บทความ
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ กับอนาคตวงการ Crypto!
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยี Cryptocurrency และ Blockchain กลายเป็นที่ถูกพูดถึงกันกว้างขวาง ทั้งบุคคลทั่วไป องค์กร บริษัท ไปจนถึงระดับรัฐบาล ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีที่สามารถปลดล็อกขีดจำกัดและยกระดับการเงินขึ้นไปอีกขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ Digital Disruption
เหตุผลใดที่ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นที่น่าสนใจ เราลองมาดูความคิดเห็นของผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการกันเถอะ!
Blockchain คือเทคโนโลยีที่ให้ความโปร่งใส
Brock Pierce ผู้ร่วมก่อตั้ง Block.one, EOS รวมถึง Tether ได้ให้มุมมองระยะยาวของเทคโนโลยี Cryptocurrency และ Blockchain กับเว็บไซต์ Business Insider
โดยกล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่มูลค่าตลาดรวม (Marketcap) ของ Bitcoin ทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลาร์สหรัฐฯ ผมมีมุมมองเชิงบวกอย่างมากกับโอกาสเติบโตของเทคโนโลยีนี้ ซึ่งผมมองว่า จุดบกพร่องของระบบการเงินสหรัฐฯ อย่างการพิมพ์เงินมากเกิน หรืออัดฉีดบ่อยเกินไป เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้คนเริ่มสนใจ Bitcoin และ Cryptocurrency
สำหรับผม จุดที่น่าสนใจที่สุดสำหรับ Cryptocurrency อยู่ที่ Blockchain ที่เป็นสมุดบัญชีสาธารณะ ซึ่งทุกธุรกรรมของคริปโตจะถูกบันทึกลงในบล็อกเชน ทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แต่แก้ไขไม่ได้ บล็อกเชนจึงมีความโปร่งใส ถ้าคุณยังไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับคริปโตหรือบล็อกเชน ผมแนะนำให้คุณลองศึกษาดูนะ”
Bitcoin เปรียบเสมือนทองคำดิจิทัล
Joey Krug Co-chief investment officer แห่ง Pantera Capital กองทุนเฮดจ์ฟันด์ในสหรัฐฯที่เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในคริปโต ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับเว็บไซต์ Business Insider เช่นกัน โดยกล่าวว่า
“สาเหตุที่วัยรุ่นสหรัฐฯหันมาลงทุนใน Bitcoin เนื่องจากพวกเขามองว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯพิมพ์เงินออกมาเพิ่มนับล้านล้านดอลลาร์ จะเป็นตัวทำให้มูลค่าของเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และอีกเหตุผลคือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลนี้ ทำให้วัยรุ่นเลือกถือ Bitcoin กันมากกว่าทองคำเสียอีก”
นอกจากนี้ Joey Krug ยังได้ให้คำแนะนำกับนักลงทุนมือใหม่ในตลาดคริปโตว่า
“ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงมาก ราคา Bitcoin อาจร่วงได้ถึง 70% ภายในวันเดียว และมันก็อาจขึ้นได้มากกว่านั้นภายในวันเดียวเช่นกัน สิ่งสำคัญคือการจัดสรรเงินลงทุนในสัดส่วนที่คุณจะไม่กังวลกับความผันผวนของราคาในระยะสั้น และท่องไว้เสมอว่าการลงทุนใน Bitcoin หรือ Cryptocurrency เป็นการลงทุนในระยะยาว”
Lucy Gazmararian ผู้ก่อตั้ง Token Bay Capital บริษัทด้านลงทุนที่คอยสนับสนุนเงินทุนให้กับบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Cryptocurrency และ Blockchain ได้อธิบายถึงความน่าสนใจของ Bitcoin กับ Business Insider โดยกล่าวว่า
“ปัจจุบัน Bitcoin เปรียบเสมือน ทองคำดิจิทัล เนื่องจากมันมีจำนวนจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ และเมื่อพิจารณาข่าวที่บรรดาสถาบันหรือบริษัทต่าง ๆ พากันเข้าซื้อ Bitcoin เพื่อถือเป็นสินทรัพย์สำรองที่มีมาให้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ ฉันจึงเชื่อว่าในอีก 5 หรือ 10 ปีข้างหน้า Bitcoin จะกลายเป็นสินทรัพย์สำรองอย่างเป็นทางการในระดับโลก
ระบบนิเวศของ Blockchain และ Cryptocurrency
