บทความ

ภาษีคริปโตในแต่ละประเทศแตกต่างกันอย่างไร?

รู้จัก Worldcoin (WLD) โทเคนแนวคิดสุดล้ำจากผู้ก่อตั้ง OpenAI

io.net (IO) คืออะไร io.net เป็นเครือข่าย GPU แบบ Decentralized ที่ใหญ่ที่สุด ช่วยเหลือวิศวกรด้าน Machine Learning และแอปพลิเคชัน AI ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Solana ช่วยให้สามารถสร้างรายได้จาก พลังการประมวลผล GPU จากทั่วโลกที่ไม่ได้ใช้งานเข้าด้วยกันด้วยจำนวนที่มีรวบกันมากกว่า 1 ล้านตัว ที่มีความหน่วงต่ำสำหรับให้ผู้ใช้งานทั่วไป จากหลากหลายแหล่งเช่น จากศูนย์ข้อมูลอิสระ แหล่งขุดคริปโทเคอร์เรนซี โครงการของ Filecoin และ Render การพัฒนา io.net เป็นแนวทางการพัฒนาที่เข้ามาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทาย ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เกี่ยวกับ Machine Learning และการพัฒนาโมเดล AI เพื่อลดอุปสรรคของโครงการ โดยการลดขึ้นตอนการระดมทุนเองและโครงการที่ตั้งอยู่ในบางภูมิภาค โดยความท้าทายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเข้าถึง ความปลอดภัย และต้นทุนราคา การมาของ io.net จึงลดอุปสรรคสำหรับ GPU suppliers และการเข้าใช้ช่องทาง GPU จากบริษัทต่างๆ จึงทำให้ลดต้นทุนการดำเนินการและยังอำนวยความสะดวกในการจัดหา GPU io.net มีผลิตภัณฑ์หลักทั้งหมด 6 ประการที่เป็นหัวใจของแพลตฟอร์ม: — IO Cloud : ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับใช้และจัดการความต้องการ GPU ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากร GPU ได้โดยไม่ต้องลงทุนด้านฮาร์ดแวร์และจัดการโครงสร้างพื้นฐานราคาแพง ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายโหนดแบบกระจายอำนาจที่เรียกว่า IO Workers — IO Worker : เว็บแอปพลิเคชันที่ช่วยให้บุคคลต่างๆ สามารถเช่าอุปกรณ์เพื่อเพิ่มพลังการประมวลผลได้ โดยการเข้าร่วมเครือข่าย IO ทำให้บุคคลต่างๆ สามารถสร้างผลกำไรได้มากมายจากการให้เช่าทรัพยากรการประมวลผล GPU/CPU ที่ไม่ได้ใช้งานอย่างเต็มที่ — IO Explorer : ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดูเครือข่าย io.net ได้อย่างครอบคลุม พร้อมสถิติโดยละเอียดและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ GPU cloud เพื่อมอบความโปร่งใส ซึ่งคล้ายกับเครื่องมือสำรวจบล็อกเชนสำหรับธุรกรรมบล็อคเชน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และทำความเข้าใจกิจกรรมของเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์ — IO Coin : เป็น native coin ของเครือข่าย IOG Network งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่า GPU เจ้าของ GPU และผู้ถือ IO Coin ในการสร้างแรงจูงใจบนระบบนิเวศ ผู้ใช้สามารถชำระค่าบริการภายในระบบนิเวศ io.net โดยใช้โทเคน IO — IO ID : ทำหน้าที่เป็นศูนย์ควบคุมส่วนกลางสำหรับการติดตามรายรับและรายจ่ายภายในระบบนิเวศ io.net ผู้ใช้สามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือและถอนรายรับเป็นสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย — IOG — The Internet Of GPUs : แพลตฟอร์มด้วยการแนะนำการปรับแต่ง ช่วยลดความซับซ้อนในการกระจายแอปพลิเคชัน AI ช่วยให้ปรับขนาด AI ขั้นสูงได้ ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนา io.net ทีมงาน io.net ได้รับแรงบันดาลใจในการพัฒนาแหล่งทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่มีราคาถูกกว่าและเข้าถึงได้มากขึ้นจากราคา GPU ประมวลของ NVIDIA ที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะหน่วยประมวลผล High-Frequency Trading (HFT) algorithm ที่ใช้กับ Ray.io ในเวลาต่อทีมนักพัฒนาได้เปลี่ยนชื่อจาก Antbit เป็น io.net และเปลี่ยนผ่านจากการพัฒนาระบบการซื้อขายเชิงปริมาณระดับสถาบันไปเป็นการพัฒนาตลาดแบบกระจายอำนาจสำหรับทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่เน้นไปที่การพัฒนา Machine Learning และ AI io.net ก่อตั้งและนำโดย Ahmad Shadid อดีตวิศวกร ที่ WhalesTrader และ Arabfolio และผู้สนับสนุนอาสาสมัครที่ Ethereum Foundation และมี Tory Green ผู้ก่อตั้งร่วมและอดีต COO ได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำหลังจากที่ Ahmad ลาออกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2024 สมาชิกของทีมโครงการ ได้แก่: Tory Green, Co-founder & CEO: สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Io.net และอดีตซีโอโอของ Tiller Partners และ HUM Capital Basem Oubah, Co-founder & COS: สำเร็จการศึกษาสาขาวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Yildiz Teknik ปี 2022 เขาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของ io.net Gaurav Sharma, CTO: เคยดำรงตำแหน่งที่ Binance, Agoda, Amazon และ eBay ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคนิคที่ io.net IO โทเคนคืออะไร? IO เป็น Native Token ของ IOG Network เพื่อสนับสนุนการทำงานของระบบนิเวศและอำนวยความสะดวกในการตอบโต้ระหว่างผู้เช่าแล้วผู้ให้เช่า GPU ตัวอย่าง — ผู้เช่า GPU (user) : สำหรับนักพัฒนาจะต้องใช้โทเคน IO เพื่อเช่าพลังประมวลผล GPU สำหรับงานต่างๆ เช่น การพัฒนาโปรแกรม การสร้างแอปพลิเคชัน การรัน instances เกมบนคลาวด์ — เจ้าของ GPU (Suppliers) : เจ้าของ GPU อย่าง ศูนย์ข้อมูล แหล่งขุดคริปโทเคอร์เรนซี ที่มีพลัง GPU ไม่ได้ใช้งานของเข้าสามารถเปิดใช้งานกับเครือข่าย io.net ได้ โดยพวกเขาจะได้รับโทเคน IO จากการให้พลังประมวลผล — ผู้ถือโทเคน IO (Community) : สำหรับผู้สนับสนุนที่มีการ staking โทเคน IO เพื่อรักษาความปลอดภัยเครือข่าย สามารถรับรางวัลและเป็นแนวทางการสร้างแรงจูงใจ ให้สอดคล้องกันทั่วทั้งระบบนิเวศเพื่อการเติบโตและการนำไปใช้อย่างยั่งยืน — ระบบการจ่ายเงินแบบสากล : ระบบการชำระเงินของ IOG Network มีพื้นฐานมาจากการใช้โทเคน IO แม้ว่าผู้ใช้สามารถชำระเงินเป็นสกุลเงินทั่วไป (เช่น USD) USDC หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่รองรับ แต่การชำระเงินทั้งหมดจะถูกแปลงเป็น IO โดยอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรมและหลีกเลี่ยงปัญหาแบบเดิมๆ IO Tokenomics และการจัดสรรโทเคน โทเคน IO มีอุปทานทั้งหมดที่จำกัดไว้ที่ 800 ล้านเหรียญ สามารถแบ่งออกเป็น — 500 ล้าน IO จะถูกแจกจ่ายเมื่อเปิดตัว — 300 ล้าน IO ที่เหลือจะถูกแจกจ่ายเป็นรางวัลรายชั่วโมงให้กับ Supplier และ Staker ของพวกเขาในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีระยะเวลาการดำเนินการทั้งหมด 20 ปี แผนภูมิด้านล่างนี้แสดงรายละเอียดอัตราการปล่อยโทเคน อัตราเงินเฟ้อรายปี และการกระจายของเหรียญที่ปล่อยออกมาเมื่อเทียบกับเหรียญที่เหลืออยู่ โดยช่วงเริ่มเต้นมีอัตราเงินเฟ้อที่ 8% ต่อปีในปีที่ 1 และลดลง 1.02% ต่อเดือน (~12% ต่อปี) จนกว่าจะถึงเพดาน 800 ล้านเหรียญ การจัดสรรโทเคน IO อุปทานเริ่มต้นของ IO ถูกตั้งไว้ที่ 500,000,000 โทเคน มีทั้งหมด 5 หมวดหมู่: Pro Forma Allocation — ที่มา : io.net Docs — Seed Investors — 12.50% สำหรับผู้สนับสนุน io.net ในช่วงแรก — Series A Investors — 10.20% สำหรับผู้สนับสนุนและระดมทุน io.net ในช่วงแรก — Core Contributors — 11.30% สำหรับสมาชิก และผู้สนับสนุนหลักรายแรกของ IOG network — Research & Development — 16.00% IO จัดสรรให้กับ IOG Foundation และนักพัฒนาหลักสำหรับการวิจัย พัฒนา และริเริ่มระบบนิเวศ — Ecosystem and Community — 50.00% เป็นการจัดสรรที่ประกอบด้วย airdrop ครั้งแรก สิ่งจูงใจในอนาคจ และรางวัลสำหรับผู้ดำเนินการ Node ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ IO ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025 เหรียญ IO มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 118,181,531.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3,827,282,399.21 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ โทเคน IO ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 0.7128 ดอลลาร์ หรือประมาณ 23.23 บาทต่อ 1 IO โดย IO เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 6.44 ดอลลาร์ หรือประมาณ 209.85 บาท ต่อ 1 IO เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2024 อ้างอิง: io.net Docs, CoinMarketCap, Coingecko — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Unlock GPU Earnings: IO.net (IO) on Solana Revolutionizes Idle Processing Power What is io.net (IO)? io.net is the largest decentralized GPU network, supporting Machine Learning engineers and AI applications built on the Solana blockchain. It enables monetization of unused GPU processing power from around the world, aggregating over 1 million GPUs with low latency for users from various sources such as independent data centers, cryptocurrency mining, Filecoin, and Render projects. The development of io.net addresses the challenges of Machine Learning software and AI model development. It aims to reduce project obstacles by simplifying fundraising and supporting projects located in specific regions. These challenges relate to accessibility, security, and cost. The arrival of io.net reduces barriers for GPU suppliers and companies accessing GPUs, thus reducing operating costs and facilitating GPU procurement. io.net has 6 core products at the heart of its platform: — IO Cloud: Allows users to deploy and manage GPU needs, providing access to GPU resources without investing in expensive hardware and infrastructure management. This is achieved by leveraging a decentralized network of nodes called IO Workers. — IO Worker: A web application that enables individuals to rent out their devices to increase processing power. Individuals can generate profits by leasing their underutilized GPU/CPU processing resources by joining the IO network. — IO Explorer: This app provides users with a comprehensive view of the io.net network, including