวชาญประเมินกันว่า Ripple เป็นฝ่ายได้เปรียบในคดีนี้
อย่างไรก็ตาม เรายังต้องรอลุ้นผลตัดสินอย่างเป็นทางการอยู่ดี หากมีคำตัดสินออกมาจากศาล ไม่ว่า Ripple จะชนะหรือแพ้คดี จะส่งผลต่อราคา XRP อย่างรุนแรงแน่นอน
ฟีเจอร์ใหม่ ตามปกติแล้วเมื่อเหรียญคริปโทฯ ใดก็ตามมีการประกาศอัปเดตสำคัญ ออกฟีเจอร์ในการใช้งานใหม่ หรือมีบริษัทยักษ์ใหญ่มาร่วมลงทุน ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน เกิดเป็นกระแสในแง่บวก และทำให้ราคาเหรียญสูงขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งหาก Ripple มีความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ นักลงทุนก็เตรียมทำกำไรได้เลย ที่ผ่านมา Ripple ก็มีประกาศเกี่ยวกับการร่วมทุนจากองค์กรชั้นนำมากมาย จึงทำให้นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยยังคงเชื่อมั่นใน อนาคตเหรียญ Ripple และถือเหรียญเอาไว้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่าจะมีคดีที่ต้องสะสางอยู่ก็ตาม
ปัจจัยภายนอก
ราคา BTC ปัจจัยหนึ่งที่มักส่งผลต่อ Altcoin อยู่เสมอก็คือราคาของ Bitcoin และสถานการณ์โดยรวมของตลาดคริปโทฯ ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่มีข่าวดีจนทำให้ BTC พุ่งแรง ราคาของ XRP และ Altcoin อื่น ๆ ในกระดานเทรดก็มีโอกาสพุ่งตามไปด้วย แต่หาก BTC ร่วงแรง ราคา XRP ก็มักจะโดนหางเลขด้วยเช่นกัน
เศรษฐกิจโลก ภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีอิทธิพลต่อราคา XRP เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวด้านนโยบายของ FED และ กลต. สหรัฐฯ ที่มักส่งผลต่อราคา XRP แทบทุกครั้ง รวมถึงข่าวการเงินที่สำคัญจากสหภาพยุโรปและประเทศมหาอำนาจอย่างจีนก็สามารถส่งผลได้ไม่มากก็น้อย
การเมืองและสังคม ข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่า ท่ามกลางความหวาดกลัวนั้น จะเกิดเหตุการณ์คริปโตราคาร่วงได้ง่าย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ XRP ก็จะโดนผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอนาคตเหรียญ Ripple
แม้ว่าจะมีคดีความเป็นอุปสรรคสำคัญอยู่ และยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าจะชนะคดีนี้หรือไม่ บวกกับภาวะของตลาดคริปโทฯ ที่ยังเป็นขาลงทำให้ราคาของ Ripple ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากมองอย่างเป็นกลางแล้ว ราคาของ Ripple ก็ยังไม่ถือว่าเลวร้ายนัก เพราะยังไม่ร่วงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 0.3 ดอลลาร์ฯ ซึ่งยืนระยะมาได้อย่างยาวนานนับปี ดังนั้น ถ้าราคายังไม่ทะลุแนวรับนี้ไป นักลงทุนก็น่าจะพออุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง
หากคุณมีความเชื่อมั่นว่าอนาคตเหรียญ Ripple จะสามารถฝ่าวิกฤตทั้งหลายในช่วงนี้ไปได้ และต้องการถือเหรียญระยะยาวแล้วล่ะก็ Ripple ก็ยังถือว่าเป็นเหรียญที่มีพื้นฐานดี ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนและสถาบันการเงิน มีการนำไปใช้งานจริงในธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วโลก จึงถือว่ามีศักยภาพพอที่จะเติบโตขึ้นไปได้อีกไกล และมีโอกาสทำกำไรได้หลายเท่าเมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากใช้อัลกอริทึมวิเคราะห์ว่าราคาของ Ripple มีโอกาสที่จะพุ่งสูงขึ้นไปถึง 1.2 ดอลลาร์ในปี 2023 และอาจไปได้ไกลกว่า 3 ดอลลาร์ฯ ภายในเวลา 5 ปีนับจากนี้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดคริปโทฯ อันผันผวน หากคุณไม่ค่อยมั่นใจในอนาคตเหรียญ Ripple การใช้กลยุทธ์เทรดคริปโตระยะสั้น ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีท่ามกลางความไม่แน่นอน ที่สำคัญ เราแนะนำให้คุณหมั่นติดตามข่าวสาร ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ และวางแผนการลงทุนอย่างรัดกุม เพื่อให้พอร์ตการลงทุนของคุณเติบโตอย่างมั่นคง
เทรด Ripple ได้อย่างมั่นใจที่ Bitkub
ไม่ว่าอนาคตเหรียญ Ripple จะเป็นอย่างไร คุณก็สามารถซื้อขายเหรียญ Ripple และเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจที่กระดานเทรดของ Bitkub เพราะเราคือแพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีอันดับ 1 ของไทย ที่มีความปลอดภัยและทำงานได้เสถียรตลอด 24 ชั่วโมง
ศึกษาเรื่อง บิทคอยน์ (Bitcoin), Cryptocurrency และความรู้อีกมากมายในวงการคริปโต กับ Bitkub Exchange ได้ที่ Bitkub Blog
* คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
** สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
*** ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
===================
What is the future of Ripple Coin (XRP)?
The cryptocurrency market has been in a downturn since the end of 2021. The future of Ripple Coin (XRP) itself is still unclear in which direction it will go. Causing many investors who pour money into Ripple still wondering. Whether you are a new investor or an experienced investor. We also want you to try to understand this coin and see if it’s actually still worth it?