Primavera De Filippi, จากสถาบัน Berkman Klein Center for Internet and Society และหนึ่งในผู้เขียนหนังสือ “Blockchain and the Law: The Rule of Code” ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทาง The Harvard Gazette เกี่ยวกับอนาคตของคริปโตไว้ดังนี้
“ระบบนิเวศของ Blockchain และ Cryptocurrency กำลังอยู่ในช่วงเติบโตและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ก็มีสิ่งที่ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้ (Store of Value) เหมือนกับทองคำอย่าง Bitcoin
หรือ Ethereum กับสินทรัพย์ประเภท NFTs (Non-fungible Token) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ในฐานะเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Digital scarcity หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีจำกัด ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในยุคดิจิทัลเช่นนี้
เรากำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาและค่อย ๆ ทำความเข้าใจเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งมันอาจมีวิวัฒนาการไปในทางที่เราคาดไม่ถึง แต่ที่สิ่งชัดเจนแล้วคือเทคโนโลยีเหล่านี้จะคงอยู่ต่อไปในระยะยาว”
ข้อควรระวังกับการลงทุนในคริปโต
Jim Bianco ประธานของ Bianco Research สถาบันวิจัยการเงินที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ให้ความเห็นกับสำนักข่าว CNBC เกี่ยวกับอนาคตของ Cryptocurrency ไว้ดังนี้
“ในระยะยาว ผมมองว่ามูลค่าของเหรียญเหล่านี้จะสูงขึ้น แต่ก่อนอื่นคุณต้องรับความผันผวนของราคาที่อาจเกิดขึ้นอีกในอีกไม่กี่เดือน หรือไม่กี่ปีข้างหน้า
สิ่งที่ให้ทำราคาของ Cryptocurrency ผันผวน เป็นเพราะการเก็งกำไรในตลาดที่ไม่มีการควบคุมใด ๆ ราคาจึงมีโอกาสที่จะลดลงได้ถึง 70% ภายในเพียงเวลาไม่กี่วัน”
Jim Bianco เชื่อว่า Cryptocurrency ประสบความสำเร็จในการผลิกโฉมวงการการเงินแล้ว แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในภาวะรอการเปิดรับจากสังคม (Adoption) ที่กว้างกว่านี้ เมื่อผ่านพ้นภาวะนี้ไปได้ และเริ่มมีการปรับใช้กับเศรษฐกิจโลกจริง มูลค่าของมันจะสูงกว่านี้มาก”
James Ledbetter บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ FIN ที่เน้นนำเสนอสาระเกี่ยวกับ Fintech ได้กล่าวแนะนำนักลงทุนมือใหม่ในตลาดคริปโตว่า
“การลงทุนในตลาดคริปโตมีความไม่แน่นอนสูง จึงไม่ควรเข้ามาในตลาดโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่ราคาจะลดลงได้ในชั่วข้ามคืน และไม่ควรใช้เงินที่ไม่สามารถเสียได้เข้ามาลงทุน”
สรุป
จากความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ยกตัวอย่างมานี้ จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Cryptocurrency และ Blockchain ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกผสานเข้ากับเศรษฐกิจโลกอย่างเต็มตัวเมื่อไหร่
นอกจากนี้ ตลาด Cryptocurrency ถือว่ามีความผันผวนสูงมาก มูลค่าของมันอาจลดลงหรือขึ้นสูงอย่างรุนแรงเพียงชั่วข้ามคืน เนื่องจากยังเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างใหม่ และมีการเก็งกำไรในตลาดสูงมาก ดังนั้น การลงทุนด้วยเงินที่สามารถเสียไปได้ หรือเงินเย็น จึงเป็นทางเลือกที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนเข้ามาในตลาด
*เนื้อหาด้านบน เป็นการแปลบทความจากเว็บไซต์ต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือ โดยนำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อความกระชับ และเพื่อให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุน
อ้างอิง
Four experts told us their long-term predictions for bitcoin — Business Insider
Taking the crypto out of digital currency — The Harvard Gazette
ที่มา:
Medium