detailed statistics and insights into the GPU cloud for transparency. Similar to blockchain explorers, it allows users to monitor, analyze, and understand network activity in real time. — IO Coin: The native coin of the IOG Network, facilitating transactions between GPU renters, GPU owners, and IO Coin holders to incentivize the ecosystem. Users can pay for services within the io.net ecosystem using IO tokens. — IO ID: Acts as a central control hub for tracking income and expenses within the io.net ecosystem. Users can easily monitor balances and withdraw earnings in digital currency. — IOG — The Internet Of GPUs: A platform that simplifies the distribution of AI applications by introducing customization. This allows for the scaling of advanced AI. The People Behind io.net The io.net team was inspired to develop a more affordable and accessible computer resource due to the rising prices of NVIDIA GPUs, particularly those used for High-Frequency Trading (HFT) algorithms with Ray.io. Subsequently, the development team changed their name from Antbit to io.net and transitioned from developing institutional-grade quantitative trading systems to developing a decentralized marketplace for computer resources focused on Machine Learning and AI development. io.net was founded and led by Ahmad Shadid, a former engineer at WhalesTrader and Arabfolio, and a volunteer contributor at the Ethereum Foundation. Co-founder and former COO, Tory Green, assumed leadership after Ahmad resigned on June 11, 2024. Members of the project team include: — Tory Green, Co-founder & CEO: A Stanford University graduate, currently the CEO of io.net, and former COO of Tiller Partners and HUM Capital. — Basem Oubah, Co-founder & COS: Graduated with an engineering degree from Yildiz Teknik University in 2022. He is the Chief of Staff at io.net. — Gaurav Sharma, CTO: Held positions at Binance, Agoda, Amazon, and eBay. He currently serves as the Chief Technology Officer at io.net. What is the IO Token? IO is the native token of the IOG Network. It supports the functioning of the ecosystem and facilitates interactions between those renting and those leasing GPU power. For example: — GPU Renters (Users): Developers need IO tokens to rent GPU processing power for tasks like software development, application creation, and running cloud gaming instances. — GPU Owners (Suppliers): GPU owners, such as data centers and cryptocurrency miners with idle GPU capacity, can activate it on the io.net network. They receive IO tokens in exchange for providing processing power. — IO Token Holders (Community): Supporters who stake IO tokens to secure the network can earn rewards. This incentivization mechanism fosters growth and sustainable adoption across the ecosystem. — Universal Payment System: The IOG Network’s payment system is based on the IO token. While users can pay in fiat currencies (like USD), USDC, or other supported cryptocurrencies, all payments are automatically converted to IO. This simplifies transactions and avoids traditional issues. IO Tokenomics and Token Allocation The IO token has a total limited supply of 800 million tokens. This can be broken down as follows: — 500 million IO will be distributed at launch. — 300 million IO will be distributed as hourly rewards to Suppliers and their Stakers over time, with a total vesting period of 20 years. The chart below details the token release rate, annual inflation rate, and distribution of released coins compared to remaining coins. The initial phase has an inflation rate of 8% per year in year 1, decreasing by 1.02% per month (~12% per year) until the 800 million token cap is reached. IO Token Allocation The initial supply of IO is set at 500,000,000 tokens. There are 5 allocation categories: Pro Forma Allocation — Source: io.net Docs — Seed Investors — 12.50%: For early backers of io.net. — Series A Investors — 10.20%: For those who supported and funded io.net in its initial stages. — Core Contributors — 11.30%: For the initial members and key contributors of the IOG network. — Research & Development — 16.00%: IO allocated to the IOG Foundation and core developers for research, development, and ecosystem initiatives. — Ecosystem and Community — 50.00%: This allocation comprises the initial airdrop, future incentives, and rewards for node operators. Interesting Price Information for IO According to data from CoinMarketCap as of June 18, 2025, the IO token has a market capitalization of $118,181,531.15, equivalent to approximately 3,827,282,399.21 THB. At the time of writing this article, the IO token is trading at around $0.7128 or approximately 23.23 THB per IO. The token previously reached its all-time high (ATH) of $6.44 or approximately 209.85 THB per IO on June 13, 2024. Source: io.net Docs, CoinMarketCap, Coingecko — — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: -Digital assets involve risks; investors should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns do not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — — IO.net (IO) บนเครือข่าย Solana ช่วยให้คุณสร้างรายได้จากการประมวลผล GPU ที่ไม่ได้ใช้งาน was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Bitkub ประกาศความร่วมมือ IOST มุ่งส่งเสริมความรู้ RWAs และ Tokenization…

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ ในการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนทุน (Capital Gains) จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ Cryptocurrency, Investment Token และ Utility Token โดยกำไรที่ได้รับจากการขายสินทรัพย์เหล่านี้จะไม่ถูกนำไปคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 ได้แก่ Exchange, Broker หรือ Dealer โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568–31 ธ.ค. 2572 เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นตามมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Hub) ของโลก อ้างอิงตามข่าวกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 74/2568 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในฐานะผู้ให้บริการ “บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์” ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง ประกาศความพร้อมให้บริการนักลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างถูกต้องและปลอดภาษีได้ที่ “บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์” หรือแอปฯ Bitkub นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า “ผมขอขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงการคลังที่รับฟังเสียงของตัวแทนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสําหรับ Capital Gains จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลในครั้งนี้นับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่สำคัญในการส่งเสริมการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้นและผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับภูมิภาค” คำเตือน คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เทรดคริปโทฯ ไม่เสียภาษีที่ “บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์” (เริ่ม 1 ม.ค. 2568–31 ธ.ค. 2572) was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

กิจกรรม ฉลอง 7 ปี บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์ มาร่วมแชร์ 7 สิ่งประทับใจกับ บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์

ข่าวรายสัปดาห์ 7–13 มิ.ย. 68: ยูเครนพิจารณา BTC เป็นเงินสำรอง | ปริมาณ Spot Bitcoin ต่ำสุดในรอบ 4 ปี | SEC สหรัฐฯ เตรียมเร่งอนุมัติ Solana ETF ประเทศยูเครนกำลังพิจารณาเพิ่ม Bitcoin เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของธนาคารกลาง แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจะแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากความผันผวนของราคาคริปโตเคอร์เรนซี ด้านความเคลื่อนไหวของตลาด ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin แบบ Spot ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการถือครองสินทรัพย์ระยะยาว (HODLing) ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า SEC สหรัฐฯกำลังเร่งรัดกระบวนการอนุมัติกองทุน Solana ETF โดยคาดว่าจะมีการตัดสินใจภายใน 5 สัปดาห์ข้างหน้า ในด้าน Stablecoin USDC ของ Circle ได้ผนวกรวมเข้ากับ Worldcoin เพื่ออำนวยความสะดวกในการชำระเงินทั่วโลก, Ethereum Foundation ได้เปิดตัวโครงการริเริ่ม “1TS” เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของเครือข่าย และ Ripple ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Ondo Finance เพื่อนำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในรูปแบบโทเคน (Tokenized U.S. Treasuries) มาสู่ XRP Ledger ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงโลกการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น — — — — — — — — — — รัฐบาลยูเครนพิจารณาให้ Bitcoin เป็นเงินสำรองท่ามกลางคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ยูเครนกำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการเพิ่ม