The origins of Ripple
Ripple was founded in 2012 by Chris Larsen and Jed McCaleb as OpenCoin, later renamed Ripple Labs Inc. in 2013. Its aim is to create a decentralized protocol for international online transfers and payments to raise the standard of traditional financial transactions in the world that are slow, high fees, and full of difficult steps to work more efficiently.
The core of Ripple is the use of a fast, in-house developed payment and money transfer network called RippleNet. International transactions can be confirmed in seconds instead of the previously 3–5 days. This is considered an important pain point for international transactions. There are also low fees. Reduce the use of confirmation documents and complicated operational procedures. But it is still safe and works stably. Ripple uses its own crypto coins named “XRP” which acts as an intermediary for payments and conversions on the RippleNet platform.
The difference between Ripple and Bitcoin is that Ripple doesn’t want to change the way people pay crypto instead of cash and reduce the role of financial institutions like Satoshi Nakamoto, the creator of Bitcoin, but Ripple wants to become a better payment intermediary and supports all currencies in the world in collaboration with financial institutions
That’s not all, Ripple is also adding functions for e-commerce to cater to SMEs. Ripple wants to partner with financial institutions and create a viable solution for commercial use.
Therefore, it is not surprising that Ripple’s business has grown exponentially along with the popularity of cryptocurrencies that have been famous around the world since 2013, Ripple has started to have clients who are financial institutions from many countries around the world use the service and have many business partners to invest. Whether it is a giant bank like Bank of America, Santander, Siam Commercial Bank, or Krungsri Bank. to payment platforms such as Azimo, Novatti, SBI Remit, etc. Ripple now has the largest market in the Asia-Pacific region and continues to grow.
Why is the Ripple price so volatile?
The function that dares to raise the world’s payment standards is a key strength that makes the future of Ripple very bright, and after many years of launching it has earned the trust of leading financial institutions. The price of XRP which is crypto coins for use on the platform, it skyrocketed at the start of 2018, hitting an all-time high of $3.84.
However, after the rally, the price of XRP did not last very long and dropped below $1 within a few months in a bearish crypto market situation.
Later in December 2020, the US SEC filed a lawsuit against Ripple, accusing XRP of being an unregistered security. This led to a heated and protracted court battle. Since then, the price of XRP has fluctuated wildly amid the influence of the crypto market. The bull run in the first half of 2021 resulted in the price of XRP surging nearly $2, before returning to a bearish rally to less than $1 from the beginning of 2022 to date.
What Factors affect Ripple?
Let’s take a look at what factors affect Ripple’s price you should keep a close eye on. to find suitable investment guidelines.
Internal factors
Litigation, the most important factor affecting the future of Ripple coin that traders are watching right now is the lawsuit brought by the US SEC. Experts estimate that Ripple has the upper hand in this case.
However, we still have to wait for the official decision. If a verdict comes out of court, Ripple wins or loses the case. It will definitely affect the price of XRP.
New Features, As usual, Whenever crypto coins have got an important update, announced the release of new features, or have a large company joining to invest. It will build confidence for investors. A positive trend can cause the coin price to rise in a short period of time. If Ripple has any movements related to this, investors are ready to make profits.
In the past, Ripple has had many announcements about joint ventures from leading organizations. As a result, both large and small investors still believe in the future of Ripple and hold on to the coin firmly. Even if there is a case still to be settled.
External factors
BTC Price, One of the factors that always affects Altcoins is the price of Bitcoin and the overall situation of the crypto market. Whenever there is good news that causes BTC to surge, XRP and other altcoins on the exchanges have a chance to follow.
Global Economy, Global economic conditions also influence the XRP price, especially the policy movement of the FED and the US SEC that almost always affect the XRP price, as well as important financial news from the European Union and powerful countries like China. It can affect more or less.
Politics and society, News of political movements like the Russian-Ukrainian war, and news of the spread of the COVID-19 virus. It has shown us that in the midst of that fear, it will be easy for crypto prices to fall when there is an important event, and XRP will inevitably be affected.
Future Trends of Ripple
Although there is a lawsuit that is a major obstacle. And still, no one can confirm whether Ripple will win this case or not. Plus the bearish state of the crypto market causes the price of Ripple continues to decline. But if you look at it objectively, Ripple’s price is not that bad. Because it has not fallen below the important support at 0.3 dollars, which can stand for a long time for many years, if the price does not break through this support Investors should be able to feel at ease to some extent.
If you have confidence that the future of Ripple coin will be able to overcome all the crises during this time. If you want to hold the coin for a long time, then Ripple is still considered a coin with good fundamentals. Accepted by investors and financial institutions It has been implemented in large businesses around the world. Therefore, it is considered to have the potential to grow further. And there is a chance to profit many times when the market turns up again.
Plenty of experts predict that the price of Ripple has the potential to reach $1.2 in 2023 and possibly go beyond $3 within the next 5 years. However, these are just estimated only. No one knows what will happen to the volatile crypto market.
If you are unsure of the future of Ripple, using a short-term crypto trading strategy is still a good option in the midst of uncertainty. Always seek knowledge and carefully plan investments so that your investment portfolio grows steadily.
Trade Ripple with Confidence at Bitkub
No matter what the future of Ripple coin looks like. You can confidently trade Ripple and other attractive cryptocurrencies at Bitkub trading platform because we are Thailand’s №1 cryptocurrency trading platform that is safe and secure. Work stably for 24 hours.
- Read more articles, news, and interesting knowledge about the crypto industry on the Bitkub Blog
Disclaimers:
*Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
**Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile.
***Returns/Past Performance does not guarantee future returns/performance.