Bitcoin เข้าไปในทุนสำรองของธนาคารกลาง ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวในการสร้างความหลากหลายสำหรับสินทรัพย์ในประเทศ และส่งเสริมชื่อเสียงที่เป็นมิตรต่อคริปโต ขณะที่ธนาคารแห่งชาติยูเครนและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติกำลังพัฒนากรอบการกำกับดูแลสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินได้ออกมาเตือน โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคา Bitcoin และความจำเป็นในการมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ยูเครนจัดตั้งสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนและครอบคลุมก่อนที่จะนำ Bitcoin เข้าเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองของประเทศ โดยเสนอแนะให้ใช้แนวทางที่รอบคอบมากขึ้นในการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในระดับรัฐ ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin แบบ Spot ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ที่เกิดพร้อมกับกระแสการถือ Bitcoin ในระยะยาว (HODLing) ปริมาณการซื้อขาย Bitcoin แบบ Spot ได้ลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งของนักลงทุนที่ถือครองสินทรัพย์ของตนไว้ หรือที่รู้จักกันในกลยุทธ์ “HODLing” ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นว่า moving average แบบ 7 วันสำหรับปริมาณการซื้อขายแบบ Spot ลดลงเหลือ 3,600 ล้าน ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 การลดลงของกิจกรรมการซื้อขายนี้ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนระยะยาวมุ่งเน้นไปที่การสะสม Bitcoin มากกว่าการซื้อขายระยะสั้น ทั้งนี้พฤติกรรมของตลาดในปัจจุบันซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือปริมาณการซื้อขายที่ต่ำนั้น มักจะตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของราคาอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้อุปทานหมุนเวียนของ Bitcoin ส่วนใหญ่ยังคงนิ่งอยู่เป็นเวลานานกว่าหน่ึงปี ซึ่งยิ่งตอกย้ำความรู้สึกในการถือครองเหรียญในระยะยาว ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — SEC สหรัฐฯ เริ่มกระบวนการอนุมัติ Solana ETF อย่างเร่งด่วนคาดว่าจะมีการตัดสินใจใน 5 สัปดาห์ มีรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) กำลังเร่งกระบวนการอนุมัติ Solana ETF แหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า SEC ได้มีการหารืออย่างจริงจังกับผู้จัดการสินทรัพย์เกี่ยวกับ Solana ETF โดยคาดว่าจะมีการตัดสินใจในอีก 5 สัปดาห์ข้างหน้า การได้รับอนุมัติที่จะมาถึงนี้เป็นสัญญาณของการยอมรับผลิตภัณฑ์การลงทุนที่อิงกับคริปโตที่เพิ่มขึ้นโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ การอนุมัติ Solana ETF จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับระบบนิเวศของ Solana โดยจะช่วยให้นักลงทุนมีช่องทางที่ได้รับการควบคุมและเข้าถึงได้ง่ายเพื่อรับผลตอบแทนจากประสิทธิภาพของ SOL ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — Stablecoin USDC ของ Circle ร่วมมือกับ Worldcoin มุ่งเน้นการชำระเงินทั่วโลก Stablecoin USDC ของ Circle ได้ร่วมมือกับ โครงการ Worldcoin ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มด้านสกุลเงินดิจิทัลที่ร่วมก่อตั้งโดย Sam Altman การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ผู้ใช้ World App ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินของ Worldcoin สามารถถือและทำธุรกรรมด้วย USDC ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ชั้นนำที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินและความมีเสถียรภาพ โดยเฉพาะในภูมิภาคที่มีสกุลเงินท้องถิ่นผันผวน การผสานรวม USDC จะทำให้ผู้ใช้ Worldcoin สามารถเข้าถึงแหล่งเก็บมูลค่าที่เชื่อถือได้และโซลูชันต้นทุนต่ำสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดน ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับทั้ง Circle และ Worldcoin โดยเป็นการรวมเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเข้ากับเครือข่ายข้อมูลระบุตัวตนและการเงินระดับโลกที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ที่มา : The Block — — — — — — — — — — Ethereum Foundation เปิดตัว ‘1TS’ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย Ethereum Foundation ได้เปิดเผยเอกสาร “1TS” (1-touch, 1-second, 1-slot) ฉบับแรก ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงความปลอดภัยของเครือข่าย Ethereum โดยโครงการ 1TS ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่สำคัญ รวมถึง Maximal Extractable Value (MEV), การดักทำธุรกรรม (front-running) และช่องโหว่อื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ แนวทางการแก้ไขที่เสนอรวมถึงการนำกลไกการดักจับ MEV ที่ฝังอยู่ในระบบ, การปรับปรุงกลไกการจัดลำดับธุรกรรม และการยกระดับมาตรฐานของ Smart Contract เป้าหมายหลักของแผนงาน 1TS คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเท่าเทียมกันมากขึ้นสำหรับผู้มีส่วนร่วมทุกคนในระบบนิเวศของ Ethereum เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความสมบูรณ์ของเครือข่ายในระยะยาว ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — Ripple และ Ondo Finance ร่วมมือกันทำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในรูปแบบโทเคนบน XRP Ledger Ripple ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Ondo Finance เพื่อนำพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในรูปแบบโทเคน ของ Ondo มาสู่ XRP Ledger ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายการใช้สินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง (Real-World Assets — RWAs) บน XRP Ledger ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับสถาบันได้ โดย USDY ของ Ondo Finance ซึ่งเป็นโทเคนที่ได้รับการค้ำประกันโดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น จะพร้อมใช้งานบน XRP Ledger ซึ่งจะเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ใช้ การผสานรวมนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มฟังก์ชันการทำงานของ XRP Ledger โดยช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันทางการเงินใหม่ๆ ที่ใช้ประโยชน์จาก RWA ในรูปแบบโทเค็น ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มา : CryptoSlate — — — — — — — — — — คำเตือน: -คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ -ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย — — — — — — — — — — — — — — — — — Weekly News (7–13 June 2025): Ukraine considers adding BTC to National Reserves | Bitcoin Trading Volume Falls To A 4-Year Low | Ukraine is considering adding Bitcoin to its central bank reserves, although financial experts advise caution due to the cryptocurrency’s volatility. In market news, Bitcoin’s spot trading volume has hit a four-year low, suggesting a strong “HODLing” sentiment among investors. Meanwhile, the U.S. SEC is reportedly fast-tracking the approval of Solana-based ETFs, with a decision anticipated within five weeks. On the development front, Circle’s USDC stablecoin has integrated with Worldcoin to facilitate global payments, the Ethereum Foundation has introduced a “1TS” initiative to bolster network security, and Ripple has partnered with Ondo Finance to bring tokenized U.S. Treasuries to the XRP Ledger, further bridging traditional finance with the digital asset world. — — — — — — — — — — Ukraine Considers Bitcoin for Reserves Amidst Expert Warnings Ukraine is exploring the possibility of adding Bitcoin to its central bank reserves, a move aimed at diversifying national assets and fostering a crypto-friendly reputation. The National Bank of Ukraine and the National Securities and Stock Market Commission are currently developing a regulatory framework for digital assets. However, financial experts are urging caution, citing the significant risks associated with Bitcoin’s price volatility and the need for robust security measures to prevent cyber threats. They recommend that Ukraine establish a clear and comprehensive regulatory environment before integrating Bitcoin into its national reserves, suggesting a more measured approach to adopting cryptocurrencies at the state level. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Bitcoin Spot Trading Volume Declines to Four-Year Low Amidst HODLing Trend Bitcoin’s spot trading volume has fallen to its lowest point in four years, signaling a strong trend of investors holding onto their assets, a strategy commonly known as “HODLing.” Recent data reveals that the seven-day moving average for spot trading volume has decreased to $3.6 billion, a level not seen since December 2020. This decline in trading activity suggests that long-term investors are more focused on accumulating Bitcoin rather than engaging in short-term trades. The current market behavior, characterized by low trading volumes, has historically been followed by significant price rallies. A large portion of Bitcoin’s circulating supply has remained dormant for over a year, further reinforcing the prevailing HODLing sentiment in the market. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Solana ETFs on Fast Track for SEC Approval, Decision Expected in 5 Weeks The U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) is reportedly accelerating the approval process for Solana-based exchange-traded funds (ETFs). Sources close to the matter indicate that the SEC has been in active discussions with asset managers regarding Solana ETFs, with a potential decision expected within the next five weeks. This move comes after the recent approval of spot Bitcoin and Ethereum ETFs, signaling a growing acceptance of crypto-based investment products by U.S. regulators. The approval of Solana ETFs would be a significant milestone for the Solana ecosystem, offering investors a regulated and easily accessible way to gain exposure to SOL’s performance. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Circle’s USDC Stablecoin Integrates with Worldcoin for Global Payments Circle’s USDC stablecoin has been integrated into the Worldcoin project, a cryptocurrency initiative co-founded by Sam Altman. This partnership will enable users of the World App, Worldcoin’s native wallet, to hold and transact with USDC, a leading stablecoin pegged to the U.S. dollar. The collaboration aims to promote financial inclusion and stability, particularly in regions with volatile local currencies. By integrating USDC, Worldcoin users will have access to a reliable store of value and a low-cost solution for cross-border payments. This move represents a significant step for both Circle and Worldcoin, combining a widely adopted stablecoin with a rapidly expanding global identity and financial network. Source: The Block — — — — — — — — — — Ethereum Foundation Unveils ‘1TS’ to Enhance Network Security The Ethereum Foundation has released its first “1TS” (1-touch, 1-second, 1-slot) document, which details a new roadmap aimed at improving the security of the Ethereum network. The 1TS initiative is designed to address critical security challenges, including Maximal Extractable Value (MEV), front-running, and other vulnerabilities that can impact users. The proposed solutions include the implementation of enshrined MEV capture, improved transaction ordering mechanisms, and enhanced smart contract standards. The primary goal of the 1TS roadmap is to create a more secure and equitable environment for all participants in the Ethereum ecosystem, ensuring the long-term sustainability and integrity of the network. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Ripple and Ondo Finance Partner to Bring Tokenized US Treasuries to XRP Ledger Ripple has announced a strategic partnership with Ondo Finance to introduce Ondo’s tokenized U.S. Treasuries to the XRP Ledger. This collaboration is set to expand the use of real-world assets (RWAs) on the XRP Ledger, offering users access to institutional-grade financial products. Ondo Finance’s USDY, a tokenized note backed by short-term U.S. Treasuries, will now be available on the XRP Ledger, providing a stable, yield-generating asset for users. This integration is expected to enhance the functionality of the XRP Ledger by allowing developers to create new financial applications that leverage tokenized RWAs, marking a significant step in bridging traditional finance with the digital asset ecosystem. Source: CryptoSlate — — — — — — — — — — Disclaimer: - Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. -Past Returns does not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย ข่าวรายสัปดาห์ 7–13 มิถุนา: ยูเครนพิจารณา BTC เป็นเงินสำรอง | ปริมาณ Spot Bitcoin ต่ำสุดในรอบ 4 ปี was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

ทำไมต้องเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้? ตอนที่ 4 : จุดเด่นของคริปโตที่มือใหม่ควรรู้ คริปโทเคอร์เรนซี คืออะไร? คริปโทเคอร์เรนซี หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า “คริปโต” คือ สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) ซึ่งเป็นสกุลเงินดจิทัลที่จะแตกต่างกับสกุลเงินธรรมดา เพราะจะใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน (Blockchain) ในการบันทึกและตรวจสอบธุรกรรม โดยไม่มีตัวกลางอย่างธนาคารหรือรัฐบาลควบคุม ยกตัวอย่างคริปโทเคอร์เรนซีที่รู้จักกันดี คือ Bitcoin (BTC) ที่เป็นสกุลดิจิทัลที่มูลค่าตามราคาตลาดเป็นอันดับหนึ่ง หรือ Ethereum (ETH) ที่มีมีระบบSmart Contract ที่ใช้สร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApp) จุดเด่นคริปโทเคอร์เรนซีมีอะไรบ้าง? 1. กระจายศูนย์ (Decentralized) คริปโทเคอร์เรนซีเป็นระบบการเงินที่ทำงานแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ซึ่งจะแตกต่างจากระบบการเงินแบบธรรมดาโดยที่ต้องพึ่งพาตัวกลาง เช่น ธนาคารกลางหรือหน่วยงานรัฐในการควบคุมธุรกรรมหรือจัดการอัตราแลกเปลี่ยน โดยคริปโตจะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถให้ทุกคนมาตรวจสอบและบันทึกข้อมูลได้โดยไร้ตัวกลาง ซึ่งการไร้ศูนย์กลางของคริปโทเคอร์เรนซีส่งผลให้หน่วยรัฐหรือบริษัทใหญ่ลด อํานาจในการควบคุม และทําให้ผู้ใช้งานสามารถมีอิสระทางการเงิน 2. ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ (Transparency & Immutability) ธุรกรรมทั้งหมดในระบบคริปโต เช่น Bitcoin หรือ Ethereum จะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชนสาธารณะ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ และตรวจเช็คย้อนหลังได้ตลอดเวลา ซึ่งการที่ข้อมูลจะมีลักษณะ ‘Immutable” หรือไม่สามรถถูกลบหรือแก้ไขได้ นี่จึงทําให้เกิดความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในระบบอย่างมาก 3. ความปลอดภัย High-Level Security) การทําธุรกรรมในระบบคริปโตถือว่าปลอดภัย เพราะต้องเข้ารหัสด้วยเทคโนโลยี Cryptography ที่ซับซ้อน ซึ่งจะป้องกันการปลอมแปลงและการแฮ็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เครือข่ายยังทำงานร่วมกันผ่านกลไก Consensus เช่น Proof of Work หรือ Proof of Stake ซึ่งจะช่วยในการเพื่มข้อมลในระบบได้อย่างปลอดภัยเพราะต้องได้รับอนุมัติจากเครือข่ายก่อน 4. ความเร็วในการธุรกรรมและค่าธรรมเนียมตํ่า (Fast and Cost-Efficient Transfers) การทําธุรกรรมผ่านเครือข่ายคริปโตนั้นรวดเร็วมาก โดยเฉพาะในการทําธุรกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งจะแตกต่างจากธนาคารการเงินแบบดั้งเดิมที่อาจต้องใช้เวลาในการทําธุรกรรม และมีค่าธรรมเนียมที่ตํ่ากว่าอย่างชัดเจน ส่งผลให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและประหยัด 5. การเข้าถึงทางการเงินที่ครอบคลุม (Financial Inclusion) คริปโทเคอร์เรนซี มอบโอกาสให้ทุกคนสามารถมีความอิสระทางการเงินโดยไม่ต้องเปิดบัญชี เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตและกระเป๋าเงินดิจิทัล (Crypto Wallet) นักลงทุนก็สามารถ ซื้อ ขาย หรือถือครองคริปโทเคอร์เรนซีได้แล้ว ซึ่งเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้คนในพื้นที่ห่างไกลหรือประเทศที่ระบบธนาคารยังเข้าไม่ถึง 6. ผู้ใช้สามารถควบคุมสินทรัพย์ได้ด้วยตนเอง (Ownership Control) ในระบบคริปโต ผู็ใช้สามารถถือ Private Key ซึ่งเป็นกุญแจสําคัญในการเข้าถึงเหรียญคริปโต Wallet นั้นหมายความว่า ผู้ใช้จะเป็นเจ้าของสินทรัพย์ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือผู้ดูแลบัญชีแบบดุ้งเดิม หากคุณถือ Private Key นั่นหมายความว่า “คุณเป็นเจ้าของเงินนั้น 100%” ซึ่งเพิ่มอำนาจในการบริหารจัดการทรัพย์สินได้อย่างอิสระ 7. จำนวนจำกัดและต่อต้านเงินเฟ้อ (Limited Supply and Inflation Resistance) จุดเด่นหลัก ๆ ของ Bitcoin หรือ คริปโตเคอร์เรนซีบางประเภทคือการมี “จำนวนจำกัด” ซึ่งแตกต่างจากสกุลเงินทั่วไปที่สามารถพิมพ์เพิ่มได้เรื่อย ๆ จากภาครัฐ เช่น Bitcoin มีจํานวนจํากัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีความต้องการเพิ่มขึ้น ราคาก็จะมีการเพิ่มในระยะยาว ทําไมคริปโตเคอร์เรนซีจึงเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสําหรับนักลงทุนมือใหม่ คริปโตเคอร์เรนซีอาจเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสําหรับนักลงทุนมือใหม่ เพราะด้วยลักษณะที่แตกต่างจากสินทรัพย์โดยทั่วไป เช่น หุ้น ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงในระยะเวลาอันสั้น โดยจุดเด่นของคริปโต คือ การเข้าถึงง่าย ความโปร่งใส และโอกาสในการเติบโต นอกจากนี้นักลงทุนสามารถเริ่มลงทุนจากเงินลงทุนที่อยู่ในปริมาณที่น้อย อีกทั้งตลาดคริปโตยังเปิดให้ซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ทำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการลงทุน เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยทั้งหมดนี้แล้ว หากนักลงทุนที่เป็นมือใหม่และสนใจในการในคริปโตเคอร์เรนซี การเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ ใช้งานง่าย และมีระบบที่ปลอดภัยก็เป็นปัจจัยที่สําคัญเช่นกัน หากพิจารณาถึงการลงทุนในคริปโตอย่างถี่ถ้วนแล้ว การเริ่มต้นเปิดบัญชีกับ Bitkub ไม่ใช่เรื่องที่ยาก และง่ายนิดเดียว ทาง Bitkub ได้สรุปวิธีการเปิดบัญชีที่ Bitkub เพียวแค่ไม่กี่ขั้นตอน การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีจึงไม่อยู่ไกลเกินเอื้อม ที่มา: fidelity — — — — — — — — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย— — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้- ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Why Start Investing Today? Part 4: Key Advantages of Cryptocurrency Beginners Should Know What is Cryptocurrency? Cryptocurrency, often shortened as “crypto,” is a form of digital asset that is different from normal currencies. It operates on blockchain technology, a decentralized ledger system that records and verifies transactions without the need for intermediaries like banks or governments. Popular examples of cryptocurrencies include Bitcoin (BTC), the first and most valuable digital currency by market capitalization, and Ethereum (ETH), which features a smart contract system that allows developers to build decentralized applications (DApps). What Makes Cryptocurrency Unique? 1. Decentralization Unlike traditional financial systems that rely on centralized authorities — such as central banks or regulatory bodies — cryptocurrency operates in a decentralized manner. This means that there is no central entity controlling or managing transactions or monetary policies. Blockchain enables open and trustless record-keeping, which empowers users with more financial freedom and reduces the influence of governments or large institutions. 2. Transparency and Immutability All transactions on major blockchain networks like Bitcoin and Ethereum are recorded on a public ledger. This ensures that anyone can view and verify transaction history at any time. The immutability of blockchain — meaning once data is recorded, it cannot be altered or deleted — makes the system highly transparent and trustworthy. 3. High-Level Security Crypto transactions are highly secure due to complex encryption methods based on cryptography. This makes it extremely difficult for hackers to manipulate the system or forge transactions. Moreover, cryptocurrencies rely on consensus mechanisms like Proof of Work (PoW) or Proof of Stake (PoS), which ensure that all changes in the network are verified and approved by participants before being finalized. 4. Fast and Low-Cost Transfers One of the major advantages of cryptocurrencies is the speed and affordability of transactions — especially across borders. Unlike traditional bank transfers that may take days and involve high fees, crypto transfers can be completed in minutes at a fraction of the cost, making them ideal for global transactions. 5. Financial Inclusion Cryptocurrency allows anyone with internet access and a digital wallet to participate in the global financial system, without needing a bank account. This is particularly valuable in regions with limited banking infrastructure, giving individuals the power to send, receive, and store value independently. 6. True Asset Ownership In the crypto space, users hold their own private keys, which are essential for accessing their digital assets. This means you are the true owner of your funds — unlike traditional banks, where control ultimately lies with the institution. If you own the private key, you own the assets 100%, allowing for complete control over your finances. 7. Limited Supply and Resistance to Inflation A defining characteristic of many cryptocurrencies, especially Bitcoin, is their limited supply. For example, only 21 million bitcoins will ever exist. This scarcity contrasts with fiat currencies, which governments can print endlessly. As demand rises and supply remains fixed, the value of such cryptocurrencies may appreciate over time, making them attractive as a hedge against inflation. Why Is Cryptocurrency a Good Fit for Beginner Investors? Cryptocurrency stands out from traditional assets like stocks, gold, or real estate in several ways. For new investors seeking high-return opportunities and innovation, crypto offers an accessible entry point. It’s easy to get started, requires relatively low capital, and the market operates 24/7 — no weekends or holidays — making it highly flexible for modern lifestyles. Moreover, the transparency, security, and global accessibility of crypto make it appealing for those who wants control over their investments without institutional gatekeepers. With that being said, choosing the right platform is important. Beginners should look for platforms that are reliable, user-friendly, and provide strong security features. If you’re ready to explore the world of crypto, opening an account with Bitkub is simple and straightforward. With just a few steps, you can begin your journey into the digital asset space. Investing in cryptocurrency is no longer out of reach. Source: fidelity — — — — — — — — — — — — — — — — — New to crypto? Learn the ropes with our beginner’s guide, ‘Crypto Knowledge for beginners’. When you’re ready, take the next step and start trading today at Bitkub Exchange. Click here to apply! — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: – Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. – Past Returns does not guarantee future returns/performance. — — — — — — — — — — — — — — — — — Why Start Investing Today? Part 4: Key Advantages of Cryptocurrency Beginners Should Know What is Cryptocurrency? Cryptocurrency, often shortened as “crypto,” is a form of digital asset that is different from normal currencies. It operates on blockchain technology, a decentralized ledger system that records and verifies transactions without the need for intermediaries like banks or governments. Popular examples of cryptocurrencies include Bitcoin (BTC), the first and most valuable digital currency by market capitalization, and Ethereum (ETH), which features a smart contract system that allows developers to build decentralized applications (DApps). What Makes Cryptocurrency Unique? 1. Decentralization Unlike traditional financial systems that rely on centralized authorities — such as central banks or regulatory bodies — cryptocurrency operates in a decentralized manner. This means that there is no central entity controlling or managing transactions or monetary policies. Blockchain enables open and trustless record-keeping, which empowers users with more financial freedom and reduces the influence of governments or large institutions. 2. Transparency and Immutability All transactions on major blockchain networks like Bitcoin and Ethereum are recorded on a public ledger. This ensures that anyone can view and verify transaction history at any time. The immutability of blockchain — meaning once data is recorded, it cannot be altered or deleted — makes the system highly transparent and trustworthy. 3. High-Level Security Crypto transactions are highly secure due to complex encryption methods based on cryptography. This makes it extremely difficult for hackers to manipulate the system or forge transactions. Moreover, cryptocurrencies rely on consensus mechanisms like Proof of Work (PoW) or Proof of Stake (PoS), which ensure that all changes in the network are verified and approved by participants before being finalized. 4. Fast and Low-Cost Transfers One of the major advantages of cryptocurrencies is the speed and affordability of transactions — especially across borders. Unlike traditional bank transfers that may take days and involve high fees, crypto transfers can be completed in minutes at a fraction of the cost, making them ideal for global transactions. 5. Financial Inclusion Cryptocurrency allows anyone with internet access and a digital wallet to participate in the global financial system, without needing a bank account. This is particularly valuable in regions with limited banking infrastructure, giving individuals the power to send, receive, and store value independently. 6. True Asset Ownership In the crypto space, users hold their own private keys, which are essential for accessing their digital assets. This means you are the true owner of your funds — unlike traditional banks, where control ultimately lies with the institution. If you own the private key, you own the assets 100%, allowing for complete control over your finances. 7. Limited Supply and Resistance to Inflation A defining characteristic of many cryptocurrencies, especially Bitcoin, is their limited supply. For example, only 21 million bitcoins will ever exist. This scarcity contrasts with fiat currencies, which governments can print endlessly. As demand rises and supply remains fixed, the value of such cryptocurrencies may appreciate over time, making them attractive as a hedge against inflation. Why Is Cryptocurrency a Good Fit for Beginner Investors? Cryptocurrency stands out from traditional assets like stocks, gold, or real estate in several ways. For new investors seeking high-return opportunities and innovation, crypto offers an accessible entry point. It’s easy to get started, requires relatively low capital, and the market operates 24/7 — no weekends or holidays — making it highly flexible for modern lifestyles. Moreover, the transparency, security, and global accessibility of crypto make it appealing for those who wants control over their investments without institutional gatekeepers. With that being said, choosing the right platform is important. Beginners should look for platforms that are reliable, user-friendly, and provide strong security features. If you’re ready to explore the world of crypto, opening an account with Bitkub is simple and straightforward. With just a few steps, you can begin your journey into the digital asset space. Investing in cryptocurrency is no longer out of reach. Source: fidelity — — — — — — — — — — — — — — — — — New to crypto? Learn the ropes with our beginner’s guide, ‘Crypto Knowledge for beginners’. When you’re ready, take the next step and start trading today at Bitkub Exchange. Click here to apply!— — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: – Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile.– Past Returns does not guarantee future returns/performance. ทำไมต้องเริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้? ตอนที่ 4 : จุดเด่นของคริปโตที่มือใหม่ควรรู้ was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

I. A Personal Note: Building Beyond Belief Hello, and welcome to the Bitkub story. Whether you’re a potential Bitkuber, a curious industry observer, or simply someone interested in the future of digital economies, I want to share a piece of our heart with you. At Bitkub, we don’t just build platforms; we build opportunities. Our mission, “Democratising Opportunities For Everyone Via Leading Innovations,” isn’t a corporate slogan; it’s the fire that fuels our every move. From our earliest days, with just a handful of us dreaming big, we’ve believed in something beyond what was readily visible. Bitkub’s journey started in 2018, in a small office with a big dream. Picture this: our co-founders, passionate and driven, working alongside just two other dedicated individuals. These weren’t just employees; they were pioneers, the first believers in a vision that many thought was too ambitious. This small but determined team laid the groundwork for Bitkub’s success, overcoming challenges and shaping the company into what it is today. Early Bitkub Team: The foundation of our innovation. The early days were filled with late nights, brainstorming sessions, and the unwavering determination to turn our vision into reality. We’d just secured our digital assets exchange license, which was a huge win. But then, the real race began. We had a deadline — just three weeks — to turn our vision into a real, functioning exchange. Three weeks to build something that usually takes months. Imagine that: coding, designing, testing, all while barely sleeping. We were running on caffeine and pure adrenaline. That’s the spirit that got us here. And today, as we celebrate 1,000 Bitkubers, our belief feels more real than ever. This milestone, and our entire journey, is fueled by our commitment to ‘believe and beyond,’ a driving force that motivates us to establish a robust digital economic infrastructure and bridge the gap between the traditional and digital worlds. It’s a journey we’re still very much on, and one we invite you to be a part of it. Bitkub’s 1000th Bitkuber: Celebrating a major milestone. II. The Bitkub Growth Story: From 2 to 1,000 Our journey has been nothing short of extraordinary. We’ve experienced rapid growth, fueled by strategic decisions and an unwavering commitment to our mission. Central to this growth is our focus on hiring “A-players.” As highlighted in our previous blog post, “Hiring A-Players,” we prioritise quality over quantity. Bitkub A-players Definition: Guiding Principles for our hiring process. When we say “A-player,” we mean someone who ticks three boxes: skill set, cultural fit, and potential. — Skill Set: Obviously, you’ve got to know your stuff. We’re building complex systems, dealing with cutting-edge tech, and navigating a fast-paced market. We need people who can hit the ground running and make impactful contributions. — Cultural Fit: This is huge for us. We need people who understand our mission, who are passionate about what we’re building, and who can work well with others. We’re looking for team players who are also self-starters, and who aren’t afraid to challenge the status quo. — Potential: We’re looking for curious people, who are quick learners, and who have the potential to grow with us. The digital landscape is constantly changing, and we need people who can adapt and evolve. We’ve made calculated leaps, not blind gambles. We’ve built, brick by digital brick, always with the end goal of a truly accessible digital economy in mind. III. The Power of Bitkubers: Diversity and Excellence What truly sets Bitkub apart is our people — our Bitkubers. We are a diverse team, bringing together a wide range of backgrounds, perspectives, and skills. This diversity is our strength. It allows us to approach challenges from multiple angles and foster a culture of innovation and collaboration. Bitkubers’ Unique Job Positions Bitkub’s unique job positions across teams, with position counts indicated. Our Bitkubers are innovators, problem-solvers, and pioneers. They are the driving force behind our success, the architects of our digital future. From our talented developers who build and maintain our cutting-edge platform to our dedicated customer support team who ensure a seamless user experience, every Bitkuber plays a vital role in our journey. A prime example of our team’s capabilities is the Bitkub Summit. Organised from scratch in just two months, this 22,000+ participants event, which was out of our normal area of expertise, was a resounding success, showcasing the remarkable talent and dedication of our Bitkubers. That wasn’t just planning; it was the power of a team working together, each bringing their unique skills and perspectives to the table. We trust our people, empower them, and give them the space to innovate. This is the heart of Bitkub, and it’s what drives our success. Bitkub Summit: A testament to our team’s rapid execution. As detailed in our “Culture at Bitkub” blog post, we believe in empowering our team and providing them with the resources and support they need to excel. This culture of excellence is what allows us to achieve great things in such short periods. IV. Envisioning the Future: Our Ambitious Goals We believe that technology has the power to democratise opportunities. — We’re building companies that are legendary and worthy of people’s time. — We’re establishing the most trusted and innovative future financial platform in the region. — We’re constructing the foundational infrastructure to lead Thailand’s national blockchain ecosystem. — We’re developing an accessible, open education platform that prepares individuals for the new world. — We’re empowering individuals and enterprises to unlock their full potential through cutting-edge technologies. — We’re strategically cultivating special companies that generate a profound and positive impact on people’s lives. The growing Bitkuber team will play a crucial role in achieving these ambitious visions and goals. We’re committed to investing in our people, providing them with opportunities for professional growth and development, and empowering them to become leaders in their respective fields. We’re also committed to fostering a culture of innovation, encouraging our Bitkubers to explore new ideas, challenge the status quo, and push the boundaries of what’s possible. And we’re always looking for new talent to join us on this journey. V. A Personal Invitation: Join Us in Building the Future To commemorate this significant milestone, we’ve held internal celebrations, recognising the hard work and dedication of our Bitkubers. This achievement is a collective one, and we are incredibly grateful to every member of our team. We also extend our sincere appreciation to our customers, partners, and the wider community for their unwavering support. Whether you’re looking for a challenging and rewarding career, a partnership opportunity, or simply a chance to be part of something bigger than yourself, Bitkub is the place for you. We’re looking for passionate, driven individuals who share our vision and are ready to make a difference. Follow our progress and be a part of the Bitkub story. To our new Bitkubers, welcome aboard. To those considering joining us, we’d love to have you. And to everyone else, thank you for being a part of our story. We’re building the future of digital economies, and we’re doing it together. Let’s “believe and beyond.” Topp Jirayut Srupsrisopa Founder and Group CEO of Bitkub Capital Group Holdings Co., Ltd. 1,000 Bitkubers: Democratising Opportunities, Together was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.

Spectral (SPEC) คืออะไร? Spectral คือ โปรโตคอลแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่ได้ทําการรวมตัวแทนอัตโนมัติบนเชน (Autonomous Onchain Agents) เข้ากับระบบนิเวศของ Web3 และแก่นหลักคือการนำเทคโนโลยี AI และ machine learning มาใช้สร้างตัวแทนอัจฉริยะเหล่านี้ ซึ่งจะสามารถทํางานได้อย่างอัตโนมัติภายในบล็อกเชน และแนวทางนี้จะถูกใช้ผ่านผลิตภัณฑ์หลักของแพลตฟอร์มในชื่อว่า Spectral Syntax ซึ่งจะสามรถแปลงจากภาษาที่ธรรมดาไปเป็นโค้ด Solidity ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยลดข้อจำกัดในการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ ซึ่งส่งผลให้ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้เชี่ยวชาญสามารถสร้าง dApps ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น โปรโตคอลของ Spectral จะเป็นนวัตกรรมใหม่ด้านการประมวงผล การสื่อสาร และการเป็นเจ้าของที่เรียกว่า Inferchain ซึ่งช่วยในการทําธุรกรรมและการสื่อสารได้อย่างราบรื่นบนบล็อกเชน และสามารถดําเนินการได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย เทคโนโลยีของ Spectral ทํางานอย่างไร หลักการหลัก ๆ ของการทํางานของ Spectral คือการรวม Artifical Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) ให้เข้ากับการทํางานของบล็อกเชน เพื่อทําให้เกิดระบบที่อัจฉริยะและอัตโนมัติสําหรับ smart contracts และแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) โดยหัวใจหลักของเทคโนโลยี Spectral คือ แพลตฟอร์ม Spectral Syntax ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถสร้าง “Agents” บนบล็อกเชนได้ผ่านการสั่งงานด้วยภาษาธรรมชาติ กล่าวคือ ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับบล็อกเชนโดยใช้ภาษาพูดทั่วไป แล้วระบบจะทำการแปลงคำสั่งเหล่านั้นให้เป็นโค้ด Solidity ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้เขียน smart contract บน Ethereum เครือข่าย Spectral Syntax ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมที่ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญอย่าง Orchestrator ซึ่งทำหน้าที่เป็นชั้นการสื่อสารระหว่างส่วนต่าง ๆ ของระบบ Orchestrator นี้ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างคอมโพเนนต์ต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย โปรโตคอล Inferchain ยังช่วยเสริมศักยภาพให้กับระบบด้วยการเปิดทางให้ “Agents” สามารถสื่อสารกันได้ข้ามบล็อกเชน ซึ่งช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายและขยายขอบเขตการใช้งานของ Spectral ได้อย่างมหาศาล จุดเด่นของ Spectral มีอะไรบ้าง 1. คะแนนเครดิตแบบกระจายศูนย์: แตกต่างจากระบบเครดิตแบบดั้งเดิมที่ต้องพึ่งพาสถาบันรวมศูนย์ Spectral ใช้อัลกอริธึม (algorithm) ที่โปร่งใสและเป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งประเมินคะแนนของผู้ใช้โดยอิงจากกิจกรรมบนเชนเท่านั้น 2.การรักษาตัวตนแบบไม่เปิดเผย: ผู้ใช้สามารถรักษาความเป็นนิรนามได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถแสดงโปรไฟล์เครดิตที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องความเป็นส่วนตัวของ Web3 3. ความสามารถในการผสานใช้งาน (Composability): คะแนนเครดิตของ Spectral สามารถนำไปใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์ม DeFi ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งในด้านการให้กู้ยืม ประกันภัย หรือแม้แต่ในเกม Web3 4.การวิเคราะห์ข้ามกระเป๋าเงิน (Cross-Wallet Analysis): Spectral อนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมโยงหลายกระเป๋าเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างโปรไฟล์เครดิตที่แม่นยำและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น 5.โครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรกับนักพัฒนา: Spectral มี API และ SDK ให้ใช้งาน ช่วยให้นักพัฒนาสามารถผสานระบบคะแนนเครดิตแบบตั้งโปรแกรมได้อย่างง่ายดายลงใน dApps ของตน ผู้ก่อตั้ง Spectral Sishir Varghese เป็น CEO และผู้ก่อตั้ง Spectral โดยเขาเป็นผู้ประกอบการและผู้นำด้านเทคโนโลยีในวงการบล็อกเชนและการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ในส่วนการศึกษา Varghese เคยศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย Columbia แต่ไม่มีข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับปริญญาหรือสาขาที่เขาศึกษา และยังเคยศึกษาที่ Macaulay Honors College ด้วยเช่นกัน แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับปริญญาหรือสาขาวิชาที่เขาเรียนเช่นกัน ในเส้นทางอาชีพของ Varghese ถือว่าเป็นเส้นทางอาชีพที่เต็มไปด้วยประสบการณ์จากหลากหลายด้าน จนกลายเป็นผู้นำในวงการการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) การเดินทางของเขาเริ่มต้นจากพื้นฐานในด้านสถาปัตยกรรม โดยเขาได้ฝึกฝนทักษะด้านการวิเคราะห์และการออกแบบในฐานะสถาปนิกที่บริษัท The Jerde Partnership ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2015 ถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 บทบาทนี้มอบมุมมองเฉพาะเกี่ยวกับโครงสร้างและการออกแบบระบบ ซึ่งกลายเป็นทักษะสำคัญที่เขานำมาใช้ในโลกของเทคโนโลยีบล็อกเชนในภายหลัง โทเคน SPEC คืออะไร? โทเคน SPEC จะถูกนําไปใช้ในด้านการกำกับดูแล การ Stake และการทำธุรกรรมภายในระบบนิเวศของ Spectral ผู้ถือโทเคนสามารถใช้ SPEC เพื่อมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลแพลตฟอร์ม Stake โทเคนเพื่อสนับสนุนความปลอดภัยของเครือข่าย และใช้เป็นสื่อกลางในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศของ Spectral ได้ – การกำกับดูแล (Governance): ผู้ถือโทเคน SPEC มีสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงในประเด็นสำคัญของโปรโตคอล เช่น การอัปเกรดแพลตฟอร์มหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ซึ่งมีผลโดยตรงต่อทิศทางการพัฒนาของ Spectral – การ Staking: ผู้ใช้สามารถนำโทเคน SPEC ไป staking เพื่อมีส่วนร่วมในเครือข่าย เช่น การเป็นผุ้ตรวจสอบ (Validator) ใน Spectral Nova หรือการเป็น Agent ใน Spectral Syntax ซึ่งช่วยเสริมความมั่นคงและการทำงานของระบบ – การทำธุรกรรม (Transactions): SPEC เป็นสื่อกลางหลักในการแลกเปลี่ยนและชำระค่าบริการในแพลตฟอร์ม Spectral เช่น การใช้งาน Agent ใน Spectral Syntax หรือการเข้าถึงโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงใน Spectral Nova การกระจายเหรียญของ SPEC SPEC Token Allocation — ที่มา cryptorank ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap ณ วันที่ 29 พ.ค. 2025 ระบุว่าโทเคน SPEC มี Total Supply ทั้งหมดอยู่ที่ 100,000,000 SPEC และมี Circulating supply อยู่ที่ 14,104,697 SPEC โทเคน SPEC มีการแจกจ่ายดังนี้ – 30.00% — นักลงทุน – 29.70% — Foundation Treasury – 22.00% — ทีมและผู้มีส่วนร่วม – 10.30% — Airdrop ข้อมูลน่าสนใจด้านราคาของ SPEC ข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinmarketcap เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 เหรียญ SPEC มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ที่ 18,753,294.05 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 617,108,080.18 บาท ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ เหรียญ SPEC ซื้อขายกันอยู่ที่ราคาประมาณ 1.32 ดอลลาร์ หรือประมาณ 43.75 บาทต่อ 1 SPEC โดย SPEC เคยทำราคาสูงสุด (All-time high) ที่ 18.58 ดอลลาร์ หรือประมาณ 610.07 บาท ต่อ 1 SPEC เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2024 ที่มา: coinmarketcap, iqwiki, cryptorank — — — — — — — — — — — — — — — — — หากคุณยังเป็นมือใหม่ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความ “แหล่งความรู้ มือใหม่หัดเทรดคริปโต เริ่มต้นที่นี่” แล้วมาเริ่มต้นเทรดได้วันนี้ที่ Bitkub Exchange → คลิกสมัครเลย — — — — — — — — — — — — — — — — — คำเตือน: - คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ - ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต — — — — — — — — — — — — — — — — — Get To Know Spectral — AI Protocol on blockchain that changes Web3 to become smarter and accessible What is Spectral (SPEC)? Spectral is a decentralized protocol that assembles the Autonomous Onchain Agents with the Web3 ecosystem. At its core, it leverages AI and machine learning technologies to create these intelligent agents, which can operate autonomously on the blockchain. This approach is implemented through the platform’s main product called Spectral Syntax, which automatically translates natural language into Solidity code. This greatly reduces the barriers to developing decentralized applications (dApps), making it easier for both beginners and experts to build on-chain applications. Spectral’s protocol introduces a new innovation in processing, communication, and ownership called Inferchain, which enables smooth transactions and communication on the blockchain while maintaining a high level of security. How does Spectral’s technology work? The core behind Spectral’s technology is the integration of Artificial Intelligence (AI) and Machine Learning (ML) with blockchain functionality. This enables the creation of intelligent and automated systems for smart contracts and decentralized applications (dApps). At the heart of Spectral’s technology is the Spectral Syntax platform, which allows users to create “Agents” on the blockchain using natural language commands. In other words, users can interact with the blockchain using everyday language, and the system will convert those commands into Solidity code, the programming language used for writing smart contracts on Ethereum. The Spectral Syntax network is built on an architecture that includes a key component called the Orchestrator, which acts as the communication layer between different parts of the system. This Orchestrator ensures smooth, efficient, and secure collaboration among components. Additionally, the Inferchain protocol enhances the system’s capabilities by enabling Agents to communicate across different blockchains, thereby facilitating cross-network collaboration and significantly expanding the utility and reach of Spectral. What are Spectral’s Unique Features? 1.Decentralized Credit Scoring: Unlike traditional credit systems that rely on centralized institutions, Spectral uses transparent and open-source algorithms that assess users’ scores based solely on on-chain activity. 2.Privacy-Preserving Identity: Users can remain anonymous while still presenting a trustworthy credit profile — aligning with Web3’s privacy-first principles. 3.Composability: Spectral’s credit scores can be seamlessly integrated with various DeFi platforms, whether for lending, insurance, or even Web3 gaming. 4.Cross-Wallet Analysis: Spectral allows users to link multiple wallets together to create a more accurate and comprehensive credit profile. 5.Developer-Friendly Infrastructure: Spectral provides APIs and SDKs that make it easy for developers to integrate programmable credit scoring systems into their dApps. Spectral’s Founder Sishir Varghese is the CEO and founder of Spectral. He is an entrepreneur and a technology leader in the blockchain and decentralized finance (DeFi) space. In terms of education, Varghese studied at Columbia University, though there is no specific information available about his degree or field of study. He also attended Macaulay Honors College, but again, details about his degree or major remain undisclosed. Varghese’s career path is marked by diverse experiences, shaping him into a leader in the DeFi space. His journey began with a foundation in architecture. From October 2015 to November 2017, he worked as an architect at The Jerde Partnership, where he developed skills in analysis and design. This role gave him a unique perspective on structure and systems — skills that later proved invaluable in the blockchain technology world. What is SPEC token? The SPEC token is used for governance, staking, and transactions within the Spectral ecosystem. Token holders can use SPEC to participate in platform governance, stake tokens to help secure the network, and use it as a medium of exchange for various activities within the Spectral ecosystem. – Governance: SPEC token holders have the right to vote on key protocol matters, such as platform upgrades or policy changes, which directly influence the development and direction of Spectral. – Staking: Users can stake their SPEC tokens to participate in the network — for example, by becoming a Validator in Spectral Nova or acting as an Agent in Spectral Syntax. This helps enhance the system’s security and performance. – Transactions: SPEC serves as the primary medium of exchange for paying for services on the Spectral platform, such as using Agents in Spectral Syntax or accessing machine learning models in Spectral Nova. SPEC Token Distribution According to the CoinMarketCap (as of May 29, 2025), the total supply of SPEC tokens is 100,000,000 SPEC, with a circulating supply of 14,104,697 SPEC. The token allocation is as follows: – 30.00% — Investores – 29.70% — Foundation Treasury – 22.00% — Team & Contributors – 10.30% — Airdrop + MM Interesting Information Regarding SPEC Price According to data from the CoinMarketCap website on May 29, 2025, the SPEC coin has a market capitalization (Market cap) of USD18,753,294.05 or THB 617,108,080.18. At the time of writing this article, the SPEC coin is trading at approximately $1.32 or about 43.75 THB per 1 SPEC. SPEC reached its all-time high price of $18.58 or approximately 610.07 THB per 1 SPEC on November 30, 2024. Sources: coinmarketcap, iqwiki, cryptorank — — — — — — — — — — — — — — — — — New to crypto? Learn the ropes with our beginner’s guide, ‘Crypto Knowledge for beginners’. When you’re ready, take the next step and start trading today at Bitkub Exchange. Click here to apply! — — — — — — — — — — — — — — — — — Disclaimer: – Cryptocurrency and digital tokens involve high risks; investors may lose all investment money and should study information carefully and make investments according to their own risk profile. – Past Returns does not guarantee future returns/performance ทําความรู้จัก SPEC (Spectral) โปรโตคอล AI บนบล็อกเชนที่เปลี่ยน Web3 ให้ฉลาดและเข้าถึงง่ายขึ้น was originally published in Bitkub.com on Medium, where people are continuing the conversation by highlighting and responding to this story.